รายงานสภาพการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานในราชการพลเรือนในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

ข่าวการเมือง Tuesday September 1, 2020 18:58 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสภาพการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานในราชการพลเรือนในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จำนวน 2 เรื่อง ตามที่สำนักงาน ก.พ.เสนอ

สำนักงานกพ. รายงานว่า ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 มีมติให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเร่งรัดการดำเนินการจ้างงานในกิจกรรม/โครงการต่าง ๆ ในความรับผิดชอบเพื่อรองรับแรงงานที่ว่างงานจำนวนมาก เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นั้น เพื่ออนุวัติให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว สำนักงาน ก.พ. ได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานบุคลากรภาครัฐในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และบรรเทาสถานการณ์การว่างงานภายในประเทศของผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฯ ซึ่งมีแนวโน้มของผู้ว่างงานเพิ่มสูงขึ้น ทั้งผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาและอยู่ระหว่างหางานทำ ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานและ/หรือผู้ที่ถูกเลิกจ้างงานจากภาคส่วนอื่น จึงจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบและสั่งการตามที่เห็นสมควรต่อไป

ผลการดำเนินการของสำนักงาน ก.พ.

เรื่องที่ 1 เรื่อง รายงานสรุปเรื่องการดำเนินการสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.)

ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 สำนักงาน ก.พ. ได้วางแผนและเตรียมการจัดสอบภาค ก. ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนแรกของการประเมินความเหมาะสมของบุคคลเพื่อเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ซึ่งมีผู้สนใจสมัครสอบ จำนวน 500,000 คน และจะจัดดำเนินการสอบ ในวันที่ 27 กันยายน 2563 ณ ศูนย์สอบทั่วประเทศ 15 แห่ง โดยสำนักงาน ก.พ ได้คำนึงถึงการจัดระบบการสอบให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ด้วยแล้ว รวมทั้งจัดให้มีการสอบด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระหว่างวันที่ 18-22 กันยายน 2563 ณ ศูนย์สอบทั่วประเทศ 9 แห่ง ซึ่งมีผู้สมัครสอบ จำนวน 21,723 คน รวมผู้สมัครสอบภาค ก. ทั้งสิ้น 521,723 คน นอกจากนี้ ยังได้เตรียมแผนดำเนินการสอบเพิ่มเติมสำหรับผู้สมัครสอบภาค ก. ซึ่งยังไม่สามารถชำระเงินได้เนื่องจากที่นั่งสอบเต็ม จำนวน 95,610 คน โดยคาดว่าจะดำเนินการจัดสอบให้กับผู้สมัครสอบที่เหลืออยู่ดังกล่าวได้ประมาณเดือนมกราคม 2564

อย่างไรก็ดี กรณีที่ส่วนราชการมีอัตราว่างและประสงค์จะสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นการเฉพาะ สามารถดำเนินการสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) และ/หรือการสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) โดยรับสมัครจากผู้ที่ยังไม่มีผลการสอบภาค ก. ก่อนได้และเมื่อดำเนินการสอบภาค ข. และภาค ค. แล้วเสร็จ สำนักงาน ก.พ. จะจัดสอบภาค ก. พิเศษ ให้แก่ส่วนราชการ เพื่อจะได้ดำเนินการประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้และบรรจุเข้ารับราชการต่อไป ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สนับสนุนการจ้างงานของส่วนราชการให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

เรื่องที่ 2 แนวทางเพิ่มโอกาสการจ้างงานผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19) ด้วยระบบพนักงานราชการ

