มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งและบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 4, 2009 14:25 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งและบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย และมอบหมายให้กระทรวง กรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการ พร้อมทั้งมอบหมายให้คณะอนุกรรมการประสานการจัดการสิ่งแวดล้อมและอุตสาหกรรม ประสานติดตามการดำเนินการตามมาตรการฯ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรายงานต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีต่อไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานว่า

1. มาตรการจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายที่มีอยู่ในปัจจุบันยังขาดประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดปัญหาการลักลอบทิ้งและการบำบัดกำจัด

หรือรีไซเคิลกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายอย่างต่อเนื่อง โดยในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนกันยายน 2543 จนถึงเดือน

ธันวาคม 2551 มีการลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมทั้งสิ้นจำนวน 73 ครั้ง แต่มีเพียง 8 เรื่องที่มีการแจ้งความดำเนินคดี และ

มีเพียง 3 เรื่องเท่านั้นที่มีหลักฐานเพียงพอจนสามารถดำเนินคดีและลงโทษผู้กระทำผิดได้ ทส.จึงได้ประชุมหารือร่วมกับกระทรวง

อุตสาหกรรม (อก.) และได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมมือด้านการจัดการกากอุตสาหกรรมขึ้น เพื่อพิจารณาเสนอแนะแนวทางและ

ประสานการดำเนินงานการพัฒนาระบบเอกสารการกำกับการขนส่งของเสียอันตราย (Manifest System) พิจารณาระบบ กลไก

และมาตรฐานทางด้านกฎหมายและวิชาการเพื่อดำเนินการตรวจสอบระบบการขนส่งกากของเสียอันตรายตั้งแต่ต้นทางที่เป็นแหล่ง

กำเนิดมลพิษจนถึงปลายทางที่เป็นสถานที่กำจัด ติดตาม ตรวจสอบ และพิจารณาแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งกากของเสีย และการ

ดำเนินงานจัดการกากของเสียจากแหล่งกำเนิดมลพิษ เสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งกากของเสีย และกลไก

ทางการเงินในการบำบัดฟื้นฟูที่ปนเปื้อนกากของเสีย โดยคณะทำงานดังกล่าวได้จัดประชุมกันรวม 6 ครั้ง และกรมควบคุมมลพิษได้

ประชุมหารือเพิ่มเติมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรรมเพื่อพิจารณากำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งและการบริหาร

จัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย

2. มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งและบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

2.1 มาตรการที่เกี่ยวข้องกับโรงงานผู้ก่อกำเนิดกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย

2.1.1 การประสานและเร่งรัดดำเนินการให้โรงงานอุตสาหกรรมเข้าสู่ระบบการจัดการกากของเสียอันตรายจาก

อุตสาหกรรม อก.เร่งรัดดำเนินการในจังหวัดเป้าหมายที่มีโรงงานอุตสาหกรรมมากที่สุด 14 จังหวัดทั่วประเทศไม่น้อย

กว่าร้อยละ 80 ภายในปี 2552 และดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

2.1.2 การขยายการเชื่อมโยงข้อมูลการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมระหว่างหน่วยงานส่วนกลางและท้องถิ่น อก. เร่งรัด

การขยายการเชื่อมโยงข้อมูลการขออนุญาตการนำกากของเสียออกนอกโรงงานเพื่อนำไปบำบัดกำจัด ให้หน่วยงานที่

เกี่ยวข้องและท้องถิ่นทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายในปี 2552

2.1.3 การมอบอำนาจและการจัดทำระบบการสอบทาน (Auditing System)

(1) อก. ขยายผลการมอบอำนาจให้แก่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยทั้งจาก

ผู้ประกอบการรายเดิมและรายใหม่ รวมทั้งประเภทกากของเสียที่เคยขออนุญาตไว้เดิมและยังไม่เคยขออนุญาตให้

แล้วเสร็จภายในปี 2552

(2) อก. จัดทำระบบการสอบทาน กำหนดกฎ ระเบียบบังคับให้โรงงานผู้ก่อกำเนิดกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย

ต้องมีผู้ตรวจสอบที่เป็นบุคคลที่สาม (Third Party) ลักษณะเดียวกับระบบตรวจสอบบัญชี และให้ปรับปรุงระบบ

การตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องมีผู้ควบคุมดูแลระบบป้องกันสิ่งแวดล้อม (Second Party) เดิม ให้แล้ว

เสร็จภายในปี 2552

2.1.4 การจัดทำระบบฐานข้อมูล Waste Fingerprint อก. ร่วมกับ ทส. จัดทำฐานข้อมูล Waste Fingerprint ที่

รวบรวมข้อมูลเอกลักษณ์ของกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายจากโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้แล้ว

เสร็จภายในปี 2553

2.1.5 การกำหนดให้โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้สารเคมีหรือมีกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายเกิดขึ้นต้องวางหลักประกัน

ทางการเงิน อก.กำหนดกฎ ระเบียบเพิ่มเติม โดยกำหนดเงื่อนไขให้วางหลักประกันทางการเงินเมื่อขออนุญาตหรือขอ

ขยายการประกอบกิจการโรงงานให้แล้วเสร็จภายในปี 2553

2.2 มาตรการที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการขนส่ง

2.2.1 การกำหนดข้อบังคับทางกฎหมายให้มีการติดตั้งหรือใช้งานระบบการติดตามตำแหน่งรถขนส่งกากอุตสาหกรรมที่เป็น

อันตราย (GPS) อก. และกระทรวงคมนาคม (คค.) กำหนดข้อบังคับทางกฎหมายให้มีการติดตั้งและใช้งานระบบ

