การลงนามในเอกสารโครงการความเป็นหุ้นส่วนเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ

เรื่อง การลงนามในเอกสารโครงการความเป็นหุ้นส่วนเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ

โดยใช้องค์กรการปราบปรามระดับภูมิภาค-หน่วยที่ 3 (ด้านยาเสพติด)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลงานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ช.) เป็นผู้ลงนามในเอกสารโครงการความเป็นหุ้นส่วนเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ โดยใช้องค์กรการปราบปรามระดับภูมิภาค-หน่วยที่ 3 (ด้านยาเสพติด) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

1. กระทรวงยุติธรรมรายงานว่า ในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่ายฯ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2552 ที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบกับแนวคิดโครงการความเป็นหุ้นส่วนเพื่อต่อต้านอาชญากรรม ข้ามชาติ โดยใช้องค์กรการปราบปรามระดับภูมิภาค-หน่วยที่ 3 (ด้านยาเสพติด) (Partnership Against Transnational-crime through Regional Organizded Law-enforcemcnt — PATROL : Module 3 (Drugs) โดยขอให้ประเทศภาคี ดำเนินการเพื่อรับรองและลงนามในเอกสารโครงการเพื่อให้มีการดำเนินโครงการต่อไป โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างกลไกสำนักงานประสานงานชายแดนให้สามารถแก้ไขปัญหาการลักลอบลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นที่การเสริมสร้างขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานในสำนักงานประสานงานชายแดน

2. กระทรวงยุติธรรมพิจารณาเห็นว่า การดำเนินโครงการนี้เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากโครงการเดิม คือ โครงการ Development of cross-border law enforcemcnt cooperation in South East Asia (D91) และโครงการ Consolidation and Enhancement of the Border Liaison Office Mechanism (BLO) in East Asia (I61) ซึ่งคณะรัฐมนตรีเคยให้ความเห็นชอบแล้ว โดยเป็นการเสริมประสิทธิภาพของกลไกสำนักงานประสานงานชายแดนที่มีอยู่ ดังนั้น การลงนามในเอกสารโครงการความเป็นหุ้นส่วนเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติฯ เข้าข่ายมาตรา 190 วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งบัญญัติให้การทำหนังสือสัญญาใดที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญาหรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาหรือไม่นั้น กระทรวงยุติธรรมพิจารณาแล้วเห็นว่าเอกสารโครงการความเป็นหุ้นส่วนเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติฯ เป็นการขยายการดำเนินงานจากโครงการเดิมดังกล่าวข้างต้น ที่ประเทศไทยเคยเข้าร่วมโครงการและดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ดังนั้น การลงนามในเอกสารโครงการความเป็นหุ้นส่วนเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติฯ จึงไม่เข้าข่ายมาตรา 190 วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 พฤษภาคม 2553--จบ--