คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (กำหนดอุปกรณ์เพื่อช่วยในการแสดงสัญญาณจราจร และกำหนดข้อสันนิษฐานกรณีผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันควร) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
กระทรวงยุติธรรมเสนอว่า ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมนี้ เป็นการส่งเสริมให้การป้องกันการเกิดอุบัติเหตุเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความปลอดภัยในท้องถนนมากยิ่งขึ้น โดยสอดคล้องกับนโยบายการบริหารจัดการที่ดี ด้านกฎหมายและการยุติธรรมที่คณะรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภา จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
โดยสาระสำคัญของร่างกฎหมายมีดังนี้
1. กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่จะใช้ไฟฉายเรืองแสงหรืออุปกรณ์เรืองแสงอื่นในการแสดงสัญญาณจราจรได้ (เพิ่มวรรคสามของมาตรา 24 (ร่างมาตรา 3))
2. กำหนดให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ว่าหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ หรือเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น และให้มีอำนาจกักตัวผู้ขับขี่ที่มีพฤติการณ์ดังกล่าวและไม่ยอมให้ทดสอบ และหากไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น (แก้ไขมาตรา 142 (ร่างมาตรา 4))
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 พฤษภาคม 2551--จบ--
กระทรวงยุติธรรมเสนอว่า ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมนี้ เป็นการส่งเสริมให้การป้องกันการเกิดอุบัติเหตุเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความปลอดภัยในท้องถนนมากยิ่งขึ้น โดยสอดคล้องกับนโยบายการบริหารจัดการที่ดี ด้านกฎหมายและการยุติธรรมที่คณะรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภา จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
โดยสาระสำคัญของร่างกฎหมายมีดังนี้
1. กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่จะใช้ไฟฉายเรืองแสงหรืออุปกรณ์เรืองแสงอื่นในการแสดงสัญญาณจราจรได้ (เพิ่มวรรคสามของมาตรา 24 (ร่างมาตรา 3))
2. กำหนดให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ว่าหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ หรือเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น และให้มีอำนาจกักตัวผู้ขับขี่ที่มีพฤติการณ์ดังกล่าวและไม่ยอมให้ทดสอบ และหากไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น (แก้ไขมาตรา 142 (ร่างมาตรา 4))
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 พฤษภาคม 2551--จบ--