รายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ

ข่าวการเมือง Tuesday May 26, 2020 19:20 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ ช่วงระหว่างวันที่ 11-15 พฤษภาคม 2563 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้

สาระสำคัญ

รัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังโดย สคร. มีจำนวน 56 แห่ง โดยผลสัมฤทธิ์ฯ ในสัปดาห์ช่วงระหว่างวันที่ 11-15 พฤษภาคม 2563 ของรัฐวิสาหกิจ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

1. การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ (ปฏิบัติงานที่บ้านหรือที่พักหรือสถานที่ตามที่รัฐวิสาหกิจกำหนด)

รัฐวิสาหกิจ 51 แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งและมีรัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง ได้แก่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด โรงพิมพ์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และองค์การสุรา กรมสรรพสามิต ที่ให้พนักงานกลับมาปฏิบัติงานในสถานที่ตั้งตามปกติแล้ว และจากจำนวนพนักงานและลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจทั้งหมดจำนวน 294,955 คน มีพนักงานและลูกจ้างปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง จำนวน 79,080 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 27

2. การปฏิบัติงาน ณ สถานที่ตั้งของรัฐวิสาหกิจ

รัฐวิสาหกิจ 32 แห่ง ยังคงดำเนินนโยบายการปฏิบัติงานเหลื่อมเวลา โดยมีช่วงเวลาเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา 6.00 น. – 10.30 น.

3. แนวทางการบริหารงานของรัฐวิสาหกิจ

กรณีที่รัฐวิสาหกิจมีนโยบายการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง รัฐวิสาหกิจมีการติดตามผลการปฏิบัติงานเป็นรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทของงาน โดยรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่มีการกำกับติดตามและบริหารผลการปฏิบัติงานเป็นรายวัน ผ่านแอปพลิเคชัน Line ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบการติดตามงานและการลงเวลาปฏิบัติงานที่องค์กรพัฒนาขึ้นเอง โดยมีการใช้แอปพลิเคชัน Line มาสนับสนุนการปฏิบัติงานมากที่สุด ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจมีข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งว่า ควรเตรียมอุปกรณ์และระบบเพื่อรองรับการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งให้เพียงพอ และควรพัฒนาระบบการปฏิบัติงานขององค์กรให้สามารถรองรับการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งได้ ซึ่งรวมถึงควรให้มีการจัดเก็บข้อมูลหรือเอกสารให้อยู่ในรูปแบบของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 พฤษภาคม 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