คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมกราคม 2552 สรุปได้ดังนี้
กระทรวงพาณิชย์มีการปรับปรุงน้ำหนักและปีฐานจากปี 2545 เป็นปี 2550 จำนวนสินค้าและบริการที่ใช้คำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นจาก 374 รายการเป็น 417 รายการ โดยเริ่มคำนวณและเผยแพร่ตั้งแต่เดือน มกราคม 2552 และรายงานความเคลื่อนไหวดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมกราคม 2552 โดยสรุปดังนี้
จากการสำรวจราคาสินค้าและบริการทั่วประเทศจำนวน 417 รายการ ครอบคลุมหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องนุ่งห่ม เคหสถาน การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล พาหนะ การขนส่งและการสื่อสาร การบันเทิง การอ่านและการศึกษา ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพื่อนำมาคำนวณดัชนีมีราคาผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งได้ผลดังนี้
1. ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนมกราคม 2552 ในปี 2550 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเท่ากับ 100 และเดือนมกราคม 2552 เท่ากับ 102.1 (เดือนธันวาคม 2551 หรือ 102.1)
2. การเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนมกราคม 2552 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2551 ดัชนีโดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนเดือนมกราคม 2551 ลดลงร้อยละ 0.4
3. ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนมกราคม 2552 เทียบกับเดือนธันวาคม 2551 ดัชนีโดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง แต่อย่างไรก็ตามยังมีสินค้าและบริการที่มีราคาลดลง คือ ราคาอาหารสดประเภทผักสด เนื่องจากสภาพอากาศเย็น ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ข้าวสารเจ้า ไข่ไก่ เครื่องปรุงอาหาร และค่าโดยสารสาธารณะ ในขณะที่สินค้า ที่มีราคาสูงขึ้นคือ ปลาและสัตว์น้ำ เนื้อสุกร ผลไม้ นมและผลิตภัณฑ์นม เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำมันเชื้อเพลิง ขายปลีกภายในประเทศและค่ากระแสไฟฟ้า เป็นต้น
3.1 ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ลดลงร้อยละ 0.3 (เดือนธันวาคม 2551 ลดลงร้อยละ 1.5) ปัจจัยสำคัญมาจากการลดลงของราคาผักสดร้อยละ 7.9 ได้แก่ ผักชี ผักคะน้า ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ผักบุ้ง ต้นหอมและพริกสด เนื่องจากสภาพอากาศเย็น ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก และผลไม้บางชนิดโดยเฉพาะส้มเขียวหวาน เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาล ข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้งร้อยละ 0.2 ไข่ไก่ ร้อยละ 5.3 เครื่องปรุงอาหารร้อยละ 0.4 (โดยเฉพาะ น้ำมันพืช และมะพร้าวขูด) สำหรับสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น คือ ปลาและสัตว์น้ำ ร้อยละ 1.5 (ปลาดุก ปลานิล ปลาทูและปลาทับทิม) เนื้อสุกร ร้อยละ 0.3 ผลไม้ ร้อยละ 0.9 (กล้วยน้ำว้า ทุเรียน องุ่นและแตงโม) นมและผลิตภัณฑ์ ร้อยละ 0.3 (นมสด นมผง ครีมเทียม และนมถั่วเหลือง) เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 0.6 (น้ำอัดลม และน้ำดื่มบริสุทธิ์)
3.2 ดัชนีหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 0.1 (เดือนธันวาคม 2551 ลดลงร้อยละ 1.9) ปัจจัยสำคัญจากการสูงขึ้นของราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยภายในประเทศร้อยละ 0.1 รวมทั้งมีการปรับค่า Ft 14.85 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่ากระแสไฟฟ้า สูงขึ้นร้อยละ 4.4 ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับทำความสะอาดร้อยละ 0.6 (ผงซักฟอก ก้อนดับกลิ่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน และน้ำยารีดผ้า) ในขณะที่ค่าโดยสารสาธารณะได้มีการปรับลดลงตั้งแต่เดือนก่อนหน้า ส่งผลให้หมวดค่าโดยสารสาธารณะในเดือนนี้ลดลงร้อยละ 1.5
4. ถ้าพิจารณาดัชนีเทียบกับเดือนมกราคม 2551 ลดลงร้อยละ 0.4 เป็นผลมาจากการลดลงของดัชนีราคาหมวดพาหนะ ขนส่งและการสื่อสาร ร้อยละ 14.4 (โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง) หมวดเคหสถาน ร้อยละ 7.4 (ค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำประปา) สำหรับดัชนีราคาหมวดที่สูงขึ้นคือ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ 11.7 (ข้าว เนื้อสัตว์ ปลาและสัตว์น้ำ ไข่และผลิตภัณฑ์นม ผักและผลไม้ และเครื่องประกอบอาหาร) หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล (ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล เข่น สบู่ถูตัว แชมพู น้ำมันใส่ผม และผลิตภัณฑ์ป้องกันบำรุงผิว หมวดบันเทิง การอ่าน และการศึกษา ร้อยละ 0.9 และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 1.1
5. ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ (คำนวณจากรายการสินค้าและบริการ 300 รายการ) คือ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสดและกลุ่มพลังงานจำนวน 117 รายการ คิดเป็นประมาณร้อยละ 24 ของสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนมกราคม 2552 เท่ากับ 102.4 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2551 ลดลงร้อยละ 0.1 และเดือนมกราคม 2551 สูงขึ้นร้อยละ 1.6 โดยดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ เดือนมกราคม 2552 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2551 ลดลงร้อยละ 0.1 ปัจจัยสำคัญมาจากการลดลงของค่าโดยสารสาธารณะ เครื่องประกอบอาหาร และอาหารสำเร็จรูป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 มีนาคม 2552 --จบ--