บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขยายความร่วมมือทวิภาคี

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 4, 2010 16:07 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขยายความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ

ของสาธารณรัฐอิตาลีกับกระทรวงการต่างประเทศของราชอาณาจักรไทย

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอทั้ง 2 ข้อ ดังนี้

1. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขยายความร่วมมือทวิภาคีระหว่าง กต. ของสาธารณรัฐอิตาลี กับ กต. ของราชอาณาจักรไทย (Memorandum of Understanding on the Enhancement of Bilateral Cooperation between the Ministry of Foreign Affairs of the Italian Republic and the Ministry of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand) โดยให้ กต. สามารถเปลี่ยนแปลงถ้อยคำในส่วนที่ไม่กระทบต่อสาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก

2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ

สาระสำคัญของเรื่อง

กต. รายงานว่า

1. เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2549 นายอิกนาซีโอ ดี ปาเช่ (Ignazio Di Pace) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทยในขณะนั้น ได้เข้าพบอธิบดีกรมยุโรป เพื่อทาบทามการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่าง กต. ประเทศไทย กับ กต. ประเทศอิตาลี มีสาระสำคัญเพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันโดยสลับกันจัดการปรึกษาหารือในประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคีทุกด้าน โดยเฉพาะด้านการเมือง ตลอดจนเศรษฐกิจ การพาณิชย์ วิทยาศาสตร์ ความร่วมมือด้านวิชาการและวัฒนธรรม รวมทั้งความร่วมมือระหว่างภาครัฐบาลและเอกชนของทั้งสองประเทศเป็นประจำทุกปีที่กรุงโรมและที่กรุงเทพ ในระดับการเมืองหรือระหว่างเจ้าหน้าที่อาวุโส โดยบันทึกความเข้าใจจะมีผลบังคับใช้ในวันที่มีการลงนามและมีอายุการบังคับใช้เป็นเวลา 3 ปี และจะได้รับการต่ออายุโดยอัตโนมัติเป็นระยะเวลาเท่ากัน (3 ปี) ต่อไป เว้นแต่จะมีการบอกเลิกด้วยการแจ้งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 3 เดือน โดยภาคีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด

2. กต. ของไทยและอิตาลีได้เห็นพ้องร่วมกันที่จะจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวเพื่อส่งเสริมความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป

3. กต. พิจารณาแล้วเห็นว่าร่างบันทึกความเข้าใจฯ เป็นความร่วมมือระหว่าง กต. ของทั้งสองฝ่ายเพื่อหารือกันในด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า วิทยาศาสตร์ วิชาการและวัฒนธรรม ไม่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ จึงไม่น่าจะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อย่างไรก็ดี กต. เห็นว่าบันทึกความเข้าใจฯ น่าจะเป็นหนังสือสัญญาซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีก่อนดำเนินการให้มีผลผูกพัน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 มิถุนายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