คณะรัฐมนตรีเห็นชอบข้อแนะนำการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 แก่ภาคเอกชนของคณะกรรมการค่าจ้าง ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
กระทรวงแรงงานรายงานว่า
1. คณะกรรมการค่าจ้างได้มีมติเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2550 เห็นชอบให้จัดทำข้อเสนอแนะนำเกี่ยวกับการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 แก่ภาคเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สถานประกอบกิจการใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาปรับค่าจ้างให้แก่พนักงานที่ทำงานเกิน 1 ปีขึ้นไป ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้มีฝีมือหรือกึ่งฝีมือมีอยู่ประมาณ 8.5 ล้านคน ในระบบประกันสังคม อยู่ในสถานประกอบกิจการประมาณ 3.8 แสนแห่งทั่วประเทศ เป็นพนักงานส่วนใหญ่ของสถานประกอบกิจการที่เป็นผู้สร้างผลิตภาพแรงงานส่วนเพิ่มให้กับสถานประกอบกิจการ จึงเป็นกลุ่มที่นายจ้างควรเอาใจใส่เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน
2. ในการพิจารณาจัดทำข้อแนะนำการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 แก่ภาคเอกชนคณะกรรมการค่าจ้างได้มีการศึกษาเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องและได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรองดำเนินการศึกษาคณะกรรมการค่าจ้างจึงได้ข้อสรุป ดังนี้
2.1 สถานประกอบกิจการส่วนใหญ่จะมีการปรับค่าจ้างให้พนักงานตามผลการปฏิบัติงานประจำปีในช่วงเดือนมกราคมและเมษายน
2.2 ข้อแนะนำการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 แก่ภาคเอกชน เป็นอัตราการปรับค่าจ้างที่ได้พิจารณาจากการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2550 อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2550 สัดส่วนต้นทุนแรงงานต่อต้นทุนรวมปี 2550 และผลิตภาพแรงงานปี 2550 โดยคณะกรรมการค่าจ้างมีมติว่า สถานประกอบกิจการควรมีการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 ให้กับพนักงานเฉลี่ยร้อยละ 4.9 สำหรับพนักงานที่มีผลงานแตกต่างกันควรได้รับการปรับค่าจ้างประจำปีในอัตราที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามอัตราการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 ของพนักงานแต่ละกลุ่มไม่ควรแตกต่างกันมากนัก เพราะจะส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของพนักงานและประสิทธิภาพในการทำงานในปี 2551 โดยสถานประกอบกิจการควรเพิ่มค่าจ้างให้แก่พนักงานในลักษณะที่จะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือที่ดีในการทำงานเพื่อเพิ่มผลิตภาพของสถานประกอบกิจการในปี 2551 ดังนั้น จึงเห็นควรที่สถานประกอบกิจการจะจัดกลุ่มพนักงานออกเป็น 3 กลุ่ม ตามระดับผลการปฏิบัติงานของพนักงานในรอบปี 2550 ดังนี้
- กลุ่มที่ 1 พนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานในรอบปีการทำงาน 2550 ระดับดีเด่น ควรได้รับการปรับค่าจ้างประจำปี2550/2551 ในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 6.9
- กลุ่มที่ 2 พนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานในรอบปีการทำงาน 2550 ระดับดี ควรได้รับการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 ในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 4.9
- กลุ่มที่ 3 พนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานในรอบปีการทำงาน 2550 ระดับปกติ ควรได้รับการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 ในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 2.9
สำหรับสถานประกอบกิจการที่มีการปรับค่าจ้างประจำปีแบบไม่ยั่งยืน กล่าวคือ เป็นสถานประกอบกิจการที่มีความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจควรมีอัตราการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 ในอัตราเกณฑ์เฉลี่ยที่ร้อยละ 4.9 หรือต่ำกว่าแต่ควรจ่ายโบนัสแทน ทั้งนี้ ควรอยู่บนพื้นฐานของผลการประกอบการของสถานประกอบกิจการและผลิตภาพของพนักงานแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ
อนึ่ง ข้อแนะนำการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 นี้ เป็นข้อแนะนำให้กับสถานประกอบกิจการได้ใช้เป็นแนวทางในการปรับค่าจ้างประจำปีให้กับพนักงาน/ลูกจ้าง ตั้งแต่เดือนมกราคม 2551 หากสถานประกอบกิจการใดได้มีการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 ไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องนำข้อแนะนำนี้ไปใช้อีก
โดยคณะกรรมการค่าจ้างคาดว่าอัตราการปรับค่าจ้างประจำปีดังกล่าวจะทำให้ช่องว่างระหว่างค่าจ้างของพนักงานในองค์กรระดับล่างและระดับสูงแคบลงจากเดิมซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้การกระจายรายได้ของประเทศเป็นไปอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 มีนาคม 2551--จบ--
