การประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการและการจัดสรรเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 29, 2009 16:26 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง การประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการและการจัดสรรเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551

ของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบกับข้อเสนอของ สำนักงาน ก.พ.ร. และรับทราบการดำเนินการของสำนักงาน ก.พ.ร. ดังนี้

1. ผลการประเมินตามคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของส่วนราชการ จังหวัดและสถาบันอุดมศึกษา หลักเกณฑ์ วิธีการ แนวทางการจัดสรรสิ่งจูงใจ การจ่ายเงินรางวัลสำหรับผู้ปฏิบัติและเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารของส่วนราชการ จังหวัด และ สถาบันอุดมศึกษาที่มีการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 และรายงานผลการศึกษาของสำนักงาน ก.พ.ร. รวมทั้ง อนุมัติให้นายพระนาย สุวรรณรัฐ ในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) ในช่วง ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม 2549-30 กันยายน 2550 ซึ่งปฏิบัติงานเสมือนหนึ่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทยให้ได้รับเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารในปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2550 เป็นการเฉพาะราย ตามวิธีการการจัดสรรเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารที่ ก.พ.ร. กำหนดในตำแหน่งรองปลัดกระทรวง มหาดไทย

2. การดำเนินงานของสำนักงาน ก.พ.ร. ในการประสานสำนักงบประมาณเพื่อจัดงบประมาณไปตั้งจ่ายที่กรมบัญชีกลางจำนวน 6,735 ล้านบาท สำหรับจ่ายเป็นเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ให้แก่หน่วยงานเพื่อหน่วยงานจัดสรรให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 5,550 ล้าน บาท และจ่ายเป็นเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 1,185 ล้านบาท

สาระสำคัญของเรื่อง

สำนักงาน ก.พ.ร. ได้นำเสนอ ก.พ.ร. ในการประชุมครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งมีมติรับทราบแนวทาง การจัดสรรเงินรางวัลสำหรับผู้ปฏิบัติและการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ. ศ. 2551 และรายงานผลการศึกษาของสำนักงาน ก.พ.ร. ดังนี้

1. เห็นชอบให้ใช้แนวทางการจัดสรรเงินรางวัลสำหรับผู้ปฏิบัติตามที่ใช้อยู่เดิมและแนวทางการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ซึ่งยังคงเป็นไปตามหลักการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2547 โดยใช้หลักเกณฑ์การคำนวณตาม ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินรางวัลสำหรับผู้บริหารและสำหรับหน่วยงานเพื่อจ่ายให้แก่ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงาน ของรัฐ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งใช้แนวทางการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารตามมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2550 และวันที่ 22 มกราคม 2551 ที่ได้อนุมัติในหลักการแนวทางการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหาร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 และรับทราบแนวทางการจัดสรรเงินรางวัล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอให้จัดสัดส่วนการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษ สำหรับผู้บริหารเป็น 50:50 กล่าวคือ จ่ายให้ผู้บริหารเป็นจำนวน ร้อยละ 50 ของจำนวนเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารที่คำนวณได้จริง ส่วนอีกร้อย ละ 50 ของจำนวนเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารที่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มพิเศษดังกล่าวให้นำไปสมทบกับเงินรางวัลที่จะจัดสรรให้ผู้ปฏิบัติของส่วนราชการที่ ผู้บริหารนั้น ๆ สังกัดอยู่ โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางการจัดสรรที่ ก.พ.ร.กำหนด

2. สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ศึกษาระบบการบริหารค่าตอบแทนในภาคราชการไทยและได้ จัดจ้างสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ดำเนิน การ “โครงการศึกษาวิจัยผลการจัดทำคำรับรองและประเมินผลการปฏิบัติราชการและการจัดสรรสิ่งจูงใจที่มีต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพของส่วน ราชการและการทำงานของข้าราชการ” ซึ่งสรุปผลว่าการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ และการประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการ ปฏิบัติราชการ ส่งผลกระทบในระดับสูงทำให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของการทำงาน มีการยกระดับภารกิจด้านต่างๆ ขององค์การ และการตอบสนองความพึงพอใจของประชาชน/ผู้รับบริการ หน่วยงานสามารถพิจารณาทบทวนแก้ไขผลงานตามตัวชี้วัดต่างๆ ที่ยังไม่บรรลุเป้าหมาย ซึ่ง ครอบคลุมทั้งการทำงานอย่างมียุทธศาสตร์ประสิทธิภาพของกระบวนการภายใน คุณภาพของผลผลิต และการยกระดับการบริหารจัดการภายในหน่วยงาน ให้มีระบบและคุณภาพที่สูงขึ้น นอกจากนี้ การจัดสรรสิ่งจูงใจมีความเหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบราชการ ส่งเสริมประสิทธิภาพของ หน่วยงานตลอดจนช่วยให้บุคลากรเกิดความพึงพอใจและปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพในการทำงานให้สูงขึ้น และสำนักงาน ก.พ.ร.ได้จัดจ้างสวนดุ สิตโพลดำเนินการวิจัยเชิงสำรวจความคิดเห็นของข้าราชการและลูกจ้างประจำที่มีต่อการรับเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 และความคิด เห็นของผู้บริหารที่มีต่อเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ซึ่งสรุปผลว่า ข้าราชการและลูกจ้างประจำส่วนใหญ่ต้องการให้มี การจัดสรรเงินรางวัลต่อไป (มีเพียงร้อยละ 13.23 ที่เห็นว่าไม่ควรมีต่อไป) เพราะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน เป็นการสร้างแรง จูงใจในการทำงานและเป็นการช่วยข้าราชการลูกจ้างที่มีรายได้น้อย

3. สนับสนุนให้ส่วนราชการระดับกระทรวงมีบทบาทในการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการของส่วน ราชการระดับกรมในสังกัด ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 มีกระทรวงนำร่องคือ กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 มีการดำเนินการต่อเนื่องและเพิ่มการนำร่องที่กระทรวงสาธารณสุข โดยมีกรอบหลักเกณฑ์ แนวทางและวิธีการตามที่ ก. พ.ร.กำหนด

สำนักงาน ก.พ.ร. ได้นำเสนอ ก.พ.ร. ในการประชุมครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันจันทร์ที่ 23 มีนาคม 2552 เพื่อพิจารณา ดังนี้

1. ผลประเมินการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการเบื้องต้นซึ่งคะแนนของบางตัวชี้วัดใส่ค่า N/A โดยมีผลการประเมิน สรุป ดังนี้

                    ส่วนราชการ          จังหวัด        สถาบันอุดมศึกษา
จำนวน                     142             75                  72
ผลคะแนนสูงสุด            4.8939         4.7829              4.2233
ผลคะแนนต่ำสุด            3.3658         3.5896              2.3950
ผลคะแนนเฉลี่ย            4.2302         4.1508              3.4654

สำหรับคะแนนการประเมินผลดังกล่าวเป็นผลการประเมินตามกรอบตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายที่ส่วนราชการฯ มีการตกลงไว้กับฝ่ายบริการ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ตามกรอบหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ.ร. กำหนด ดังนั้น ผลการประเมินจึงอาจไม่ครอบคลุมและไม่สอดรับกับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สำนักงาน ก.พ.ร. จะมีการปรับปรุงวิธีการวัดและเกณฑ์การประเมินผลให้สามารถวัดความสำเร็จในการขับเคลื่อน นโยบายสำคัญ เร่งด่วนของรัฐบาลและให้มีความสอดคล้องกับความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียประโยชน์และผู้รับบริการยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ผลการประเมินการปฏิบัติราชการและการคำนวณการจัดสรรเงินรางวัลเป็นการประมวลเบื้องต้น เมื่อสำนักงาน ก.พ.ร. ติดตามข้อมูลผลการประเมินจากหน่วยงานกลางที่เป็นเจ้าภาพตัวชี้วัดครบถ้วนแล้ว รวมถึงตรวจสอบข้อทักท้วงและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและ การประมวลผลคะแนน สำนักงาน ก.พ.ร. ขออนุมัติเป็นหลักการในการดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้ผลคะแนนมีความครบถ้วน และถูกต้องสมบูรณ์แล้ว นำเสนอ ก.พ.ร. เพื่อทราบโดยด่วนต่อไป

