รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนพฤษภาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 30, 2010 15:50 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนพฤษภาคม 2553 ของกระทรวงพาณิชย์ สรุปได้ดังนี้

กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพฤษภาคม 2553 เท่ากับ 107.87 เป็นการรายงานโดยใช้ตัวเลขหลังจุดทศนิยม 2 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 5 ตั้งแต่จัดทำดัชนีราคาผู้บริโภคมานานกว่า 60 ปี โดยยังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 เพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 3.5 และยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยเฉลี่ย 5 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 3.6 ซึ่งอยู่ในช่วงที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปี(โดยคาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นระหว่าง ร้อยละ 3.0 - 3.5) และคาดว่าไตรมาสที่ 2 ดัชนีราคาผู้บริโภคเฉลี่ยจะอยู่ประมาณร้อยละ 3.5

การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกทำให้อัตราการเปลี่ยนแปลงดัชนีราคาผู้บริโภคเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาปรับสูงขึ้นเป็นลำดับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2552 และปรับตัวเข้าสู่เสถียรภาพตั้งแต่ต้นปีนี้ คือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 ในเดือน ม.ค. ร้อยละ3.7 ในเดือน ก.พ. ร้อยละ 3.4 ในเดือนมี.ค. และร้อยละ 3.0 ในเดือนเม.ย. จนอยู่ในระดับร้อยละ 3.5 ในเดือนพ.ค. ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะประสบปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ แต่ราคาผู้บริโภคยังอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ

การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนพฤษภาคม 2553 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมามีปัจจัยหลักมาจากราคาอาหารสด โดยผักสดร้อยละ 15.0 ผลไม้สดร้อยละ 14.1 ข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง สูงขึ้นร้อยละ 9.2 เนื้อสัตว์ต่างๆ ร้อยละ 5.0 ไข่และผลิตภัณฑ์นมสูงขึ้น ร้อยละ 3.1 นอกจากนี้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 31.6 สินค้าในหมวดยาสูบและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์สูงขึ้นร้อยละ 12.5

มาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาลได้แก่ ค่าไฟฟ้า รถเมล์ฟรี การตรึงราคาแก๊สหุงต้ม และการช่วยเหลือค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน และการดูแลราคาสินค้าของกระทรวงพาณิชย์อย่างใกล้ชิด และการช่วยตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ยังคงเป็นการส่งสัญญาณและมีส่วนช่วยค่าครองชีพของประชาชนให้อยู่ในภาวะที่แสดงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนพฤษภาคม 2553 โดยสรุป ดังนี้

จากการสำรวจราคาสินค้าและบริการทั่วประเทศจำนวน 417 รายการครอบคลุมหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า เคหสถาน การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล พาหนะ การขนส่งและการสื่อสาร การบันเทิงการอ่าน การศึกษาและการศาสนา ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เพื่อนำมาคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ได้ผลดังนี้

1. ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนพฤษภาคม 2553

ในปี 2550 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ เท่ากับ 100 และเดือนพฤษภาคม 2553 เท่ากับ 107.87 (เดือน เมษายน 2553 คือ 107.66 )

2. การเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนพฤษภาคม 2553 เมื่อเทียบกับ

2.1 เดือนเมษายน 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.20

2.2 เดือนพฤษภาคม 2552 สูงขึ้นร้อยละ 3.5

2.3 เฉลี่ยช่วงระยะเดียวกัน ( มกราคม - พฤษภาคม ) ปี 2552 สูงขึ้นร้อยละ 3.6

3. ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนพฤษภาคม 2553 เทียบกับ เดือนเมษายน 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.20 (เดือนเมษายน 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.49 ) เป็นภาวะที่ราคาสินค้าและบริการปรับตัวสูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยมีผลกระทบมาจากปัจจัยที่สำคัญ คือ ราคาสินค้าในหมวดอาหารสดและสินค้าอุปโภคปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ผักสดแปรรูปและอื่นๆ เนื้อสุกร ไก่สด ไข่และผลิตภัณฑ์นม ข้าวสารเหนียว ปลาและสัตว์น้ำ เครื่องประกอบอาหาร เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ค่าเช่าบ้านและค่าบริการส่วนบุคคล ในขณะที่สินค้าที่ราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศโดยเฉลี่ยปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปตามภาวะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อ่อนตัวลง ผลไม้สด วัสดุก่อสร้างและสิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด

3.1 ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 0.97 (เดือนเมษายน 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.53) สาเหตุสำคัญเป็นผลจากราคาสินค้าอาหารสดโดยส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ประกอบด้วย ผักสดแปรรูปและอื่นๆ ร้อยละ 14.89 ได้แก่ ผักคะน้า กะหล่ำปลี ผักกาดขาว หัวผักกาดขาว ถั่วฝักยาว เห็ด ผักชี มะเขือเจ้าพระยา พริกสด ขิง หัวหอมแดง กระเทียมและผลไม้บางชนิด เช่น ส้มเขียวหวาน มะม่วง แตงโมและองุ่น เป็นต้น ซึ่งเป็นผลจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและร้อนจัด ส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูกโดยส่วนใหญ่ได้รับความเสียหาย ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลงรวมทั้งเป็นปลายฤดูกาลของผลไม้บางชนิด เนื้อสุกร ร้อยละ 0.28 และไก่สด ร้อยละ 1.59 สุกรและไก่สด ที่มีชีวิตเติบโตช้าเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและสถานศึกษาต่าง ๆ เริ่มทยอยเปิด ภาคเรียนทำให้ความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น ไข่และผลิตภัณฑ์นม ร้อยละ 0.62 (ไข่ไก่ ไข่เป็ด นมสด นมข้นหวาน นมผง นมเปรี้ยว) ช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการบางรายได้ปรับลดปริมาณการผลิตเพื่อให้ผลผลิตใกล้เคียงกับความต้องการบริโภค ข้าวสารเหนียว ร้อยละ 2.80 ปลาและสัตว์น้ำ ร้อยละ 0.17 (ปลาช่อน ปลานิล ปลาทับทิม) เครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 0.63 (น้ำมันพืช ขนมหวาน เครื่องปรุงรส) และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 0.17 (เครื่องดื่มรสชอกโกแลต กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำอัดลม น้ำผลไม้) สำหรับสินค้าที่ราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ผลไม้สด ร้อยละ 1.69 ได้แก่ กล้วยน้ำว้า เงาะ ทุเรียน ฝรั่ง ชมพู่ ส้มโอ ลำไย มังคุดและลองกอง เป็นช่วงฤดูกาลของผลไม้หลายชนิดส่งผลให้ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมากรวมทั้งอาหารสำเสร็จรูปบางชนิด (บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารว่าง)

