คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 90 ปี องค์การแรงงานระหว่างประเทศตามที่กระทรวงแรงานเสนอ
กระทรวงแรงงานรายงานว่า
1. นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายกระทรวงแรงงาน เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับ ILO สำหรับการจัดงานเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 90 ปี แห่งการก่อตั้ง ILO และครบรอบ 40 ปี แห่งการก่อตั้งสำนักงานภูมิภาคประจำประเทศไทย และมอบหมายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นประธานจัดงาน
2. มีผู้เข้าร่วมงานจากภาครัฐ สถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย หอการค้าต่างประเทศประจำประเทศไทย องค์การนายจ้าง ลูกจ้าง นักวิชาการ นักศึกษา องค์กรพัฒนาเอกชน และผู้สนใจทั่วไป จำนวน 250 คน
3. Ms. Sachiko Yamamoto ผู้อำนวยการสำนักงานแรงงานระหว่างประเทศประจำภูมิภาคเอเชีย และแปซิฟิก กล่าวนำว่า ILO ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของโลกแห่งการทำงาน โดยมีเครื่องมือที่สำคัญเพื่อการบรรลุเป้าหมายในการรักษาความยุติธรรมในสังคมและสร้างงานที่มีคุณค่าให้แก่ทุกคน คือ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิขั้นพื้นฐาน โดยมุ่งหวังให้เป็นที่ยอมรับและให้ประเทศสมาชิกนำไปปฏิบัติ
4. Mr.Juan Somavia ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานแรงงานระหว่างประเทศกล่าวสารผ่านวีดิทัศน์ ในหัวข้อ “90 ปีกับการทำงานเพื่อความยุติธรรมทางสังคม” โดยได้มุ่งเน้นการทำงานร่วมกันของไตรภาคี ประกอบด้วย รัฐบาล นายจ้าง ลูกจ้าง เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนการสร้างงานที่มีคุณค่า
5. นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีในโอกาสที่ ILO ครบรอบ 90 ปี ผ่านทางวิดีทัศน์และได้กล่าวถึงการดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศไทยโดยกระทรวงแรงงาน และ ILO ในตลอดห้วงระยะเวลา 90 ปีที่ผ่านมาในฐานะที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ก่อตั้งองค์การ และเป็นที่ตั้งของสำนักงานประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกมายาวนานกว่า 40 ปี ความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและ ILO เป็นไปโดยราบรื่นเพื่อประโยชน์สูงสุดของการดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมทางสังคม และการสร้างงานที่มีคุณค่า
6. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าวเปิดงาน โดยเน้นถึงบทบาทของกระทรวงแรงงานที่ได้ดำเนินความร่วมมือกับ ILO อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประเทศไทยได้พยายามผลักดันการสร้างวาระงานที่มีคุณค่าด้วยการยกร่างแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าขึ้นเพื่อประโยชน์สุขของผู้ใช้แรงงานทุกคน
7. กระทรวงแรงงานได้ร่วมกับ ILO จัดการประชุมไตรภาคีเรื่องแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่า ซึ่งกระทรวงแรงงานได้ยกร่างขึ้นเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆ ทั้งภาครัฐ องค์การนายจ้างและลูกจ้าง โดยในร่างแผนงานได้กำหนดยุทธศาสตร์สำคัญตามบริบทของประเทศไทย 5 ประการ ได้แก่ 1) การแก้ไขปัญหาแรงงานที่เกิดขึ้นจากภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน 2) การส่งเสริมการมีงานทำ 3) การคุ้มครองแรงงาน 4) การส่งเสริมการเจรจาทางสังคม 5) การจัดระบบการเคลื่อนย้ายแรงงาน
ที่ประชุมไตรภาคีได้มีข้อเสนอเพิ่มเติมว่า ควรให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การดูแลบุตรของแรงงานก่อนวัยเรียน การคุ้มครองแรงงานนอกระบบและแรงงานรับเหมาช่วง และการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำแผนงาน ฯ ด้วย ซึ่งกระทรวงแรงงานจะได้นำข้อเสนอดังกล่าวพิจารณาปรับปรุงร่างแผนงานฯ ต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 มิถุนายน 2552 --จบ--