ปัจจุบันภาครัฐมีรูปแบบการจ้างงานแบบสัญญาจ้างที่หลากหลาย ทั้งการจ้างลูกจ้างชั่วคราวพนักงานกองทุนตามระเบียบกระทรวงการคลัง หรือการจ้างพนักงานตามระเบียบของส่วนราชการ เช่น พนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) พนักงานจ้างของท้องถิ่น และพนักงานมหาวิทยาลัย เป็นต้น โดยระบบพนักงานราชการเป็นการจ้างงานแบบสัญญาจ้างอีกรูปแบบหนึ่งตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547 ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงความทันการณ์ของการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผ่านกลไกการจ้างงาน อีกทั้งการสนับสนุนให้ส่วนราชการสามารถบริหารจัดการเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานตามความจำเป็นของภารกิจได้ โดยไม่มีผลผูกพันค่าใช้จ่ายระยะยาวแล้ว คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ (คพร.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2563 จึงมีมติเห็นชอบแนวทางการเพิ่มโอกาสให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19) ด้วยระบบพนักงานราชการ เพื่อช่วยบรรเทาสภาวะเศรษฐกิจ การว่างานภายในประเทศ เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการจ้างงานให้กลุ่มผู้สำเร็จการศึกษาและอยู่ระหว่างการหางานทำ ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงาน และหรือผู้ที่ถูกเลิกจ้างจากภาคส่วนอื่นมีโอกาสได้รับการจ้างงานและสั่งสมประสบการณ์การทำงานในหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งเพื่อให้ส่วนราชการได้สรรหาบุคลากรคุณภาพเพื่อปฏิบัติภารกิจที่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาล ภารกิจตามยุทธศาสตร์ หรือภารกิจสำคัญอื่นของส่วนราชการ โดยมีหลักการสำคัญ คือ ไม่ใช่การจ้างงานประจำ เป็นการจ้างงานระยะสั้น และบรรจุบุคคลเข้าปฏิบัติงานให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ คพร.จะพิจารณาจัดสรรกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการเป็นกรณีพิเศษให้แก่ส่วนราชการเพื่อจ้างพนักงานราชการได้ไม่เกิน 2 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564-2565) เน้นการกระจายการจ้างงานลงสู่ระดับพื้นที่ ตลอดจนกำหนดรูปแบบการจ้าง อัตราค่าตอบแทน วิธีการสรรหาและการบริหารการจ้างป็นการเฉพาะ เพื่อให้ส่วนราชการดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว คล่องตัว และมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ การดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการจ้างงานพนักงานราชการและจัดสรรให้แก่ส่วนราชการตามความจำเป็น โดยอาจพิจารณานำเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ส่วนราชการได้รับจัดสรรมาใช้ หรือขอรับการสนับสนุนเงินกู้จากรัฐบาลเพื่อดำเนินการเป็นการเฉพาะ นอกจากนี้ ในการบริหารงานพนักงานราชการให้นำแนวทางการให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการกรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD- 19) มาใช้ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น คล่องตัว และสอดคล้องกับสถานการณ์ โดยไม่ส่งผลกระทบหรือเกิดผลเสียหาย ต่อประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน และการให้บริการประชาชน

บทสรุป

สำนักงาน ก.พ. คาดว่าการดำเนินการทั้งสองเรื่องดังกล่าวจะช่วยบรรเทาสภาพการณ์ว่างงานภายในประเทศ โดยบรรจุบุคคลเข้ารับราชการประจำ ทั้งจากผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการว่างงาน/เลิกจ้างงาน ซึ่งภายหลังจากการดำเนินการสอบภาค ก. ในช่วงเดือนกันยายน 2563 จำนวน 521,723 คน แล้ว ส่วนราชการสามารถดำเนินการจัดสอบภาค ข. และภาค ค. เพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการได้ ซึ่งจะมีตำแหน่งว่างรองรับการจ้างงานประกอบด้วย อัตราข้าราชการตั้งใหม่ที่ส่วนราชการได้รับการจัดสรรในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562-2563 ที่ยังไม่ได้บรรจุจำนวนประมาณ 20,000 อัตรา และอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวนประมาณ 8,900 อัตรา หรือพิจารณาใช้รูปแบบการจ้างงานแบบสัญญาจ้างเพื่อบรรจุเป็นพนักงานราชการในอัตราว่างตามกรอบอัตรากำลังปกติ หรือกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการตามแนวทางที่ คพร. เห็นชอบสำหรับการจ้างงานระยะสั้นไม่เกิน 2 ปี ซึ่งอาจบริหารจัดการได้จำนวนประมาณ 10,000 อัตรา

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 กันยายน 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