3.2 ดัชนีหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลงร้อยละ 0.25 เป็นอัตราที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (เดือนเมษายน 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.48) สาเหตุสำคัญเป็นผลกระทบจากราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศโดยเฉลี่ยปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ลดลงร้อยละ 2.44 เป็นผลจากภาวะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลง วัสดุก่อสร้าง ร้อยละ 0.09 (ปูนซีเมนต์ อิฐ) และสิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด ร้อยละ 0.33 (ผงซักฟอก ก้อนดับกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยารีดผ้า) สำหรับสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ ค่าเช่าบ้าน ร้อยละ 0.10 เจ้าของห้องพักปรับราคาค่าเช่าสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้นและค่าบริการส่วนบุคคล (ค่าแต่งผมชาย ค่าดัดผมสตรี ค่าแต่งผมสตรี ค่าโกรกผม ค่าทำเล็บ)

4. ถ้าพิจารณาดัชนีเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2552 สูงขึ้นร้อยละ 3.5 เป็นอัตราที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 สาเหตุสำคัญมาจากการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น ร้อยละ 4.6 ได้รับผลกระทบมาจาก ดัชนีหมวด ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ร้อยละ 10.1 เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ ร้อยละ 1.6 ไข่และผลิตภัณฑ์นม ร้อยละ 1.7 ผักและผลไม้ ร้อยละ 21.7 เครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 2.8 เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 1.4 และอาหารสำเร็จรูป ร้อยละ 0.9 รวมทั้งผลกระทบจากดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ หมวดพาหนะการขนส่ง และการสื่อสาร ร้อยละ 4.6 (ยานพาหนะและน้ำมันเชื้อเพลิง) หมวดเคหสถาน ร้อยละ 1.7 (ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำประปา) หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล ร้อยละ 0.8 (ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าของใช้ส่วนบุคคล) หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า ร้อยละ 0.2 ( ผ้าและเสื้อผ้า) และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 8.2 (ผลิตภัณฑ์ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์) อย่างไรก็ตามยังมีดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มที่ปรับลดลง คือ หมวดการบันเทิง การอ่าน การศึกษาและการศาสนาร้อยละ 0.1 (การบันเทิง การอ่านและการศึกษา)

5. ถ้าพิจารณาดัชนีเฉลี่ยเทียบกับช่วงระยะเดียวกัน (มกราคม - พฤษภาคม) ปี 2552 สูงขึ้นร้อยละ 3.6 สาเหตุสำคัญมาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ร้อยละ 31.6 ค่าน้ำประปา ร้อยละ 48.5 ค่ากระแสไฟฟ้า ร้อยละ 2.3 ผลิตภัณฑ์ยาสูบ ร้อยละ 19.0 เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 7.5 และค่าเช่าบ้าน ร้อยละ 0.1 ส่งผลให้ดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 3.1 ในขณะที่ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 4.2 เป็นผลจากการสูงขึ้นของ ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ร้อยละ 9.2 เนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำ ร้อยละ 3.5 ไข่และผลิตภัณฑ์นม ร้อยละ 3.1 ผักและผลไม้ ร้อยละ 16.2 เครื่องประกอบอาหาร ร้อยละ 2.1 เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ร้อยละ 1.4 และอาหารสำเร็จรูป ร้อยละ 0.8 เป็นสำคัญ

6. ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ ( คำนวณจากรายการสินค้าและบริการ 300 รายการ) คือ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศที่หักรายการสินค้ากลุ่มอาหารสด และกลุ่มพลังงานจำนวน 117 รายการ คิดเป็นประมาณร้อยละ 24 ของสัดส่วนค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนพฤษภาคม 2553 เท่ากับ 103.51 เมื่อเทียบกับ

6.1 เดือนเมษายน 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.06

6.2 เดือนพฤษภาคม 2552 สูงขึ้นร้อยละ 1.2

6.3 เฉลี่ยช่วงระยะเดียวกัน (มกราคม - พฤษภาคม) ปี 2552 สูงขึ้นร้อยละ 0.6 ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศ เดือนพฤษภาคม 2553 เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.06 (เดือนเมษายน 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.28) โดยมีผลกระทบมาจากราคาสินค้าหลายชนิดปรับตัวทั้งสูงขึ้นและลดลง สินค้าที่มีราคาสูงขึ้นได้แก่ ค่าเช่าบ้านและค่าบริการส่วนบุคคล ขณะที่สินค้าที่มีราคาลดลง คือ วัสดุก่อสร้างและสิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 มิถุนายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