การเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท เอ.พี.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวรันส์ จำกัด

ข่าวทั่วไป Tuesday December 14, 2010 11:59 —คปภ.

ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีคำสั่ง ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของ บริษัท เอ.พี.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวรันส์ จำกัด ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2553 ตามคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1583 /2553 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2553 เรื่อง เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท เอ.พี.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวรันส์ จำกัด นั้น

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ขอสรุปข้อเท็จจริง ดังนี้

1. บริษัท เอ.พี.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวรันส์ จำกัด มีฐานะการเงินดำรงเงินกองทุนไม่ครบถ้วนตามกฎหมาย มีสินทรัพย์สภาพคล่องไม่เพียงพอแก่การชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ได้ จัดสรรทรัพย์สิน ไม่เพียงพอกับหนี้สินและภาระผูกพันต่อเจ้าหนี้ของบริษัทฯ และมีค่าสินไหมทดแทนค้างจ่ายแก่ ผู้เอาประกันภัย หรือประชาชนเป็นจำนวนมาก บริษัทอยู่ในฐานะที่มีหนี้สินเกินกว่าทรัพย์สิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2553 จำนวน 265.13 ล้านบาท

2. สำนักงาน คปภ. ในฐานะผู้กำกับดูแลบริษัทประกันภัยได้ให้โอกาสแก่บริษัทในการแก้ไขปัญหาของบริษัทมาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว หากบริษัทสามารถระดมเงินทุนใหม่จะทำให้บริษัทสามารถชำระหนี้สินที่มีต่อเจ้าหนี้ทั้งปวงได้ แต่บริษัทไม่สามารถแก้ไขปัญหาฐานะการเงินของบริษัทได้ และบริษัทยังคงค้างจ่ายค่าสินไหมทดแทนอีกเป็นจำนวนมาก บริษัทจึงมีฐานะการเงินหรือการดำเนินงานอันอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงใช้อำนาจตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 สั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท เอ.พี.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวรันส์ จำกัด ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2553 ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้ประชาชน หรือผู้เอาประกันภัยได้รับความเสียหายเพิ่มเติม

3. การเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท เอ.พี.เอฟ.อินเตอร์ เนชั่นแนล อินชัวรันส์ จำกัด ในครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทประกันวินาศภัยอื่นๆ

4. สำนักงาน คปภ. ได้รับความร่วมมือจากบริษัทประกันภัยให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย ในกรณีกรมธรรม์ที่ยังมีระยะเวลาคุ้มครองเหลืออยู่ ให้ทำประกันภัยกับบริษัทที่เข้าร่วมโครงการให้ความช่วยเหลือ โดยสามารถซื้อความคุ้มครอง 1 ปี แล้วบริษัทประกันภัยจะขยายระยะเวลาความคุ้มครองเพิ่มเติมให้เท่ากับระยะเวลาประกันภัยที่เหลืออยู่ตามกรมธรรม์ประกันภัยเดิม หรือบริษัทประกันภัยอาจให้ส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาคุ้มครองที่เหลืออยู่ โดยผู้เอาประกันภัยจะต้องโอนสิทธิที่จะได้รับเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่เหลือ จากผู้ชำระบัญชี กองทรัพย์สินของบริษัทในคดีล้มละลาย หรือจากกองทุนประกันวินาศภัยให้แก่บริษัทที่รับประกันภัยใหม่ สำหรับรายชื่อบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการให้ความช่วยเหลือ ผู้เอาประกันภัย สามารถดูได้จากเว็บไซต์ของสำนักงาน คปภ. (www.oic.or.th) หรือสอบถามได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186

