คณะรัฐมนตรีรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้
1. รับทราบสรุปผลงานสัมมนา “หลอมรวมทุกกลไก 1 ล้านไร่ มิติใหม่ที่ราชพัสดุ” เมื่อวันที่ 24-25 กรกฎาคม 2551
2. เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการ เพื่อกำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ มาตรการ และเงื่อนไขในการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ เช่น มาตรการขอคืนที่ดินจากหน่วยงานราชการ การแบ่งโซนพืชอาหารและพลังงาน การกำหนดคุณสมบัติเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ รูปแบบและการบริหารจัดการอย่างครบวงจร เป็นต้น ทั้งนี้ ในส่วนของการขอคืนที่ดินราชพัสดุ 1 ล้านไร่ เพื่อนำมาให้เกษตรกรเช่าทำการเกษตรให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการดังกล่าว
กระทรวงการคลังรายงานว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (10 มิถุนายน 2551) ได้ดำเนินการดังนี้
1. การจัดเตรียมที่ดินรองรับโครงการ
1.1 กระทรวงการคลัง ได้มีหนังสือแจ้งส่วนราชการระดับกระทรวงรวม 12 หน่วยงาน ขอให้สำรวจที่ดินราชพัสดุที่ถือครองและยังไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือใช้ประโยชน์ไม่เต็มพื้นที่และเป็นพื้นที่ที่สามารถทำการเกษตรได้เพื่อส่งคืนกรมธนารักษ์เพื่อนำมาจัดให้เกษตรกรเช่าเพาะปลูกตามนโยบายของรัฐบาลแล้วตามมติคณะรัฐมนตรี (10 มิถุนายน 2551) ครบกำหนดที่ส่วนราชการจะต้องแจ้งส่งคืนพื้นที่ในวันที่ 10 กันยายน 2551 สรุปผลความร่วมมือของส่วนราชการ ดังนี้
หน่วยงานที่สำรวจและแจ้งผลแล้ว 6 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักนายกรัฐมนตรี (กรมประชาสัมพันธ์) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกระทรวงสาธารณสุข โดยมีเพียงกระทรวงสาธารณสุขหน่วยงานเดียวที่แจ้งส่งคืนที่ดิน 1 แปลง เนื้อที่ 6,456 ไร่เศษ และอีก 6 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงกลาโหม ยังไม่แจ้งผลการส่งคืน ขณะนี้ กระทรวงการคลังมีหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆ เพื่อติดตามขอทราบผลการดำเนินการแล้ว
1.2 กระทรวงการคลังโดยกรมธนารักษ์ได้สั่งการให้สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ทั่วประเทศสำรวจที่ดินราชพัสดุแปลงที่มี่เนื้อที่ตั้งแต่ 100 ไร่ขึ้นไป พบว่ามีที่ดินที่เหมาะสมจะนำเข้าร่วมโครงการ จำนวน 114 แปลง เนื้อที่ประมาณ 452,162 ไร่เศษ (ซึ่งอาจจะมีบางแปลงทับซ้อนกับที่ดินที่กระทรวงกลาโหมสำรวจและจะส่งคืน) แต่ที่ดินดังกล่าวส่วนใหญ่อยู่ในความครอบครองของส่วนราชการซึ่งจะต้องเจรจาขอคืนจากหน่วยงานราชการที่ครอบครองและจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าขณะนี้มีที่ดินที่มีความพร้อมและความเป็นไปได้เพื่อรองรับโครงการภายในปี 2552 ทั้งสิ้นจำนวน 27 แลง เนื้อที่ ประมาณ 190,886 ไร่เศษ
2. การบริหารจัดการโครงการ
กระทรวงการคลังได้จัดการสัมมนาเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติการ เรื่อง“หลอมรวมทุกกลไก 1 ล้านไร่ มิติใหม่ที่ราชพัสดุ” ขึ้นเมื่อวันที่ 24-25 กรกฎาคม 2551 เพื่อให้เกิดความเข้าใจในทิศทางและความชัดเจนในกระบวนการของทุกหน่วยงานภาครัฐที่จะมีส่วนร่วมในการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ได้ข้อสรุป ดังนี้
2.1 ในการสัมมนาเชิงนโยบายของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มีความเห็นสอดคล้องและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนโครงการนำที่ดินราชพัสดุ 1 ล้านไร่ มาจัดให้เกษตรกร เช่าทำการเกษตรตามนโยบายรัฐบาล และได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
2.2 สำหรับข้อสรุปในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการที่ได้มีการแบ่งกลุ่มตามภาคต่าง ๆ รวม 5 กลุ่ม ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในหัวข้อการบริหารจัดการที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การบริหารจัดการอย่างครบวงจรสำหรับภาคเกษตร การบริหารจัดการอย่างครบวงจรสำหรับภาคการตลาด การคัดเลือกกลุ่มผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน โดยทุกกลุ่มได้เสนอแนวคิดและมุมมองจากการปฏิบัติงานที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ และมีความเห็นว่าเพื่อให้โครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้อย่างสัมฤทธิผลและเห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ควรดำเนินการในรูปของคณะกรรมการ
กระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้วเพื่อให้โครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้อย่างสัมฤทธิผลและเป็นรูปธรรมโดยเร็ว จึงเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552 --จบ--