ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

เรื่อง ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก

และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

2. เห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2552 เรื่อง ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เนื่องจากได้นำหลักเกณฑ์การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ข้าราชการพลเรือนตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวไปรวมไว้ในร่างระเบียบฯ ตามข้อ 1. ด้วยแล้ว

ข้อเท็จจริง

คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย ประจำปี 2552 ได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 1/2552 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2552 ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ผู้ปฏิบัติงานตามกฎหมายว่าด้วยการปกครองท้องที่ และกำหนดหลักเกณฑ์การ ขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่บุคคลบางตำแหน่งเพิ่มเติมพร้อมกันกับการแก้ไขหลักเกณฑ์การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ข้าราชการพลเรือน โดยประกาศใช้ร่างระเบียบฯ ตามข้อ 1.

สาระสำคัญของร่างระเบียบ

1. กำหนดให้ยกเลิก บัญชี 12 และบัญชี 13 ท้ายระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ. 2536 และให้ใช้ บัญชี 12 และ บัญชี 13 ท้ายระเบียบนี้แทน

บัญชี 12 การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น เนื่องจากปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จากเดิมที่กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดโดยตำแหน่งมาเป็นการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดโดยตรง นอกจากนี้ได้มีการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ขึ้น แต่ยังไม่มีเกณฑ์การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรดังกล่าว ดังนั้น จึงสมควรกำหนดเกณฑ์การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์พร้อมทั้งปรับปรุงเกณฑ์ของตำแหน่งอื่น ๆ ในบัญชีเดียวกัน ให้เหมาะสมขึ้นด้วย

บัญชี 13 การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานตามกฎหมายว่าด้วยการ ปกครองท้องที่ ใช้บัญชีใหม่เพื่อปรับเกณฑ์ของกำนันให้เท่าเทียมกับนายก อบต. และปรับเกณฑ์ของผู้ดำรงตำแหน่งอื่นๆ ในบัญชีเดียวกันให้เหมาะสมขึ้นด้วย

2. กำหนดให้เพิ่ม บัญชี 39 ถึงบัญชี 44 ท้ายระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ. 2536 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 33 ลงวันที่ 30 กันยายน พุทธศักราช 2549 ดังนี้

2.1 บัญชี 39 การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และ บัญชี 40 การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เนื่องจากขณะที่มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับที่ 33 ไม่มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ทำให้ยังไม่มีการกำหนดเกณฑ์การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไว้ ดังนั้น จึงสมควรกำหนดเกณฑ์การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวโดยได้พิจารณาให้เท่าเทียมกับองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญองค์กรอื่นๆ ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับที่ 33

2.2 บัญชี 41 การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ข้าราชการพลเรือน กำหนดบัญชีขึ้นใหม่เพื่อกำหนดเกณฑ์การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้สอดคล้องกับโครงสร้างตำแหน่งที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2552 แต่สมควรนำมาประกาศใช้รวมกับบัญชี อื่นๆ ในครั้งนี้

2.3 บัญชี 42 การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่พนักงานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นข้าราชการ ซึ่งได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเนื่องจากผู้ปฏิบัติงานในสำนักงานขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญนอกจาก 2 องค์กรดังกล่าว มีสถานะเป็นข้าราชการประจำ จึงเทียบเคียงการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์โดยใช้เกณฑ์ของข้าราชการพลเรือนได้ แต่พนักงาน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และพนักงานสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ใช่ข้าราชการ จึงไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะขอพระราชทานในฐานะข้าราชการ ดังนั้น จึงสมควรกำหนดบัญชีการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้เป็นการเฉพาะ ทั้งนี้ โดยได้เทียบเคียงหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐด้วยแล้ว

2.4 บัญชี 43 การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่คู่สมรสตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และ บัญชี 44 การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่คู่สมรสกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน กำหนดเกณฑ์การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่คู่สมรสของผู้ดำรงตำแหน่งใน 2 องค์กรดังกล่าว โดยได้พิจารณาให้เท่าเทียมกับคู่สมรสของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญองค์กรอื่นๆ ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯ ฉบับที่ 33

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 ตุลาคม 2552 --จบ--