คณะรัฐมนตรีรับทราบสรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2550) ตามที่ กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและวาตภัยตลอดจนให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2550 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ดังนี้
1.สรุปสถานการณ์อุทกภัย (ระหว่างวันที่ 25 - 30 มิถุนายน 2550)
1.1 สาเหตุการเกิด ระหว่างวันที่ 25 — 30 มิถุนายน 2550 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและฝนฟ้าคะนองบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้มีเกิดสถานการณ์อุทกภัยและวาตภัยในหลายพื้นที่ ประชาชนประสบความเดือดร้อนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
1.2 พื้นที่ประสบภัยรวม 3 จังหวัด 4 อำเภอ 1 กิ่งฯ ได้แก่ จังหวัดลำปาง แพร่ และจันทบุรี
1.3 ความเสียหาย
1) ราษฎรเดือดร้อนประมาณ 5,042 คน 1,225 ครัวเรือน
2) ด้านทรัพย์สิน ถนน 15 สาย สะพาน 5 แห่ง ทำนบ 6 แห่ง ความเสียหายด้านอื่นๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ
1.4 มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 10,000,000 บาท
1.5 สถานการณ์อุทกภัยปัจจุบัน สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้วทั้ง 3 จังหวัดตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2550
1.6 สถานการณ์อุทกภัยแยกรายจังหวัด ดังนี้
1) จังหวัดจันทบุรี ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องสะสมตั้งแต่วันที่ 25-27 มิถุนายน 2550 ที่กิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฎ อำเภอมะขาม และอำเภอเมืองจันทบุรี เฉลี่ยวันละ 100-190 มม. ทำให้พื้นที่ลุ่มการเกษตรมีน้ำท่วมขัง คอสะพานช่วงตำบลตะเคียนทอง-ตำบลพลวง กิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฎ ชำรุด 1 แห่ง สถานการณ์อุทกภัยเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2550
2) จังหวัดลำปาง ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในระหว่างวันที่ 27-28 มิถุนายน 2550 ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ ตำบลปงยางคก (หมู่ที่ 6) อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 100 คน 20 ครัวเรือน และน้ำท่วมทางหลวงหมายเลข 1034 ตอน อบต.ลำปางหลวงควบคุม-บรรจบทางหลวงหมายเลข 11 (ห้างฉัตร) ช่วง กม.ที่ 9-10 เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2550
3) จังหวัดแพร่ ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากในลำห้วยแม่สะกึ๋น อำเภอสอง ทำให้ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและล้นออกบริเวณช่องเขาที่จะทำการก่อสร้างอาคารทางระบายน้ำ (Spillway) แห่งใหม่ของอ่างห้วยแม่สะกึ๋น จากการตรวจสอบในเบื้องต้นไม่มีความเสียหาย ในบริเวณทำนบดินที่ทำการก่อสร้างดังกล่าว ซึ่งทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ใต้อ่างฯ ให้เตรียมความพร้อมรับการอพยพหากมีสถานการณ์อุทกภัยเกิดขึ้น ทั้งนี้สถานการณ์อุทกภัยยุติเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2550
1.7 การให้ความช่วยเหลือ จังหวัดพร้อมด้วยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิก อส. อปพร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบความเสียหาย และได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น รวมทั้งได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
2. สถานการณ์วาตภัย เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2550 ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงพัดบ้านเรือนราษฎร และสิ่งก่อสร้างต่างๆเสียหายในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี ฉะเชิงเทรา และสงขลา ดังนี้
1) กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2550 ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในเขตกรุงเทพมหานคร 33 เขต โดยมีป้ายขนาดใหญ่ล้มลงมา 2 ป้าย ป้ายขนาดเล็ก 23 ป้าย เสาไฟฟ้าล้ม 13 ต้น สายไฟขาด 2 จุด รถยนต์เสียหาย 8 คัน และตู้โทรศัพท์อีกจำนวนหนึ่ง มีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ น.ส.จงดี ศรีกุลคร อายุ 34 ปี ขณะนั่งในร้านก๋วยเตี๋ยวญาติกา แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ล้มทับ และมีเด็กนักเรียนได้บาดเจ็บ 3 คน ในเขตดินแดง (ถูกไฟฟ้าช็อต) ได้แก่ ด.ญ.ปิยเนตร ดอกเทียน อายุ 5 ปี ด.ญ.อรนภา ดอกเทียน อายุ 8 ปี และ ด.ช.จักรกฤษณ์ ดอกเทียน อายุ 12 ปี
2) จังหวัดปทุมธานี ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงพัดบ้านเรือนราษฎรเสียหายในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เสียหาย จำนวน 3 หลัง
3) จังหวัดนนทบุรี ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงพัดบ้านเรือนราษฎรเสียหายในพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลไทรใหญ่ (หมู่ที่ 2) ตำบลไทรน้อย (หมู่ที่ 4) และตำบลขุนศรี (หมู่ที่ 2) อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี เสียหาย จำนวน 4 หลัง
4) จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงพัดบ้านเรือนราษฎรเสียหายในพื้นที่ 3 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอบางคล้า (ตำบลหัวไทร ตำบลท่าทองหลาง และในเขตเทศบาลตำบลปากน้ำ) อำเภอราชสาส์น (ตำบลเมืองใหม่) อำเภอพนมสารคาม (ตำบลหนองยาว ตำบลบ้านซ่อง) และกิ่งอำเภอคลองเขื่อน (ตำบลบางโรง) เสียหาย รวมจำนวน 10 หลัง
5) จังหวัดสงขลา ได้เกิดลมกระโชกแรงในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหาดใหญ่ ตำบลทุ่งตำเสา (หมู่ที่ 1,2,7) ราษฎรเดือดร้อน 215 ครัวเรือน อำเภอสทิงพระ ที่ตำบลท่าหิน (หมู่ที่ 2-9) ตำบลบ่อดาน (หมู่ที่ 2,3,4) ตำบลบ่อแดง (หมู่ที่ 6) และตำบลคูขุด (หมู่ที่ 8,9) บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 498 ครัวเรือน
การให้ความช่วยเหลือ
จังหวัด/กรุงเทพมหานคร/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นและเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พ.ศ. 2546 แล้ว
3. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน — 5 กรกฎาคม 2550 (ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา)
3.1 ลักษณะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย โดยจะมีกำลังแรงขึ้นอีกในช่วงวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2550 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศยังคงมีฝนตกต่อไปอีก โดยมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ข้อควรระวัง ในระยะนี้ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ ตาก ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากจากฝนที่ตกหนักตามแนวเขาที่จะไหลลงมา รวมทั้งขอให้ระมัดระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ สำหรับชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2550 ไว้ด้วย
3.2 สำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาวะอากาศ ตามข้อ 3.1 ให้จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ได้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่มและคลื่นลมแรง อันเกิดจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอ่าวไทย และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น โดยให้แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในระยะ 5-6 วันนี้ และให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 กรกฎาคม 2550--จบ--
1.สรุปสถานการณ์อุทกภัย (ระหว่างวันที่ 25 - 30 มิถุนายน 2550)
1.1 สาเหตุการเกิด ระหว่างวันที่ 25 — 30 มิถุนายน 2550 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและฝนฟ้าคะนองบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้มีเกิดสถานการณ์อุทกภัยและวาตภัยในหลายพื้นที่ ประชาชนประสบความเดือดร้อนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
1.2 พื้นที่ประสบภัยรวม 3 จังหวัด 4 อำเภอ 1 กิ่งฯ ได้แก่ จังหวัดลำปาง แพร่ และจันทบุรี
1.3 ความเสียหาย
1) ราษฎรเดือดร้อนประมาณ 5,042 คน 1,225 ครัวเรือน
2) ด้านทรัพย์สิน ถนน 15 สาย สะพาน 5 แห่ง ทำนบ 6 แห่ง ความเสียหายด้านอื่นๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ
1.4 มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 10,000,000 บาท
1.5 สถานการณ์อุทกภัยปัจจุบัน สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้วทั้ง 3 จังหวัดตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2550
1.6 สถานการณ์อุทกภัยแยกรายจังหวัด ดังนี้
1) จังหวัดจันทบุรี ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องสะสมตั้งแต่วันที่ 25-27 มิถุนายน 2550 ที่กิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฎ อำเภอมะขาม และอำเภอเมืองจันทบุรี เฉลี่ยวันละ 100-190 มม. ทำให้พื้นที่ลุ่มการเกษตรมีน้ำท่วมขัง คอสะพานช่วงตำบลตะเคียนทอง-ตำบลพลวง กิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฎ ชำรุด 1 แห่ง สถานการณ์อุทกภัยเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2550
2) จังหวัดลำปาง ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในระหว่างวันที่ 27-28 มิถุนายน 2550 ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ ตำบลปงยางคก (หมู่ที่ 6) อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 100 คน 20 ครัวเรือน และน้ำท่วมทางหลวงหมายเลข 1034 ตอน อบต.ลำปางหลวงควบคุม-บรรจบทางหลวงหมายเลข 11 (ห้างฉัตร) ช่วง กม.ที่ 9-10 เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2550
