คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลสรุปสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตรปี 2553 ครั้งที่ 19 ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2553 ประกอบด้วย สถานการณ์น้ำ และการดำเนินการตามแผนเตรียมรับสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตรปี 2553 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ดังนี้
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศ (28 มิถุนายน 2553) มีปริมาณน้ำทั้งหมด 33,607 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 9,762 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 13 ของความจุอ่างฯ)น้อยกว่าปี 2552 (41,627 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 56) จำนวน 7,609 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 11 ของความจุอ่างฯ สามารถรับน้ำได้อีก 39,948 ล้านลูกบาศก์เมตร
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ (28 มิถุนายน 2553) มีปริมาณน้ำทั้งหมด 32,015 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 8,488 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 12 ของความจุอ่างฯ) น้อยกว่าปี 2552 (39,280 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 56) จำนวน 7,265 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 19 ของความจุอ่างฯ วันนี้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ จำนวน 24.2 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบาย 68.0 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถรับน้ำได้อีก 37,580 ล้านลูกบาศก์เมตร
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ และป่าสักชลสิทธิ์
หน่วย : ล้าน ลบ.ม.
อ่างเก็บน้ำ ปริมาตรน้ำ ปริมาตรน้ำ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาตรน้ำไหลลงอ่างฯ ปริมาณน้ำระบาย ปริมาณน้ำรับได้อีก ในอ่างฯ ปี52 ในอ่างฯ ปี53 ปริมาตรน้ำ % ปริมาตรน้ำ % ปริมาตรน้ำ % วันนี้ เมื่อวาน วันนี้ เมื่อวาน ภูมิพล 5,785 43 4,080 30 280 2 0 6.03 9.5 7 9,382 สิริกิติ์ 4,208 44 3,251 34 401 5 4.9 6.06 8.3 10.81 6,259 ภูมิพล+สิริกิติ์ 9,993 43 7,331 32 681 3 4.9 12.09 17.8 17.81 15,641 แควน้อยฯ 196 25 125 16 89 12 0.9 0.96 1.3 1.3 644 ป่าสักชลสิทธิ์ 297 31 79 8 76 8 0.37 0 1.06 1.06 881
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 13 อ่าง ได้แก่ แม่งัด(25) แม่กวง(15) กิ่วคอหมา(28) แควน้อย(16) ห้วยหลวง(22) น้ำอูน(26) อุบลรัตน์(25) ลำตะคอง(28) มูลบน(25) ป่าสักฯ(8) ทับเสลา(17) ขุนด่านฯ(10) และคลองสียัด(18)
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำภาคตะวันออก
จังหวัดชลบุรี มีอ่างเก็บน้ำ 7 อ่าง รวมปริมาณน้ำ 74.0 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 41 ของความจุอ่างฯ (น้อยกว่าปี 2552 จำนวน 10.1 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 7) ปริมาณน้ำใช้การได้ 59 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 33 ของความจุอ่างฯ
จังหวัดระยอง มีอ่างเก็บน้ำ 4 แห่ง รวมปริมาณน้ำ 326.5 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 62 ของความจุอ่างฯ (น้อยกว่าปี 2552 จำนวน 0.90 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 1) ปริมาณน้ำใช้การได้ 298 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 57 ของความจุอ่างฯ
2. สภาพน้ำท่า
ภาคเหนือ แม่น้ำปิง ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย ยกเว้นบริเวณสถานี P.1 สะพานนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แม่น้ำวัง แม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แม่น้ำมูล ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย
ภาคกลาง แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย
ภาคใต้ แม่น้ำท่าตะเภา แม่น้ำตาปี แม่น้ำโก-ลก ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย
3. คุณภาพน้ำ
กรมชลประทาน ติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ดังนี้
แม่น้ำ จุดเฝ้าระวัง ข้อมูลวันที่ ค่า DO(mg/l) ค่า Sal (g/l) เกณฑ์ ค่าสูงสุด เวลา เจ้าพระยา ท่าน้ำจังหวัดนนทบุรี 28 มิ.ย.53 - 0.27 10.00 น. ปกติ เจ้าพระยา ปากเกร็ด*จังหวัดนนทบุรี 28 มิ.ย.53 - 0.26 10.00 น. ปกติ ปากคลองสำแล*จังหวัดปทุมธานี 28 มิ.ย.53 - 0.14 01.00 น. ปกติ ท่าจีน ที่ว่าการอำเภอสามพราน 5 มิ.ย.53 1.60 0.16 08.00 น. ค่า DO ต่ำกว่าเกณฑ์ จังหวัดนครปฐม แม่กลอง ปากคลองดำเนินสะดวก 16 มิ.ย.53 4.17 0.10 01.10 น. ปกติ จังหวัดราชบุรี
ค่า Do หมายถึง ค่าออกซิเจนละลายในน้ำ ไม่ต่ำกว่า 2 มิลลิกรัม/ลิตร
ค่า Sal หมายถึง ค่าความเค็มของน้ำ สำหรับการเกษตรไม่เกิน 2 กรัม/ลิตร
การดำเนินการแก้ไขปัญหาภัยแล้งต่อเนื่อง ตามแผนเตรียมสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร
1. แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเลื่อนการทำนาปีในเขตโครงการชลประทานทุกโครงการที่รับน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์จากปกติเดือนพฤษภาคมเป็นประมาณกลางเดือนกรกฎาคม 2553
2. สำนักฝนหลวงและการบินเกษตรได้ปรับแผนปฏิบัติการการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ปัจจุบันมีศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 5 ศูนย์ ประกอบด้วย หน่วยปฏิบัติการ จำนวน 9 หน่วย และฐานเติมสารฝนหลวง จำนวน 5 ฐาน โดยเน้นปฏิบัติการให้พื้นที่ลุ่มรับน้ำต่างๆ ดังนี้
2.1 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำภาคเหนือ หน่วยฯ จังหวัดเชียงใหม่ หน่วยฯ จังหวัดตาก หน่วยฯ จังหวัดแพร่ ฐานเติมสารฯ จังหวัดพิษณุโลก
2.2 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำภาคกลาง หน่วยฯ จังหวัดลพบุรี หน่วยฯ จังหวัดกาญจนบุรี ฐานเติมสารฯ จังหวัดนครสวรรค์
2.3 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หน่วยฯ จังหวัดขอนแก่น หน่วยฯ จังหวัดนครราชสีมา ฐานเติมสารฯ จังหวัดบุรีรัมย์
2.4 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำภาคตะวันออก หน่วยฯ จังหวัดสระแก้ว ฐานเติมสารฯ จังหวัดระยอง
2.5 ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำภาคใต้ หน่วยฯ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฐานเติมสารฯ จังหวัดราชบุรี
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงประจำสัปดาห์ ช่วงวันที่ 18-24 มิถุนายน 2553 ขึ้นปฏิบัติการ จำนวน 275 เที่ยวบิน มีจังหวัดที่มีรายงานฝนตก 51 จังหวัด วัดปริมาณน้ำฝนสูงสุดได้ 70.0 มิลลิเมตร ที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ รวม 143.71 ล้าน ลบ.ม. (จำนวน 21 อ่างฯ)
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงสะสม ช่วงวันที่ 25 มกราคม — 24 มิถุนายน 2553 ขึ้นปฏิบัติการรวม 118 วัน จำนวน 3,333 เที่ยวบิน มีรายงานฝนตกในปฏิบัติการ รวม 107 วัน จำนวน 660 สถานี วัดปริมาณน้ำฝนรายวันสูงสุดได้ 250.0 มิลลิเมตร จังหวัดที่มีรายงานฝนตกรวม 63 จังหวัด จากจำนวนจังหวัดที่อยู่ในเป้าหมายทั้งหมด 70 จังหวัด
3. การประเมินความเสียหายเบื้องต้น
ด้านพืช ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2553
ช่วงภัยวันที่ 1 ก.พ. ถึง ปัจจุบัน พื้นที่การเกษตรประสบภัยทั้งสิ้น 46 จังหวัด ดังนี้
ภาคเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน แพร่ พะเยา พิจิตร พิษณุโลก ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ มุกดาหาร ยโสธร ศรีสะเกษ หนองคาย หนองบัวลำภู ร้อยเอ็ด เลย สกลนครอุบลราชธานี อำนาจเจริญ อุดรธานี
ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระบุรี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา
ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี
ภาคตะวันตก 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์
ภาคใต้ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ ระนอง นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สุราษฎร์ธานี
สำรวจแล้วปรากฏว่า ไม่เสียหาย 2 จังหวัด เสียหาย 42 จังหวัด เป็นพื้นที่การเกษตรทั้งสิ้น 1,012,361 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 89,248 ไร่ พืชไร่ 756,303 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 166,810 ไร่ คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือ 823.53 ล้านบาท
การดำเนินการ
- ช่วยเหลือแล้วด้วยงบจังหวัด วงเงิน 77.89 ล้านบาท
- อยู่ระหว่างให้ความช่วยเหลือ วงเงิน 745.64 ล้านบาท แบ่งเป็น
- อยู่ระหว่างของบกลาง วงเงิน 67.34 ล้านบาท
- อยู่ระหว่างรอประชุม ก.ช.ภ.จ.และรอเอกสารของบกลางของจังหวัด วงเงิน 678.30 ล้านบาท
- อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตากและจันทบุรี พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 14,189 ไร่
ด้านปศุสัตว์ ณ วันที่ 28 มิถุนายน 2553
พื้นที่ประสบภัย 12 จังหวัด แบ่งเป็น ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร แม่ฮ่องสอน ลำปาง น่าน สุโขทัย อุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดมุกดาหาร ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตราด ภาคตะวันตก 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี ราชบุรีภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร และตรัง
เกษตรกร 1,346 ราย สัตว์ที่ได้รับผลกระทบ 14,370 ตัว แบ่งเป็น โค 13,041 ตัว กระบือ 366 ตัว แพะ 963 ตัว แปลงหญ้า 573 ไร่ ให้การช่วยเหลือโดยสนับสนุนหญ้าอาหารสัตว์แล้ว 185.22 ตัน
จากการสำรวจมีความเสียหายที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีโคตาย 31 ตัว เกษตรกร 21 ราย ช่วยเหลือด้วยเงินทดรองราชการของจังหวัดแล้วจำนวน 230,000 บาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 มิถุนายน 2553--จบ--