คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งและบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย และมอบหมายให้กระทรวง กรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการ พร้อมทั้งมอบหมายให้คณะอนุกรรมการประสานการจัดการสิ่งแวดล้อมและอุตสาหกรรม ประสานติดตามการดำเนินการตามมาตรการฯ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรายงานต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีต่อไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานว่า
1. มาตรการจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายที่มีอยู่ในปัจจุบันยังขาดประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดปัญหาการลักลอบทิ้งและการบำบัดกำจัด
หรือรีไซเคิลกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายอย่างต่อเนื่อง โดยในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนกันยายน 2543 จนถึงเดือน
ธันวาคม 2551 มีการลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมทั้งสิ้นจำนวน 73 ครั้ง แต่มีเพียง 8 เรื่องที่มีการแจ้งความดำเนินคดี และ
มีเพียง 3 เรื่องเท่านั้นที่มีหลักฐานเพียงพอจนสามารถดำเนินคดีและลงโทษผู้กระทำผิดได้ ทส.จึงได้ประชุมหารือร่วมกับกระทรวง
อุตสาหกรรม (อก.) และได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมมือด้านการจัดการกากอุตสาหกรรมขึ้น เพื่อพิจารณาเสนอแนะแนวทางและ
ประสานการดำเนินงานการพัฒนาระบบเอกสารการกำกับการขนส่งของเสียอันตราย (Manifest System) พิจารณาระบบ กลไก
และมาตรฐานทางด้านกฎหมายและวิชาการเพื่อดำเนินการตรวจสอบระบบการขนส่งกากของเสียอันตรายตั้งแต่ต้นทางที่เป็นแหล่ง
กำเนิดมลพิษจนถึงปลายทางที่เป็นสถานที่กำจัด ติดตาม ตรวจสอบ และพิจารณาแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งกากของเสีย และการ
ดำเนินงานจัดการกากของเสียจากแหล่งกำเนิดมลพิษ เสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งกากของเสีย และกลไก
ทางการเงินในการบำบัดฟื้นฟูที่ปนเปื้อนกากของเสีย โดยคณะทำงานดังกล่าวได้จัดประชุมกันรวม 6 ครั้ง และกรมควบคุมมลพิษได้
ประชุมหารือเพิ่มเติมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรรมเพื่อพิจารณากำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งและการบริหาร
จัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย
2. มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งและบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
2.1 มาตรการที่เกี่ยวข้องกับโรงงานผู้ก่อกำเนิดกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย
2.1.1 การประสานและเร่งรัดดำเนินการให้โรงงานอุตสาหกรรมเข้าสู่ระบบการจัดการกากของเสียอันตรายจาก
อุตสาหกรรม อก.เร่งรัดดำเนินการในจังหวัดเป้าหมายที่มีโรงงานอุตสาหกรรมมากที่สุด 14 จังหวัดทั่วประเทศไม่น้อย
กว่าร้อยละ 80 ภายในปี 2552 และดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
2.1.2 การขยายการเชื่อมโยงข้อมูลการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมระหว่างหน่วยงานส่วนกลางและท้องถิ่น อก. เร่งรัด
การขยายการเชื่อมโยงข้อมูลการขออนุญาตการนำกากของเสียออกนอกโรงงานเพื่อนำไปบำบัดกำจัด ให้หน่วยงานที่
เกี่ยวข้องและท้องถิ่นทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายในปี 2552
2.1.3 การมอบอำนาจและการจัดทำระบบการสอบทาน (Auditing System)
(1) อก. ขยายผลการมอบอำนาจให้แก่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยทั้งจาก
ผู้ประกอบการรายเดิมและรายใหม่ รวมทั้งประเภทกากของเสียที่เคยขออนุญาตไว้เดิมและยังไม่เคยขออนุญาตให้
แล้วเสร็จภายในปี 2552
(2) อก. จัดทำระบบการสอบทาน กำหนดกฎ ระเบียบบังคับให้โรงงานผู้ก่อกำเนิดกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย
ต้องมีผู้ตรวจสอบที่เป็นบุคคลที่สาม (Third Party) ลักษณะเดียวกับระบบตรวจสอบบัญชี และให้ปรับปรุงระบบ
การตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องมีผู้ควบคุมดูแลระบบป้องกันสิ่งแวดล้อม (Second Party) เดิม ให้แล้ว
เสร็จภายในปี 2552
2.1.4 การจัดทำระบบฐานข้อมูล Waste Fingerprint อก. ร่วมกับ ทส. จัดทำฐานข้อมูล Waste Fingerprint ที่
รวบรวมข้อมูลเอกลักษณ์ของกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายจากโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้แล้ว
เสร็จภายในปี 2553
2.1.5 การกำหนดให้โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้สารเคมีหรือมีกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายเกิดขึ้นต้องวางหลักประกัน
ทางการเงิน อก.กำหนดกฎ ระเบียบเพิ่มเติม โดยกำหนดเงื่อนไขให้วางหลักประกันทางการเงินเมื่อขออนุญาตหรือขอ
ขยายการประกอบกิจการโรงงานให้แล้วเสร็จภายในปี 2553
2.2 มาตรการที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการขนส่ง
2.2.1 การกำหนดข้อบังคับทางกฎหมายให้มีการติดตั้งหรือใช้งานระบบการติดตามตำแหน่งรถขนส่งกากอุตสาหกรรมที่เป็น
อันตราย (GPS) อก. และกระทรวงคมนาคม (คค.) กำหนดข้อบังคับทางกฎหมายให้มีการติดตั้งและใช้งานระบบ
