เรื่อง การรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินตามบทบัญญัติ
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 170
คณะรัฐมนตรีรับทราบการการรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 170 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และมอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาดำเนินการตามนัยข้อ 2 และข้อ 3 ต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติในคราวประชุมเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553 รับทราบผลการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐในการรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นนดิน ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 170 รวมทั้งเห็นชอบให้ขยายเวลาการจัดทำรายงานฯ ของหน่วยงานที่ยังไม่จัดส่งรายงานฯ หรือจัดส่งแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์ โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงเจ้าสังกัดเป็นผู้ติดตามรวบรวมรายงานฯ ดังกล่าว และส่งให้สำนักงบประมาณภายใน 2 สัปดาห์ (วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553) และกรณีหน่วยงานต่างๆ ได้ส่งรายงานฯ มายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังไม่ได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีหรือนำเสนอคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังไม่ได้รายงานไปยังสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งรายงานดังกล่าวให้สำนักงบประมาณรวบรวมเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง นั้น
บัดนี้ หน่วยงาน และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้จัดส่งรายงานฯ ให้สำนักงบประมาณเรียบร้อยแล้ว โดยมีบางหน่วยงานขอปรับปรุง เพิ่มเติมข้อมูลจากที่ได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553 ดังนั้น เพื่อให้เห็นภาพรวมทั้งหมด สำนักงบประมาณจึงได้จัดทำรายงาน โดยได้รวบรวมรายงานฯ ที่เสนอคณะรัฐมนตรีครั้งที่แล้วไว้ด้วย สรุปผลได้ดังนี้
1. หน่วยงานของรัฐได้แจ้งการจัดทำรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน รวมทั้งสิ้น 307 หน่วยงานและ 107 กองทุนและเงินทุนหมุนเวียนจำแนกได้ ดังนี้
(1.1) หน่วยงานที่รายงานว่าไม่มีเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน จำนวน 53 หน่วยงาน
(1.2) หน่วยงานที่มีการจัดทำรายงานฯ ครบถ้วน ตามรูปแบบที่กำหนด และจัดทำวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน จำนวน 146 หน่วยงาน และ 62 กองทุน
(1.3) หน่วยงานที่มีการจัดทำรายงานฯ ครบถ้วน ตามรูปแบบที่กำหนด แต่มิได้จัดทำวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน จำนวน 30 หน่วยงาน และ 16 กองทุน
(1.4) หน่วยงานที่มีการจัดทำรายงานฯ ไม่ครบถ้วน เช่น ไม่มีรายงานแสดงฐานะการเงิน รายงานแสดงผลการดำเนินงาน หรือรายงานการรับ — จ่ายเงิน เป็นต้น จำนวน 58 หน่วยงาน และ 21 กองทุน
(1.5) หน่วยงานที่มีการจัดทำรายงานฯ ไม่เป็นตามรูปแบบที่กำหนด ไม่สามารถบันทึกข้อมูลในตารางรายงานได้ จำนวน 11 หน่วยงาน
(1.6) หน่วยงานที่ไม่มีการจัดทำรายงานฯ โดยชี้แจงเหตุผลประกอบ เช่น เป็นหน่วยงานที่เข้าข่ายไม่ต้องทำรายงาน อยู่ระหว่างการทบทวนทิศทางองค์กร/จัดทำระเบียบการใช้จ่ายเงิน เป็นต้น จำนวน 5 หน่วยงาน และ 2 กองทุน
(1.7) หน่วยงานที่ได้ส่งรายงานฯ ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพร้อมทั้งรายงานไปยังสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาแล้ว จำนวน 4 หน่วยงาน และ 6 กองทุน
2. จากการรวบรวมรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินที่หน่วยงานต่าง ๆ จัดทำตามนัยข้อ 1 ปรากฏว่า บางหน่วยงานจัดทำรายละเอียดไม่ครบถ้วน และ/หรือไม่เป็นไปตามรูปแบบมาตรฐานการรายงานที่กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางกำหนดให้หน่วยงานดำเนินการตามที่คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้รับผิดชอบตามนัยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2551 ดังนั้น ก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา จึงเห็นสมควรที่คณะรัฐมนตรีจะมอบหมายให้กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางตรวจสอบและติดตามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงแบบรายงานดังกล่าวให้ถูกต้อง ครบถ้วน และนำเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบ ตามนัยที่กำหนดไว้ในมาตรา 170 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
3. เพื่อให้การจัดทำรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินรายได้ที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินของหน่วยงานต่างๆ ในปีต่อ ๆ ไป ดำเนินการได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และส่งให้กระทรวงการคลังรวบรวมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี และรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบได้ในระยะเวลาที่เหมาสม จึงเห็นสมควรที่กระทรวงการคลังจะได้ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติและกำหนดระยะเวลา เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ เกิดความเข้าใจและนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องครบถ้วน ตามระยะเวลาที่กำหนดต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 มิถุนายน 2553--จบ--