หมวดที่ 6 รัฐสภาส่วนที่ 1 บททั่วไป ร่างของสภาร่างรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงเพียงถ้อยคำโดยนำคำสภาผู้แทนราษฎรมาอยู่หน้าวุฒิสภาซึ่งเป็นสภาที่ 2 เนื่องจากบทบาทหน้าที่ที่สำคัญกว่า ต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับก่อนๆ ที่ถือว่าวุฒิสภาเป็นสภาสูงส่วนที่ 2 สภาผู้แทนราษฎร - ส.ส. 500 คน มาจากการเลือกตั้งแบบสัด- - จำนวน ส.ส. ขึ้นกับสัดส่วนประชากรแสนห้าหมื่น ส่วนปาร์ตี้ลิสที่มีเขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง คนต่อ ส.ส. 1 คนเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเรียงเบอร์ 100 คนโดยกระจายผู้สมัครจากภูมิภาคต่างๆ อย่างเป็นธรรม และจากการเลือกตั้งเขต เดียวคนเดียวที่มีเขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง 400 คน - ไม่ห้ามบุคคลที่หูหนวกเป็นใบ้เป็น ส.ส. - บุคคลที่หูหนวก และเป็นใบ้ห้ามเป็น ส.ส. - ส.ส.ต้องมีสังกัดพรรคการเมืองก่อนวันเลือก - ส.ส.ต้องสังกัดพรรคการเมือง ตั้งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 90 วัน - ส.ส.ต้องมีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี เว้นแต่ผู้ - ไม่ระบุวุฒิการศึกษาของ ส.ส. เคยเป็น ส.ส. สว.มาก่อน - ไม่ห้ามการถือสัมปทานจากรัฐ ที่มีก่อนที่จะได้ - ห้ามคงถือไว้ ซึ่งสัมปทานจากรัฐ รับเลือกเป็น ส.ส. - ลงสมัครรับเลือกตั้งในรูปแบบการเลือกตั้งทั้ง - มีวิธีการเลือกตั้งแบบเดียว 2 แบบพร้อมกันไม่ได้ - การนับคะแนนให้นับรวมกันที่เดียวในเขตเลือก - การนับคะแนนให้นับที่หน่วยเลือกตั้ง ตั้งนั้นๆ - พรรคการเมืองใดที่ได้รับคะแนนเลือกตั้งแบบ - คะแนนของผู้สมัครที่สอบตกไม่มีความหมาย สัดส่วนปาร์ตี้ลิสไม่ถึง 5% ของผู้ลงคะแนน ทั้งหมดจะไม่ได้ ส.ส.ในสัดส่วนปาร์ตี้ลิสนั้น - ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง หรือมีถิ่นที่ - ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต้องเป็นผู้มีทะเบียนบ้านในเขต อยู่ นอกประเทศมีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งแต่ เลือกตั้งนั้นเท่านั้น ยังไม่มีข้อยุติว่าลงคะแนนได้เฉพาะการเลือกตั้ง แบบปาร์ตี้ลิสเท่านั้น หรือทั้ง 2 แบบ ขึ้นกับ กฎหมายลูกที่รัฐสภาจะออกต่อมา - ส.ส.ที่เป็นนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีต้องพ้น - ส.ส.เป็นนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีได้ จากการเป็นส.ส. ในขณะเดียวกัน - ส.ส.ที่ขาดการประชุมเกิน 1 ใน 4 ของวัน - ส.ส.ที่ขาดตลอดสมัยประชุมสภาต้องพ้น ประชุมในแต่ละสมัยประชุมสภา ต้องพ้น สมาชิกภาพ สมาชิกภาพหลักการที่ตัดออกจากร่างของกรรมาธิการยกร่างฯ - การห้ามส.ส.ถือครองสัมปทานจากรัฐทั้งก่อน และขณะเป็นส.ส.ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม - นายกรัฐมนตรีต้องปรึกษาคณะรัฐมนตรีก่อนนำ - นายกรัฐมนตรีมีอำนาจตัดสินใจยุบสภา มติคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯตราพระราชกฤษฎี แต่เพียงผู้เดียวการยุบสภาส่วนที่ 3 วุฒิสภา - มีวาระดำรงตำแหน่ง 6 ปี - มีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี - ไม่สังกัดพรรคการเมือง หากเคยเป็นส.