GPS เพื่อติดตามและเฝ้าระวังการขนส่งกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย ให้แล้วเสร็จภายในปี 2552
2.2.2 การกำหนดข้อบังคับทางกฎหมายให้รถขนส่งของเสียอันตรายติดป้ายหรือสัญลักษณ์บ่งชี้ว่าเป็นรถขนส่งของเสียที่แตกต่าง
จากรถขนส่งวัตถุอันตราย อก. และ คค. ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2552
2.3 มาตรการที่เกี่ยวข้องกับโรงงานผู้ประกอบการบำบัดหรือรีไซเคิล
2.3.1 การแก้ไขกฎระเบียบเกี่ยวกับระบบกำกับการขนส่งของเสียอันตราย (Manifest System) อก. ดำเนินการแก้ไขกฎ
ระเบียบเกี่ยวกับระบบกำกับการขนส่งของเสียอันตราย โดยเพิ่มสำเนาเอกสารกำกับการขนส่งหรือช่องทาง
อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้รับบำบัดกำจัดหรือรีไซเคิลกากอุตสาหกรรมรายงานผลการจัดการกากอุตสาหกรรมที่ดำเนินการ
แล้วเสร็จให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมและผู้ก่อกำเนิดทราบด้วยให้แล้วเสร็จภายในปี 2553
2.3.2 การกำหนดมาตรการจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายจากโรงงานรีไซเคิล (โรงงานลำดับที่ 106) ที่เข้มงวด
อก. ทบทวนกฎระเบียบหรือการบังคับควบคุมการจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายจากโรงงานรีไซเคิลให้เข้มงวด
เช่นเดียวกับกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายจากโรงงานผู้ก่อกำเนิดประเภทอื่น รวมทั้งจัดให้มีการวิจัยและพัฒนา
เทคโนโลยีการกำจัดกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตรายที่กำจัดทำลายยากด้วยเทคโนโลยีที่ไม่ยุ่งยากและประหยัดค่าใช้
จ่าย ให้แล้วเสร็จภายในปี 2553
2.4 มาตรการสนับสนุน
2.4.1 การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหรือเจ้าของที่ดินทั้งที่ไม่มีส่วนรู้เห็นและมีส่วน รู้เห็นทราบถึงความรับผิดตามกฎหมาย
อก.ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (มท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ให้
เจ้าของที่ดินทราบถึงความผิดในการครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเริ่มในปี 2552 และดำเนินการ
อย่างต่อเนื่อง
2.4.2 การสำรวจและจัดทำบัญชีรายการที่นาเก่า หรือบ่อดินเก่า หรือบริเวณที่มีการขุดหน้าดินไปใช้ประโยชน์ มท. โดย
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ที่ดินของประชาชนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สำรวจและจัดทำบัญชี
รายการที่นาเก่า หรือบ่อดินเก่าในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ให้แล้วเสร็จภายในปี 2552 และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
2.4.3 การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย อก. โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด
เข้มงวดในการกำกับโรงงานอุตสาหกรรมในการจัดการกากอุตสาหกรรม กรณีพบผู้กระทำผิดต้องถือเป็นภารกิจสำคัญใน
การตรวจพิสูจน์และรวบรวมหลักฐานเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้กระทำผิดโดยด่วน เพื่อมิให้เกินอายุความและดำเนินคดี
ตามกฎหมายให้ถึงที่สุด รวมทั้งให้ความร่วมมือกับท้องถิ่นในการจัดการกับกองกากอุตสาหกรรมที่ถูกลักลอบทิ้งและบำบัด
ฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อนกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย โดยเริ่มในปี 2552 และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
2.4.4 การจัดหางบประมาณในการจัดการกองกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย ซึ่งถูกลักลอบทิ้งและบำบัดฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อน
อก. จัดตั้งกองทุนสำหรับการแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม โดยระดมทุนจากโรงงานผู้ก่อกำเนิดและผู้รับ
บำบัดกำจัดหรือรีไซเคิลกากอุตสาหกรรมแต่ละจังหวัด ในระหว่างยังไม่สามารถดำเนินการได้ให้ประสาน มท. และ
กระทรวงการคลัง (กค.) ขอใช้เงินทดรองราชการของส่วนราชการในสังกัด มท. ตามระเบียบว่าด้วยเงินทดรอง
ราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของ
ประชาชนให้แล้วเสร็จภายในปี 2553
2.4.5 การจัดการของเสียอันตรายจากสถานประกอบการพาณิชยกรรมในชุมชนที่ ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงานอุตสาหกรรม
(1) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนดกฎระเบียบ หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดการของเสียอันตรายจากสถาน
ประกอบการพาณิชยกรรมในชุมชนเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถกำกับดูแลสถานประกอบการในเขต
พื้นที่ของตนให้จัดการของเสียอันตรายอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์วิธีการที่กำหนดให้แล้วเสร็จภายในปี 2553
(2) กระทรวงพลังงาน (พน.) กำหนดเงื่อนไขแนวทาง และวิธีการจัดการกากน้ำมันที่เหลือจากการผลิต Bio-
diesel จากน้ำมันใช้แล้วในชุมชนอย่างถูกต้องให้แล้วเสร็จภายในปี 2552
3. คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติในคราวประชุมครั้งที่ 1/2552 เห็นชอบกับมาตรการฯ ตามที่ ทส. เสนอ โดยมอบให้ ทส.นำ
มาตรการฯ เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มิถุนายน 2552 --จบ--