พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ

1. ร่างประกาศ เรื่อง พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

2. ร่างประกาศ เรื่อง การให้หน่วยงานของรัฐมอบอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบตามกฎหมาย ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรดำเนินการแทนหรือมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการด้วย และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย

3. ร่างข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 18 แห่ง พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 รวม 3 ฉบับ ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ

ข้อเท็จจริง

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน) เสนอว่า

1. ประเทศไทยได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (15th ASEAN Summit and Related Summit) ระหว่างวันที่ 21 ถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2552 ณ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีผู้นำประเทศ จำนวน 20 ประเทศ และผู้นำประเทศคู่เจรจา จำนวน 6 ประเทศ เข้าร่วมการประชุม

2. คณะกรรมการอำนวยการและวางแผนการรักษาความปลอดภัยการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบการรักษาความปลอดภัยการประชุมดังกล่าว รวมทั้งได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติให้ใช้อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของ กอ.รมน. ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551

3. ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเกิดประสิทธิภาพและเป็นไปตามขั้นตอนตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 จึงได้เสนอร่างประกาศฯ และร่างข้อกำหนด รวม 3 ฉบับ มาเพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณา

สาระสำคัญของเรื่อง

1. ประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่ 5 ตำบล ในอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และ 4 ตำบลในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และทะเลอาณาเขตชายฝั่ง ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และตำบลหัวหิน ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เว้นเขตพระราชฐานวังไกลกังวล ระหว่างวันที่ 12 ถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2552 โดยมอบให้ กอ.รมน.รับผิดชอบในการดำเนินการตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551

2. ให้หน่วยงานของรัฐมอบอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบตามกฎหมายให้ กอ.รมน. ดำเนินการแทนหรือมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการด้วย และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย จำนวน 17 ฉบับ ตามมาตรา 16 วรรคสี่ ได้แก่

1. พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551

2. พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547

3. พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522

4. พระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530

5. พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550

6. พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493

7. พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522

8. พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522

9. พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535

10.พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490

11.พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456

12.พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547

13.พระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร์ พ.ศ. 2534

14.พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

15.ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับมูลนิธิและสมาคม

16.ประมวลกฎหมายอาญา

17.ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจสืบสวนและสอบสวน และการใช้อำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ

3. ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 จำนวน 5 ข้อ ได้แก่

3.1 ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการหรืองดเว้นการปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง

3.2 ห้ามบุคคลเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่ อาคารหรือสถานที่ที่กำหนดในห้วงเวลาที่ปฏิบัติการเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้น

3.3 ห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน

3.4 ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะหรือกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ

3.5 ให้บุคคลปฏิบัติหรืองดเว้นการปฏิบัติอย่างใดอันเกี่ยวกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิตร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 ตุลาคม 2552 --จบ--