5. สำหรับผู้เป็นเจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัยของบริษัท เอ.พี.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวรันส์ จำกัด ให้ยื่นขอรับชำระหนี้ต่อผู้ชำระบัญชี และกองทุนประกันวินาศภัย ภายใน 2 เดือนนับแต่วันที่กองทุนประกันวินาศภัยออกประกาศ โดยให้นำเอกสารต้นฉบับพร้อมทั้งสำเนา จำนวน 2 ชุด ประกอบการยื่นขอรับชำระหนี้ ดังนี้ กรมธรรม์ประกันภัย บัตรประจำตัวประชาชน ใบเคลม ใบนัดชำระหนี้ หรือเอกสารอื่นใดที่แสดงถึงมูลหนี้ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล) หากไม่สามารถมายื่นได้ด้วยตนเองจะต้องมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมกับสำเนาบัตรประชาชน ผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ ยื่นต่อผู้ชำระบัญชีของบริษัท เอ.พี.เอฟ.อินเตอร์เนชั่นแนล อินชัวรันส์ จำกัด ได้ตามสถานที่ดังต่อไปนี้

5.1 ส่วนกลาง ยื่นได้ 4 แห่ง ดังนี้

(1) สำนักงาน คปภ. เลขที่ 22/79 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

(2) สำนักงาน คปภ.เขต 1 เลขที่ 8/8 ซอยวิภาวดี 44 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

(3) สำนักงาน คปภ.เขต 2 เลขที่ 287 ซอยรัชดาภิเษก 6 ถนนรัชดาภิเษก ท่าพระ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600

(4 ) สำนักงาน คปภ. เขต 3 เลขที่ 1/16 อาคารบางนาธานี ชั้น 8 ถนนบางนา ตราด กม.3 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260

5.2 ต่างจังหวัด ยื่นที่ สำนักงาน คปภ. ภาค และสำนักงาน คปภ. จังหวัดทั่วประเทศ

6. สำหรับเจ้าหนี้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อ

ผู้ชำระบัญชี ณ สถานที่และภายในกำหนดเวลาตามข้อ 5 พร้อมทั้งนำเอกสารแสดงความเป็นเจ้าหนี้

ต้นฉบับพร้อมทั้งสำเนา จำนวน 1 ชุด ประกอบการขอยื่นชำระหนี้ ดังนี้ หลักฐานแสดงถึงมูลหนี้ บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล) หากไม่สามารถมายื่นได้ด้วยตนเองจะต้องมี หนังสือมอบอำนาจ พร้อมกับสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ

7. ปัจจุบันมีกองทุนประกันวินาศภัย ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัย ในกรณีที่บริษัทล้มละลายหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตโดยเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากสัญญาประกันภัยจะต้องไปขอรับชำระหนี้จากผู้รับชำระบัญชี และ/หรือ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายก่อนหากจำนวนเงินที่ได้รับชำระหนี้จากบริษัทฯ (ผู้ชำระบัญชี และ/หรือ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์) มีไม่เพียงพอ เจ้าหนี้ดังกล่าวมีสิทธิได้รับชำระหนี้ส่วนที่ขาดจากกองทุนฯ แต่รวมกันทุกสัญญาแล้ว ไม่เกินหนึ่งล้านบาทต่อราย

ฝ่ายตรวจสอบ

โทร. 02 - 515 - 3918

รายชื่อบริษัทที่เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยและผู้มีสิทธิ

เรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันภัยที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต

ลำดับที่ ชื่อบริษัท เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ 1 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) 0-2285-8888 2 บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด 0-2651-5500 3 บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด 0-2100-9191 4 บริษัท โตเกียวมารีนศรีเมืองประกันภัย จำกัด 0-2686-8888 5 บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด(มหาชน) 0-2670-4444 6 บริษัท ไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) 0-2555-9100 7 บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด 0-2878-7111 8 บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด 0-2661-7999 9 บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) 0-2636-7900 10 บริษัท นิวแฮมพ์เชอร์อินชัวรันส์ สาขาประเทศไทย 0-2649-1000 11 บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) 0-2644-6400 12 บริษัท มิตซุย สุมิโตโม อินชัวรันซ์ จำกัด (สาขาประเทศไทย) 0-2679-6165 13 บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด 0-2640-7777 14 บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด(มหาชน) 0-2290-3333 15 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด 0-2641-3500 16 บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) 0-2263-0335 17 บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) 0-2378-7000 18 บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด 0-2631-1311 19 บริษัท แอลเอ็มจี ประกันภัย จำกัด 0-2661-6000

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