ส. - ไม่สังกัดพรรคการเมือง ต้องพ้นมาแล้ว 1 ปี - ห้ามเป็นวุฒิสมาชิกติดต่อกัน 2 สมัย - เป็นวุฒิฯ ติดต่อกันได้ไม่จำกัดสมัย - ไม่ห้ามบุคคที่หูหนวก เป็นใบ้เป็นวุฒิสมาชิกวุฒิฯ - บุคคลที่หูหนวก และเป็นใบ้ห้ามเป็น - ไม่เป็นข้าราชการประจำ พนักงานรัฐวิสาหกิจ - เป็นข้าราชการประจำ พนักงานรัฐวิสาหกิจได้ - ห้ามเป็นรัฐมนตรี หรือข้าราชการการเมือง - วุฒิฯ ที่ไม่ได้เป็นข้าราชการประจำ ไปเป็น ยกเว้นพ้นจากวุฒิฯ ไปแล้ว 1 ปี รัฐมนตรีหรือข้าราชการการเมืองได้ ในขณะ เดียวกันได้ - มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป - มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป - วุฒิการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไปหรือเทียบเท่า - ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา - ทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย แต่งตั้งและถอด - ทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมายเท่านั้น ถอนผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรตรวจสอบทางการ เมืองถอดถอนรัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง ข้าราชการประจำระดับสูงประธานศาล และ อัยการสูงสุด ส.ส. - มีอำนาจตั้งกระทู้ถาม อภิปรายทั่วไปเกี่ยวกับ - ไม่มีอำนาจอภิปรายทั่วไป ปัญหาสำคัญของชาติโดยไม่มีการลงมติ - วุฒิสมาชิกมีจำนวนตายตัว 200 คน - มีจำนวน 2 ใน 3 ของจำนวนส.ส. - มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน - นายกรัฐมนตรีคัดเลือกเสนอชื่อเพื่อทูลเกล้าฯ ถือเขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่เพียงผู้เดียว ลงคะแนนเลือกได้ 1 คนจังหวัดใดที่มีได้มากว่า 1 คนให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดและลำดับถัดไปได้ รับเลือกตั้งเท่าจำนวนวุฒิฯ ที่จังหวัดนั้นมี - ในการเลือกตั้งห้ามหาเสียงนอกเหนือจากที่ กฎหมายกำหนดส่วนที่ 4 คณะกรรมการเลือกตั้ง - จำนวน 5 คน เป็นผู้มีอายุ 40 ปีขึ้นไป - อำนาจการกำกับดูแลและสั่งการข้าราชการ ดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้งเป็นของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมี กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ปฏิบัติ - วุฒิปริญญาตรีขึ้นไป - ใน 5 ปีที่ผ่านมา ไม่เป็นหรือไม่เคยเป็น สมาชิกหรือมีตำแหน่งในพรรคการเมือง - ไม่เป็นข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจหรือ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น ผู้มีตำแหน่งในบริษัท เอกชนที่ดำเนินธุรกิจค้ากำไร - วาระดำรงตำแหน่ง 7 ปี เป็นได้วาระเดียว - เป็นผู้ควบคุมและดำเนินการเลือกตั้งทุกระดับ การออกเสียงประชามติและเป็นนายทะเบียน พรรคการเมือง - สั่งการให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น ปฏิบัติตามกฎหมาย เลือกตั้งกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายออก เสียงประชามติ - สืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาข้อโต้ แย้งในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง - สั่งการให้มีการเลือกตั้ง หรือการออกเสียง ประชามติใหม่เมื่อการลงคะแนนในเขตเลือกตั้ง ใดไม่สุจริต - ประกาศผลเลือกตั้งและผลออกเสียงประชามติ - เห็นชอบการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประจำ - คณะรัฐมนตรีรักษาการมีอำนาจแต่งตั้งโยกย้าย ตามที่คณะรัฐมนตรีรักษาการเสนอ ข้าราชการประจำ - สรรหามาโดยคณะกรรมการหาซึ่งมาจาก 1) ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครอง สูงสุดอธิการบดีของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐทุก แห่งคัดเลือกกันเองเหลือ 4 คน ผู้แทนพรรค การเมืองของรัฐทุกพรรคที่มี ส.