ขอความเห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาแผ่นดินไหว

เรื่อง ขอความเห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาแผ่นดินไหวระหว่างกรมอุตุนิยมวิทยา

และสำนักงานแผ่นดินไหวจีนฉบับใหม่เพื่อใช้แทนฉบับเดิม

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาแผ่นดินไหวระหว่างไทย — สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อใช้แทนฉบับเดิม ซึ่งได้เสนอและอนุมัติให้อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าวแล้ว และหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงหรือแก้ไขข้อตกลงในบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระ สำคัญหรือไม่ขัดผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารดำเนินการได้โดยหารือกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานว่า

1. กรมอุตุนิยมวิทยาได้ดำเนินการในกิจกรรมต่าง ๆ ตามข้อตกลงซึ่งได้แก่ ความร่วมมือด้านวิชาการ การศึกษาวิจัยแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว การให้ข้อเสนอแนะและพัฒนาระบบตรวจแผ่นดินไหว รวมถึงการแลกเปลี่ยนการดูงานของนักวิทยาศาสตร์ วิศวกรระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศเป็นประจำ และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในด้านวิชาการแผ่นดินไหว ทำให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ ดังนี้

1.1 ผลจากความร่วมมือจะเป็นแนวทางในเชิงนโยบายระดับชาติ และเชิงปฏิบัติเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและบรรเทาภัยแผ่นดินไหว

1.2 เกิดความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลและวิชาการแผ่นดินไหวระหว่างประเทศ รวมทั้งความรู้ ประสบการณ์ระหว่างนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรของทั้งสองประเทศ

1.3 เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องมือตรวจวัดและเพิ่มศักยภาพของบุคลากรที่ปฏิบัติงานให้มีความรู้ด้านแผ่นดินไหวและวิศวกรรมแผ่นดินไหว

1.4 กระตุ้นให้หน่วยงานในประเทศที่เกี่ยวข้องกับภัยแผ่นดินไหว ศึกษา และวิจัยในเรื่องของแผ่นดินไหว วิศวกรรมแผ่นดินไหว ธรณีฟิสิกส์ ธรณีวิทยา ซึ่งมีความสำคัญในการคาดการณ์ภัยแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นในบริเวณเสี่ยงภัย

1.5 ประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมที่สามารถใช้ผลของการศึกษาและวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญจีนนำมาประยุกต์ใช้ในกิจกรรม หรือวางมาตรการที่เหมาะสมกับประเทศไทย

2. จากข้อตกลงเดิมในปี 2546 (มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 พฤษภาคม 2546) ของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวมีผลสิ้นสุดลงในระยะเวลา 5 ปี ตามเงื่อนไขข้อ 9 ของสัญญา และได้ครบกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2551 ในการนี้กรมอุตุนิยมวิทยาและสำนักงานแผ่นดินไหวจีน มีความประสงค์จะจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาแผ่นดินไหวฉบับใหม่เพื่อใช้แทนฉบับเดิม โดยการนำบันทึกความเข้าใจฉบับเดิมมาปรับใช้ และในบันทึกความเข้าใจฉบับใหม่จะมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาไปจากเดิมเฉพาะในข้อ 9 ซึ่งทั้งสองหน่วยงานประสงค์จะให้มีการต่ออายุบันทึกความเข้าใจฯ เป็นเวลาครั้งละ 5 ปีได้โดยอัตโนมัติ

3. กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีหนังสือลงวันที่ 8 เมษายน 2552 เพื่อขอหารือเกี่ยวกับการต่ออายุบันทึกความเข้าใจดังกล่าวออกไปอีก 5 ปี โดยไม่เปลี่ยนแปลงข้อความใด ๆ ในบันทึกความตกลงฉบับเดิม และสามารถดำเนินการลงนามในบันทึกความตกลงฯ ได้โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีก ซึ่งกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีหนังสือลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 แจ้งว่าคู่ภาคีทั้งสองฝ่ายไม่ได้ดำเนินการต่ออายุความตกลงก่อนที่บันทึกความเข้าใจจะสิ้นสุดลง จึงไม่สามารถต่ออายุบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับเดิมได้ สำหรับกรณีนี้จึงจำเป็นต้องจัดทำบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับใหม่และร่างบันทึกความเข้าใจฯ ที่จะจัดทำขึ้นใหม่ น่าจะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่ต้องได้รับความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีก่อนลงนาม

4. นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีหนังสือลงวันที่ 3 กันยายน 2552 เพื่อสอบถามไปยังกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศอีกครั้งเพื่อให้พิจารณาเนื้อหาในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับใหม่เพื่อใช้แทนฉบับเดิมที่จะทำการต่ออายุ โดยเฉพาะในข้อ 9 ว่าข้อความถูกต้องตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาและสำนักแผ่นดินไหวจีนประสงค์จะให้มีการต่ออายุบันทึกความเข้าใจฯ เป็นเวลาครั้งละ 5 ปี ได้โดยอัตโนมัติหรือไม่ ซึ่งกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีหนังสือลงวันที่ 13 ตุลาคม 2552 แจ้งว่าไม่มีข้อขัดข้องต่อร่างบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับใหม่และต่อเนื้อหาในข้อ 9 และได้แก้ไขถ้อยคำบางประโยค ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาได้ดำเนินการแก้ไขในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับใหม่แล้วและเห็นสมควรให้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับใหม่ระหว่างกัน

5. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร แจ้งตามหนังสือ ทก. ด่วนที่สุด ที่ ทก 0200.11/84 ลงวันที่ 12 มกราคม 2553 ว่าบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว เน้นประโยชน์ต่อการพัฒนางานด้านแผ่นดินไหวและวิศวกรรมแผ่นดินของประเทศ รวมทั้งการวางแผนป้องกันและบรรเทาภัยแผ่นดินไหวเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยมุ่งเน้นความร่วมมือทางด้านการศึกษาแผ่นดินไหว ซึ่งไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญา หรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ ไม่มีข้อความใดๆ ในบันทึกความเข้าใจฯ มีประเด็นเกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 190

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 มกราคม 2553--จบ--