2. ปรับปรุงวิธีการคำนวณเงินรางวัลสำหรับผู้ปฏิบัติ โดยปรับน้ำหนักของการจ่ายเงินรางวัล ซึ่งเน้นที่ผลการปฏิบัติราชการที่บรรลุเป้า หมายระดับค่าคะแนน 3.0000 เพื่อให้ส่วนราชการที่จัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบราชการมากกว่าการมุ่งหวังที่ ระดับคะแนน จึงควรปรับสัดส่วนการจ่ายเงินรางวัลสำหรับทุกส่วนราชการที่ผ่านการประเมินมีผลงานเป็นไปตามเป้าหมายที่ส่วนราชการ จังหวัด และ สถาบันอุดมศึกษาได้กำหนดไว้ โดยให้น้ำหนักการจ่ายรางวัลมากที่ระดับคะแนน 3.0000 คะแนน เป็นร้อยละ 90 ซึ่งทุกส่วนราชการ จังหวัดและ สถาบันอุดมศึกษาที่ผ่านเกณฑ์ที่ระดับคะแนน 3.0000 คะแนน จะได้รับในส่วนนี้ สำหรับส่วนราชการจังหวัด และสถาบันอุดมศึกษาที่มีผลการประเมินใน ระดับคะแนนที่สูงกว่า 3.0000 คะแนนขึ้นไป ซึ่งเป็นค่าที่สูงกว่าเป้าหมายให้มีน้ำหนักการจ่ายที่สูงกว่าร้อยละ 90 ถึงร้อยละ 100

3. การคำนวณเงินรางวัลตามผลการปฏิบัติราชการตามหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินรางวัลที่ ก.พ.ร. กำหนดให้แก่ทุกส่วนราชการที่ จัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 รวมถึงส่วนราชการที่เป็นองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ กรณีสำนักงานอัยการสูง สุด และสำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสถาบันอุดมศึกษาที่ปรับเปลี่ยนสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ จำนวน 5 สถาบัน ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัย ทักษิณ เนื่องจากส่วนราชการดังกล่าว ได้จัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการและได้มีการดำเนินงานตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ พร้อมทั้งได้ รายงานความก้าวหน้าของผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน และ 12 เดือนอย่างครบถ้วน นอกจากนี้การจัดสรรเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2550 กรณีนายพระนาย สุวรรณรัฐ ในขณะที่ดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชาย แดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) ในช่วงวันที่ 31 ตุลาคม 2549 — 30 กันยายน 2550 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินเพิ่มพิเศษ สำหรับผู้บริหาร เห็นควรให้สำนักงาน ก.พ.ร. นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติให้นายพระนายฯ ในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ผอ.ศอ. บต. ซึ่งปฏิบัติงานเสมือนหนึ่งรองปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทยได้รับเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามวิธีการการ จัดสรรเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารที่ ก.พ.ร. กำหนดในตำแหน่งรองปลัดกระทรวง เป็นการเฉพาะราย

ความเห็นของ ก.พ.ร.

ก.พ.ร. ในการประชุมครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งมีมติรับทราบแนวทางการจัดสรรเงินรางวัลสำหรับผู้ ปฏิบัติและการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหารของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 และรายงานผลการ ศึกษาของสำนักงาน ก.พ.ร. และ ในการประชุมครั้งที่ 2/2552 เมื่อวันจันทร์ที่ 23 มีนาคม 2552 มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ดัง นี้

1. เห็นชอบผลการประเมินตามคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ของส่วนราชการ จังหวัดและสถาบันอุดม ศึกษา ซึ่งรวมถึงส่วนราชการและสถาบันอุดมศึกษาที่ได้เปลี่ยนแปลงสถานภาพตามรัฐธรรมนูญหรือตามกฎหมาย ได้แก่ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงาน สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสถาบันอุดมศึกษาที่ปรับเปลี่ยนสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ จำนวน 5 สถาบัน และมอบ หมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. ติดตามข้อมูลผลการประเมินจากหน่วยงานกลาง รวมทั้งตรวจสอบข้อทักท้วงและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและการ ประมวลผลคะแนน ตลอดจนให้ปรับปรุงผลคะแนนให้มีความครบถ้วนถูกต้อง แล้วนำเสนอ อ.ก.พ.ร. ฯ เพื่อทราบต่อไปและเห็นชอบการปรับปรุงวิธี การคำนวณเงินรางวัลสำหรับผู้ปฏิบัติตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงาน ก.พ.ร. นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป

2. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. ปรับปรุงวิธีการวัดและหลักเกณฑ์การประเมินผลตามคำรับรองการปฏิบัติราชการของส่วนราชการฯ ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยอาจให้มีการถ่วงน้ำหนักผลการประเมินตามกรอบการ ประเมินผลที่ได้เจรจาข้อตกลงไปแล้ว และนำน้ำหนักส่วนหนึ่งไป เพิ่มสำหรับการประเมินผลจากฝ่ายบริหาร เช่น คณะรัฐมนตรี เพื่อให้สามารถบ่งชี้ความสำเร็จในการปฏิบัติตามนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาลและ ให้มีความสอดคล้องกับความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียประโยชน์มากขึ้น และให้นำเสนอ ก.พ.ร. พิจารณาต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 เมษายน 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