ส. ในสภา คัดเลือกกันเองเหลือ 4 คน ร่วมกันเสนอชื่อ ผู้มีคุณสมบัติ 5 คน 2) ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เสนอชื่อผู้เหมาะสม 5 คน จากนั้นให้ที่ประชุม วุฒิสภาลงคะแนนลับ ให้ได้ผู้มีคะแนนสูงสุด 5 อันดับแรกที่มีคะแนนเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนวุฒิฯ ที่ออกเสียงเป็นกรรมการเลือกตั้ง หากได้ไม่ เกิน 5 คนให้นำชื่อที่เหลือมาลงคะแนนอีกครั้ง แล้วให้ผู้ได้คะแนนสูงสุด ได้รับเลือกจนครบ 5 คนส่วนที่ 5 บทที่ใช้แก่สภาทั้งสอง - บุคคลที่ได้รับความเสียหายจากการกล่าวถ้อย - ไม่มีระบุ คำของ ส.ส.สว.ในที่ประชุมสภาใด ร้องขอ ให้ประธานแห่งสภานั้น โฆษณาคำชี้แจงของ ผู้นั้นได้ โดยไม่กระทบต่อสิทธิ์ในการฟ้องร้อง - มีสมัยประชุมสามัญ 2 ครั้งใน 1 ปี สมัยแรก - มีสมัยประชุมสามัญ 2 ครั้งใน 1 ปี เป็นสมัย เป็นสมัยสามัญทั่วไป สมัยที่สองเป็นสมัยสามัญ ประชุมสามัญทั่วไปที่พิจารณาญัตติ กระทู้เรื่อง นิติบัญญัติ ซึ่งพิจารณาเฉพาะเรื่องกฎหมาย อื่นๆ ทั่วไปและกฎหมาย การออกพระราชกำหนดและการตั้งกระทู้ถาม - สมัยประชุมสามัญสมัยละ 120 วัน - สมัยประชุมสามัญสมัยละ 90 วัน - การลงคะแนนเสียงทุกครั้งต้องบันทึกและเปิด - ไม่มีระบุ เผยต่อสาธารณะเพื่อการตรวจสอบ เว้นแต่ เป็นการลงคะแนนลับ - ส.ส.ต่างพรรค 20 คนขึ้นไป ที่มีมติพรรค - ส.ส.พรรคเดียวกัน 20 คนขึ้นไปจึงจะให้ รับรองสามารถเสนอพระราชบัญญัติได้ สามารถเสนอพระราชบัญญัติได้ - ให้อำนาจที่ประชุมร่วม ของประธานสภา - ให้อำนาจประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็น ผู้แทนราษฎรกับประธานคณะกรรมาธิการสามัญ ผู้วินิจฉัยว่าพระราชบัญญัติฉบับใดเกี่ยวการเงิน ของสภา ผู้แทนฯทุกคณะวินิจฉัยว่าพระราชบัญญัติ หรือไม่ ฉบับใดเกี่ยวกับการเงินหรือไม่ - ผู้มีสิทธิเลือกตั้งห้าหมื่นคนขึ้นไปมีสิทธิ์เข้าชื่อให้ - ไม่มีระบุ รัฐสภาพิจารณากฏหมายเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ และหลักการพื้นฐานในการกำหนดแนวนโยบาย ของรัฐโดยจัดทำเป็นร่างพรบ.เสนอมาด้วย - ร่างพระราชบัญญัติที่ระบุไว้ในนโยบายของ - หากร่างพระราชบัญญัติที่ไม่ได้ความเห็นใน รัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภา หากตกไปในสภา สภาผู้แทนฯให้ตกไปกรณีที่เป็นพระราชบัญญัติ ผู้แทนฯ ด้วยเสียงไม่เห็นชอบไม่ถึงครึ่งหนึ่ง เกี่ยวข้องกับการเงิน มีผลผูกพันถึงความ คณะรัฐมนตรี อาจขอให้รัฐสภาพิจารณากฏหมาย รับผิดชอบของรัฐบาลอาจต้องลาออก นั้นต่อได้ - ให้พระราชบัญญัติที่ตกไปเนื่องจากยุบสภา - พระราชบัญญัติเป็นอันตกไปเนื่องจากการหมด สามารถนำมาพิจารณาต่อ หากรัฐบาลหรือ วาระต้องเริ่มกระใหม่ร้องขอและใหม่ร้องขอ รัฐสภาเห็นชอบภายใน 60 วันนับจากวัน และรัฐสภาบวนการตั้งแต่ต้น เรียกประชุม รัฐสภาครั้งแรก - ห้ามส.ส.หรือกรรมาธิการมีส่วนโดยตรงหรือ - มีงบพัฒนาจังหวัดเปิดทางให้ ส.ส. และ โดยอ้อม ในการก่อให้เกิดการใช้จ่ายงบ กรรมาธิการมีส่วนใช้งบประมาณทางอ้อม ประมาณ ส.ส.