พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 10, 2009 13:23 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างประกาศและร่างข้อกำหนด

1. ร่างประกาศ เรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

2. ร่างประกาศ เรื่อง ให้หน่วยงานของรัฐมอบอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบตามกฎหมาย ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีอำนาจดำเนินการ และ

3. ร่างข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 รวม 3 ฉบับ ที่แก้ไขแล้วตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้

ข้อเท็จจริง

1. ตามที่ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2552 ได้มีมติเห็นชอบในหลักการให้ใช้อำนาจตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ภายในพื้นที่และระยะเวลาที่กำหนด และอนุมัติหลักการ ร่างประกาศ และข้อกำหนด รวม 3 ฉบับ ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอในการปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ ให้กระทรวงกลาโหม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และหน่วยงานความมั่นคงรับไปหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อแก้ไขปรับปรุงร่างประกาศและร่างข้อกำหนด รวม 3 ฉบับดังกล่าว แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่งในการประชุมสัปดาห์ถัดไป นั้น

2. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาปรับความเหมาะสมของการประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 และได้เห็นชอบร่วมกันแล้วโดยมีการปรับความเหมาะสม ดังนี้

2.1 ปรับข้อความในประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ โดยปรับข้อความให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย

2.2 ปรับข้อความประกาศให้บรรดาอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบตามกฎหมายของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้สอดคล้องกับการประกาศพื้นที่ ตามข้อ 2.1

2.3 ขยายข้อกำหนดตามความในมาตรา 18 จำนวน 5 ข้อ ให้เกิดความชัดเจน

สาระสำคัญของเรื่อง

1. ประกาศ เรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

1.1 กำหนดให้เขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และทะเลอาณาเขต 5 กิโลเมตร รอบจังหวัดภูเก็ต เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

1.2 กำหนดให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยการจัดทำแผนการดำเนินการในการบูรณาการ กำกับ ติดตาม และเร่งรัดหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด รวมทั้งจัดตั้งศูนย์อำนวยการหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น เพื่อปฏิบัติภารกิจการรักษาความปลอดภัยในการประชุมนี้เป็นการเฉพาะ

2. ประกาศ ให้หน่วยงานของรัฐมอบอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบตามกฎหมายให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมีอำนาจดำเนินการ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

2.1 ให้หน่วยงานของรัฐมอบอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบตามกฎหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีอำนาจดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาต อนุมัติสั่งการ บังคับบัญชาหรือช่วยในการป้องกัน แก้ไข ปราบปราม ระงับยับยั้งในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือฟื้นฟู หรือช่วยเหลือประชาชนในเขตท้องที่ ที่มีการประกาศพื้นที่และห้วงเวลาปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ดังต่อไปนี้

2.1.1. พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551

2.2.2. พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547

2.2.3. พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522

2.2.4. พระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530

2.2.5. พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550

2.2.6. พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493

2.2.7. พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522

2.2.8. พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522

2.2.9. พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535

2.2.10. พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490

2.2.11. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับมูลนิธิและ สมาคม 16

2.2.12. ประมวลกฎหมายอาญา

2.2.13. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจสืบสวนและสอบสวน และการใช้อำนาจของพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ

2.2 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เป็นเจ้าพนักงานเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่หน่วยงานของรัฐมอบให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีอำนาจดำเนินการโดยให้ถือเสมือนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายนั้น โดยการใช้กฎหมายดังกล่าวให้ดำเนินการเท่าที่จำเป็นและไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ ทั้งนี้ การมอบอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบตามกฎหมายดังกล่าว มิได้เป็นการทำให้การบังคับใช้กฎหมายของผู้รับผิดชอบเดิมหมดไป ซึ่งยังครอบคลุมหน้าที่ตามปกติ

3. ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

3.1 ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการหรืองดเว้นการปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนการดำเนินการในอำนาจหน้าที่ของ กอ.รมน. และพนักงานเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน. ทั้งนี้ ตามที่ ผอ.รมน. ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผอ.รมน. หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ มีคำสั่ง หรือเป็นการปฏิบัติตามแผนการดำเนินการ เพื่อป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร

3.2 ห้ามบุคคลใดเข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของ กอ.รมน. และภายในระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ของ กอ.รมน. ทั้งนี้ ตามที่ ผอ.รมน. ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผอ.รมน. หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ ประกาศกำหนด เว้นแต่เป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลที่มีประกาศของบุคคลดังกล่าวว่าเป็นบุคคลที่ได้รับยกเว้น

3.3 ห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน

3.4 ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ ทั้งนี้ ตามที่ ผอ.รมน. ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผอ.รมน.หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการประกาศกำหนด

3.5 ให้บุคคลปฏิบัติหรืองดเว้นการปฏิบัติอย่างใดอันเกี่ยวกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ ตามชนิด ประเภท ลักษณะการใช้หรือภายในเขตบริเวณพื้นที่ที่ ผอ.รมน. ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผอ.รมน. หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการ ประกาศกำหนด เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 กรกฎาคม 2552 --จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