กระทรวงแรงงานรายงานว่า
1. คณะกรรมการค่าจ้างได้มีมติเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2550 เห็นชอบให้จัดทำข้อเสนอแนะนำเกี่ยวกับการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 แก่ภาคเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สถานประกอบกิจการใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาปรับค่าจ้างให้แก่พนักงานที่ทำงานเกิน 1 ปีขึ้นไป ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้มีฝีมือหรือกึ่งฝีมือมีอยู่ประมาณ 8.5 ล้านคน ในระบบประกันสังคม อยู่ในสถานประกอบกิจการประมาณ 3.8 แสนแห่งทั่วประเทศ เป็นพนักงานส่วนใหญ่ของสถานประกอบกิจการที่เป็นผู้สร้างผลิตภาพแรงงานส่วนเพิ่มให้กับสถานประกอบกิจการ จึงเป็นกลุ่มที่นายจ้างควรเอาใจใส่เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน
2. ในการพิจารณาจัดทำข้อแนะนำการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 แก่ภาคเอกชนคณะกรรมการค่าจ้างได้มีการศึกษาเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องและได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรองดำเนินการศึกษาคณะกรรมการค่าจ้างจึงได้ข้อสรุป ดังนี้
2.1 สถานประกอบกิจการส่วนใหญ่จะมีการปรับค่าจ้างให้พนักงานตามผลการปฏิบัติงานประจำปีในช่วงเดือนมกราคมและเมษายน
2.2 ข้อแนะนำการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 แก่ภาคเอกชน เป็นอัตราการปรับค่าจ้างที่ได้พิจารณาจากการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2550 อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2550 สัดส่วนต้นทุนแรงงานต่อต้นทุนรวมปี 2550 และผลิตภาพแรงงานปี 2550 โดยคณะกรรมการค่าจ้างมีมติว่า สถานประกอบกิจการควรมีการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 ให้กับพนักงานเฉลี่ยร้อยละ 4.9 สำหรับพนักงานที่มีผลงานแตกต่างกันควรได้รับการปรับค่าจ้างประจำปีในอัตราที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามอัตราการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 ของพนักงานแต่ละกลุ่มไม่ควรแตกต่างกันมากนัก เพราะจะส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของพนักงานและประสิทธิภาพในการทำงานในปี 2551 โดยสถานประกอบกิจการควรเพิ่มค่าจ้างให้แก่พนักงานในลักษณะที่จะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือที่ดีในการทำงานเพื่อเพิ่มผลิตภาพของสถานประกอบกิจการในปี 2551 ดังนั้น จึงเห็นควรที่สถานประกอบกิจการจะจัดกลุ่มพนักงานออกเป็น 3 กลุ่ม ตามระดับผลการปฏิบัติงานของพนักงานในรอบปี 2550 ดังนี้
- กลุ่มที่ 1 พนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานในรอบปีการทำงาน 2550 ระดับดีเด่น ควรได้รับการปรับค่าจ้างประจำปี2550/2551 ในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 6.9
- กลุ่มที่ 2 พนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานในรอบปีการทำงาน 2550 ระดับดี ควรได้รับการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 ในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 4.9
- กลุ่มที่ 3 พนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานในรอบปีการทำงาน 2550 ระดับปกติ ควรได้รับการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 ในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 2.9
สำหรับสถานประกอบกิจการที่มีการปรับค่าจ้างประจำปีแบบไม่ยั่งยืน กล่าวคือ เป็นสถานประกอบกิจการที่มีความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจควรมีอัตราการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 ในอัตราเกณฑ์เฉลี่ยที่ร้อยละ 4.9 หรือต่ำกว่าแต่ควรจ่ายโบนัสแทน ทั้งนี้ ควรอยู่บนพื้นฐานของผลการประกอบการของสถานประกอบกิจการและผลิตภาพของพนักงานแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ
อนึ่ง ข้อแนะนำการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 นี้ เป็นข้อแนะนำให้กับสถานประกอบกิจการได้ใช้เป็นแนวทางในการปรับค่าจ้างประจำปีให้กับพนักงาน/ลูกจ้าง ตั้งแต่เดือนมกราคม 2551 หากสถานประกอบกิจการใดได้มีการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 ไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องนำข้อแนะนำนี้ไปใช้อีก
โดยคณะกรรมการค่าจ้างคาดว่าอัตราการปรับค่าจ้างประจำปีดังกล่าวจะทำให้ช่องว่างระหว่างค่าจ้างของพนักงานในองค์กรระดับล่างและระดับสูงแคบลงจากเดิมซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้การกระจายรายได้ของประเทศเป็นไปอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 มีนาคม 2551--จบ--