การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 13

ข่าวการเมือง Wednesday July 8, 2020 16:52 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการต่อร่างเอกสาร “ความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นเพื่อการบรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอย่างบูรณาการ ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 13 และหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างเอกสารดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยไม่ต้องนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง พร้อมอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 13 และเป็นผู้ร่วมให้การรับรองร่างเอกสารดังกล่าว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ

สาระสำคัญของร่างเอกสาร “ความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นเพื่อการบรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอย่างบูรณาการ” ย้ำความสำคัญของการพัฒนาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเพื่อรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และโรคระบาดในอนาคต โดยตั้งเป้าหมายให้ประเทศสมาชิกบรรลุการมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าภายใน ค.ศ. 2030 พร้อมชื่นชมความคืบหน้าของการดำเนินการในเรื่องนี้ และแสดงความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันแลกเปลี่ยนข้อมูล นโยบาย การวิจัยและพัฒนาวัคซีนและเวชภัณฑ์ การพัฒนาระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยญี่ปุ่นเสนอให้เงินช่วยเหลือทางเทคนิคและการจัดการหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่ประเทศลุ่มน้ำโขงเป็นจำนวน 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประเทศสมาชิกจะร่วมมือกันรักษาห่วงโซ่การผลิต เปิดตลาดและเส้นทางคมนาคมขนส่ง รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร สอดคล้องตามกฎระเบียบขององค์การการค้าโลกเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุน การส่งเสริมความโปร่งใสและความยั่งยืนของแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ดำเนินโครงการต่าง ๆ โดยประเทศสมาชิกแสดงความชื่นชมญี่ปุ่นที่ได้จัดตั้งโครงการเงินกู้เพื่อสนับสนุนการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 Crisis Response Emergency Support Loan) จำนวนเงินประมาณ 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า รวมทั้งข้อริเริ่มเงินกู้และการลงทุนสำหรับอาเซียน (Overseas Loan and Investment for ASEAN) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาโครงการสร้างพื้นฐาน สนับสนุนสตรีและธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก และการลงทุนโครงการเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 กรกฎาคม 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