สว. 1 ใน 10 ของแต่ละสภา ทางอ้อม อาจเข้าชื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การ แปรญัตติหรือการกระทำที่ฝ่าฝืนนั้นสิ้นผลไป - ส.ส.สามารถตั้งกระทู้ถามสดให้นายกรัฐมนตรี - การตอบกระทู้ถามให้ตอบในราช หรือรัฐมนตรีตอบด้วยวาจาได้เรื่องละไม่เกิน กิจจานุเบกษา 3 คำถามทำได้สัปดาห์และ 1 ครั้ง - ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 2 ใน 5 ของสภาผู้แทนฯ - ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 1 ใน 5 ของสภาผู้แทนฯ มีสิทธิ์เข้าชื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีสิทธิ์เข้าชื่อยี่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯโดยต้องเสนอชื่อผู้สมควรเป็นนายก โดยไม่มีการเสนอชื่อนายกฯ คนต่อไป รัฐมนตรีคนต่อไป - เมื่อมีการเสนอญัตติแล้วจะยุบสภาไม่ได้จน - นายกฯ อาจยุบสภาก่อนจะมีการอภิปรายไม่ไว้ กว่าจะมีถอดญัตติหรือลงมติเสร็จสิ้นแล้ว วางใจหรือก่อนลงมติก็ได้ - ในกรณีเสียงไม่ไว้วางใจนายกฯ เกินกว่า - ในกรณีเสียงไม่ไว้วางใจเกินกว่ากึ่งหนึ่ง กึ่งหนึ่ง ให้ประธานรัฐสภานำชื่อผู้ถูกเสนอ ให้นายกฯ และคณะรัฐมนตรีพ้นไป ตามญัตติเป็นนายกฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อ แต่งตั้งต่อไป - ร่างพรบ. ที่เกี่ยวกับเด็ก สตรี คนชรา - ไม่มีระบุ ผู้พิการให้ผู้แทนองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วม ไม่เป็นกรรมาธิการน้อยกว่า 1 ใน 3 หลักการที่ตัดออกจากร่างของกรรมาธิการยกร่างฯ - ต้องส่งร่างกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ผ่าน - มีขั้นตอนการเสนอให้ตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ความเห็นชอบจากสภาทั้งสอง ให้ศาล ในหมวดตุลาการรัฐธรรมนูญ แต่ต้องเสนอโดย รัฐธรรมนูญพิจารณาว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือ ส.ว.หรือนายกรัฐมนตรี ส.ส.ไม่ภายใน 30 วันก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อลงพระปรมาภิไธย ส่วนที่ 6 การประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพิ่มเติมตามข้อบัญญัติอันว่าด้วยอำนาจหน้าที่ที่รัฐสภาต้องร่วมกันเห็นชอบ เช่นการเลือกผู้ตรวจการ แผ่นดินของรัฐสภา การเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ การเลือกกรรมการเลือกตั้ง ฯลฯ เป็นต้นส่วนที่ 7 ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา - วุฒิสภาคัดเลือก 3 คน วาระ 6 ปี - มีผู้ตรวจการรัฐสภา 5 คน แต่ยังไม่มี - มีอำนาจหน้าที่พิจารณาสอบสวนตามคำร้องเรียน กฎหมายลูกรองรับในการทำหน้าที่ เกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย การละเลย การปฏิบัติหน้าที่การปฏิบัติที่ขัดต่อสิทธิมนุษยชน ของเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือข้าราชการ ส่วนท้องถิ่นส่วนที่ 8 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ - จำนวน 11 คนเสนอโดยวุฒิสภาพ มีวาระ - ไม่มีองค์การนี้ในรัฐธรรมนูญเดิม 6 ปีเสรีภาพของประชาชน โดยคำนึงถึง การมีส่วนร่วมของผู้แทนองค์การเอกชน ด้านสิทธิมนุษยชน - มีหน้าที่ตรวจสอบรายงานการกระทำหรือ การละเลยการ กระทำอันเป็นการขัดต่อ สิทธิมนุษยชนอันไม่เป็นไปตาม พันธกรณี ที่ประเทศไทยรับรอง เพื่อรายงานต่อ รัฐสภา แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์