คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
ข้อเท็จจริง
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอว่า
1. ในคราวประชุมคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) เป็นประธานฯ ได้มีมติเห็นชอบให้แก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค พ.ศ. 2547 เกี่ยวกับการสนับสนุนงบประมาณตามอำนาจของรองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ก่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม และเพื่อประโยชน์ในการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่เป็นไปด้วยความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
2. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้นำร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เสนอรองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ในฐานะประธานกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ได้เห็นชอบให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
สาระสำคัญของร่างระเบียบ
1. กำหนดให้กรณีมีความจำเป็นต้องได้รับจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ให้รองนายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการอนุมัติการจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี และงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นให้แก่หน่วยงานของรัฐในวงเงินไม่เกินเก้าร้อยล้านบาทต่อปี โดยการจัดสรรเงินงบประมาณให้พิจารณาความเหมาะสมและสอดคล้องกับคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคฯ (เดิมกำหนดให้รองนายกรัฐมนตรีมีอำนาจอนุมัติคนละไม่เกินหนึ่งร้อยล้านบาทต่อปี) (ร่างข้อ 3 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 17)
2. กำหนดให้คณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคแต่งตั้งคณะทำงาน สำหรับ รองนายกรัฐมนตรีแต่ละคนเป็นผู้พิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมและความจำเป็นในการใช้จ่ายเงิน (เดิมกำหนดให้คณะกรรมการฯ แต่งตั้งคณะทำงานคณะเดียวเป็นผู้พิจารณา) (ร่างข้อ 4 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 18)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 กรกฎาคม 2552 --จบ--