3) จังหวัดแพร่ ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากในลำห้วยแม่สะกึ๋น อำเภอสอง ทำให้ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและล้นออกบริเวณช่องเขาที่จะทำการก่อสร้างอาคารทางระบายน้ำ (Spillway) แห่งใหม่ของอ่างห้วยแม่สะกึ๋น จากการตรวจสอบในเบื้องต้นไม่มีความเสียหาย ในบริเวณทำนบดินที่ทำการก่อสร้างดังกล่าว ซึ่งทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ใต้อ่างฯ ให้เตรียมความพร้อมรับการอพยพหากมีสถานการณ์อุทกภัยเกิดขึ้น ทั้งนี้สถานการณ์อุทกภัยยุติเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2550
1.7 การให้ความช่วยเหลือ จังหวัดพร้อมด้วยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิก อส. อปพร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบความเสียหาย และได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น รวมทั้งได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
2. สถานการณ์วาตภัย เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2550 ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงพัดบ้านเรือนราษฎร และสิ่งก่อสร้างต่างๆเสียหายในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี ฉะเชิงเทรา และสงขลา ดังนี้
1) กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2550 ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในเขตกรุงเทพมหานคร 33 เขต โดยมีป้ายขนาดใหญ่ล้มลงมา 2 ป้าย ป้ายขนาดเล็ก 23 ป้าย เสาไฟฟ้าล้ม 13 ต้น สายไฟขาด 2 จุด รถยนต์เสียหาย 8 คัน และตู้โทรศัพท์อีกจำนวนหนึ่ง มีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ น.ส.จงดี ศรีกุลคร อายุ 34 ปี ขณะนั่งในร้านก๋วยเตี๋ยวญาติกา แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ล้มทับ และมีเด็กนักเรียนได้บาดเจ็บ 3 คน ในเขตดินแดง (ถูกไฟฟ้าช็อต) ได้แก่ ด.ญ.ปิยเนตร ดอกเทียน อายุ 5 ปี ด.ญ.อรนภา ดอกเทียน อายุ 8 ปี และ ด.ช.จักรกฤษณ์ ดอกเทียน อายุ 12 ปี
2) จังหวัดปทุมธานี ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงพัดบ้านเรือนราษฎรเสียหายในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เสียหาย จำนวน 3 หลัง
3) จังหวัดนนทบุรี ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงพัดบ้านเรือนราษฎรเสียหายในพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลไทรใหญ่ (หมู่ที่ 2) ตำบลไทรน้อย (หมู่ที่ 4) และตำบลขุนศรี (หมู่ที่ 2) อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี เสียหาย จำนวน 4 หลัง
4) จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงพัดบ้านเรือนราษฎรเสียหายในพื้นที่ 3 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอบางคล้า (ตำบลหัวไทร ตำบลท่าทองหลาง และในเขตเทศบาลตำบลปากน้ำ) อำเภอราชสาส์น (ตำบลเมืองใหม่) อำเภอพนมสารคาม (ตำบลหนองยาว ตำบลบ้านซ่อง) และกิ่งอำเภอคลองเขื่อน (ตำบลบางโรง) เสียหาย รวมจำนวน 10 หลัง
5) จังหวัดสงขลา ได้เกิดลมกระโชกแรงในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหาดใหญ่ ตำบลทุ่งตำเสา (หมู่ที่ 1,2,7) ราษฎรเดือดร้อน 215 ครัวเรือน อำเภอสทิงพระ ที่ตำบลท่าหิน (หมู่ที่ 2-9) ตำบลบ่อดาน (หมู่ที่ 2,3,4) ตำบลบ่อแดง (หมู่ที่ 6) และตำบลคูขุด (หมู่ที่ 8,9) บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 498 ครัวเรือน
การให้ความช่วยเหลือ
จังหวัด/กรุงเทพมหานคร/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นและเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พ.ศ. 2546 แล้ว
3. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน — 5 กรกฎาคม 2550 (ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา)
3.1 ลักษณะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย โดยจะมีกำลังแรงขึ้นอีกในช่วงวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2550 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศยังคงมีฝนตกต่อไปอีก โดยมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ข้อควรระวัง ในระยะนี้ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ ตาก ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากจากฝนที่ตกหนักตามแนวเขาที่จะไหลลงมา รวมทั้งขอให้ระมัดระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ สำหรับชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2550 ไว้ด้วย
3.2 สำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาวะอากาศ ตามข้อ 3.1 ให้จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ได้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่มและคลื่นลมแรง อันเกิดจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมอ่าวไทย และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น โดยให้แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในระยะ 5-6 วันนี้ และให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 กรกฎาคม 2550--จบ--