เรื่อง รายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548
ครั้งที่ 1 ที่ครบกำหนดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2552
คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ครั้งที่ 1 ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอดังนี้
สาระสำคัญของเรื่อง
กค. รายงานว่า
1. เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2552 มีพันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ครั้งที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน 10,000 ล้านบาท และตามกฎหมายในข้อ 4 (มาตรา 8) กำหนดให้ชำระคืนต้นเงินกู้จากบัญชีสะสมคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งในวันที่ครบกำหนดไถ่ถอน พันธบัตรรัฐบาลฯ ดังกล่าวข้างต้น ไม่มีเงินเพียงพอในบัญชีสะสมฯ ดังนั้น กค. จึงได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงินอายุ 5 ปี จำนวน 10,000 ล้านบาท จากสถาบันการเงิน 2 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารแห่งโตเกียว — มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด สาขากรุงเทพฯ แห่งละ 5,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน ประเภทบุคคลธรรมดาของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง (FDR) เฉลี่ยตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นฐานในการคำนวณอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บวกด้วยส่วนต่าง (Spread) ร้อยละ 0.89 ต่อปี โดยปรับอัตราดอกเบี้ย ทุกงวด 6 เดือน หากอัตรา FDR มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ กค. ได้เบิกเงินกู้จากตั๋วสัญญาใช้เงินดังกล่าวข้างต้น จำนวน 10,000 ล้านบาท ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2552 เพื่อนำมาชำระคืนต้นเงินกู้พันธบัตรรัฐบาลกรณีพิเศษฯ ที่ครบกำหนดเรียบร้อยแล้ว
2. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ดำเนินการประกาศเรื่อง การกู้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 10,000 ล้านบาท ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกู้เงินเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ โดยตั๋วสัญญาใช้เงิน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ครั้งที่ 1 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2552 ซึ่งได้นำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศและ งานทั่วไป เล่ม 126 ตอนพิเศษ 180 ง เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2552 แล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 มิถุนายน 2553--จบ--