GPS เพื่อติดตามและเฝ้าระวังการขนส่งกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย ให้แล้วเสร็จภายในปี 2552

2.2.2 การกำหนดข้อบังคับทางกฎหมายให้รถขนส่งของเสียอันตรายติดป้ายหรือสัญลักษณ์บ่งชี้ว่าเป็นรถขนส่งของเสียที่แตกต่าง

จากรถขนส่งวัตถุอันตราย อก. และ คค. ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2552

2.3 มาตรการที่เกี่ยวข้องกับโรงงานผู้ประกอบการบำบัดหรือรีไซเคิล

2.3.1 การแก้ไขกฎระเบียบเกี่ยวกับระบบกำกับการขนส่งของเสียอันตราย (Manifest System) อก. ดำเนินการแก้ไขกฎ

ระเบียบเกี่ยวกับระบบกำกับการขนส่งของเสียอันตราย โดยเพิ่มสำเนาเอกสารกำกับการขนส่งหรือช่องทาง

อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้รับบำบัดกำจัดหรือรีไซเคิลกากอุตสาหกรรมรายงานผลการจัดการกากอุตสาหกรรมที่ดำเนินการ

แล้วเสร็จให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมและผู้ก่อกำเนิดทราบด้วยให้แล้วเสร็จภายในปี 2553

2.3.2 การกำหนดมาตรการจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายจากโรงงานรีไซเคิล (โรงงานลำดับที่ 106) ที่เข้มงวด

อก. ทบทวนกฎระเบียบหรือการบังคับควบคุมการจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายจากโรงงานรีไซเคิลให้เข้มงวด

เช่นเดียวกับกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายจากโรงงานผู้ก่อกำเนิดประเภทอื่น รวมทั้งจัดให้มีการวิจัยและพัฒนา

เทคโนโลยีการกำจัดกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายที่กำจัดทำลายยากด้วยเทคโนโลยีที่ไม่ยุ่งยากและประหยัดค่าใช้

จ่าย ให้แล้วเสร็จภายในปี 2553

2.4 มาตรการสนับสนุน

2.4.1 การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหรือเจ้าของที่ดินทั้งที่ไม่มีส่วนรู้เห็นและมีส่วน รู้เห็นทราบถึงความรับผิดตามกฎหมาย

อก.ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (มท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ให้

เจ้าของที่ดินทราบถึงความผิดในการครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเริ่มในปี 2552 และดำเนินการ

อย่างต่อเนื่อง

2.4.2 การสำรวจและจัดทำบัญชีรายการที่นาเก่า หรือบ่อดินเก่า หรือบริเวณที่มีการขุดหน้าดินไปใช้ประโยชน์ มท. โดย

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินของประชาชนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สำรวจและจัดทำบัญชี

รายการที่นาเก่า หรือบ่อดินเก่าในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ให้แล้วเสร็จภายในปี 2552 และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

2.4.3 การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย อก. โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด

เข้มงวดในการกำกับโรงงานอุตสาหกรรมในการจัดการกากอุตสาหกรรม กรณีพบผู้กระทำผิดต้องถือเป็นภารกิจสำคัญใน

การตรวจพิสูจน์และรวบรวมหลักฐานเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้กระทำผิดโดยด่วน เพื่อมิให้เกินอายุความและดำเนินคดี

ตามกฎหมายให้ถึงที่สุด รวมทั้งให้ความร่วมมือกับท้องถิ่นในการจัดการกับกองกากอุตสาหกรรมที่ถูกลักลอบทิ้งและบำบัด

ฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อนกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย โดยเริ่มในปี 2552 และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

2.4.4 การจัดหางบประมาณในการจัดการกองกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย ซึ่งถูกลักลอบทิ้งและบำบัดฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อน

อก. จัดตั้งกองทุนสำหรับการแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม โดยระดมทุนจากโรงงานผู้ก่อกำเนิดและผู้รับ

บำบัดกำจัดหรือรีไซเคิลกากอุตสาหกรรมแต่ละจังหวัด ในระหว่างยังไม่สามารถดำเนินการได้ให้ประสาน มท. และ

กระทรวงการคลัง (กค.) ขอใช้เงินทดรองราชการของส่วนราชการในสังกัด มท. ตามระเบียบว่าด้วยเงินทดรอง

ราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของ

ประชาชนให้แล้วเสร็จภายในปี 2553

2.4.5 การจัดการของเสียอันตรายจากสถานประกอบการพาณิชยกรรมในชุมชนที่ ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงานอุตสาหกรรม

(1) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนดกฎระเบียบ หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดการของเสียอันตรายจากสถาน

ประกอบการพาณิชยกรรมในชุมชนเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถกำกับดูแลสถานประกอบการในเขต

พื้นที่ของตนให้จัดการของเสียอันตรายอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์วิธีการที่กำหนดให้แล้วเสร็จภายในปี 2553

(2) กระทรวงพลังงาน (พน.) กำหนดเงื่อนไขแนวทาง และวิธีการจัดการกากน้ำมันที่เหลือจากการผลิต Bio-

diesel จากน้ำมันใช้แล้วในชุมชนอย่างถูกต้องให้แล้วเสร็จภายในปี 2552

3. คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติในคราวประชุมครั้งที่ 1/2552 เห็นชอบกับมาตรการฯ ตามที่ ทส. เสนอ โดยมอบให้ ทส.นำ

มาตรการฯ เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มิถุนายน 2552 --จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