คปภ. เตรียมพร้อม! รับผลกระทบสถานการณ์น้ำท่วม

ข่าวทั่วไป Friday October 14, 2011 14:09 —คปภ.

นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยสถานการณ์ด้านการประกันภัยในพื้นที่อุทกภัยที่กำลังเกิดขึ้นในหลายจังหวัดทั่วประเทศขณะนี้ว่า ได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. ในส่วนภูมิภาคและภาคธุรกิจประกันภัย เกี่ยวกับบริษัทประกันภัยที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย ได้แก่จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ปทุมธานี และนนทบุรี มีจำนวนทั้งสิ้น 179 สาขา แบ่งเป็นบริษัทประกันชีวิต 90 สาขา และบริษัทประกันวินาศภัย 89 สาขา โดยปิดทำการชั่วคราวไปเพียง 16 สาขา เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูง โดยสาขาบริษัทส่วนใหญ่ยังคงเปิดให้บริการประชาชนตามปกติ

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร และนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าความเสียหายเพื่อเตรียมการชดใช้ภายหลังหลังน้ำลด ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ.ได้สำรวจข้อมูลการทำประกันภัยของนิคมอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัยและพื้นที่เสี่ยงภัย คือ นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมอุตสาหกรรม Hi-Tech นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน นิคมอุตสาหกรรมบางกระดี่ และนิคมอุตสาหกรรม นวนคร พบว่านิคมอุตสาหกรรมทั้ง 6 แห่ง มีจำนวนเงินเอาประกันภัยรวมทั้งสิ้น 410,177 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเพียงร้อยละ 2.66 ของจำนวนเงินเอาประกันภัยการประกันภัยทรัพย์สินของทั้งธุรกิจ ในเบื้องต้นคาดว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ประมาณ 20,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการท่วมขังของน้ำ โดยบริษัทที่รับประกันภัยในนิคมอุตสาหกรรมสูงสุด 2 ลำดับแรก ได้แก่ บริษัท มิตซุย สุมิโตโม อินชัวรันซ์ จำกัด และบริษัท สมโพธิ์ เจแปน ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีนโยบายการชดใช้ความเสียหายด้วยความรวดเร็วและยังคงดูแลกลุ่มลูกค้าดังกล่าวต่อไป

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่าสำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัยมีแผนรองรับการดำเนินธุรกิจและระบบงานที่สำคัญต่างๆ เพื่อรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินและผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยมีการสำรองข้อมูลของผู้เอาประกันภัย และกำหนดระยะเวลาการกลับมาดำเนินการตามปกติของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ภายใน 12 - 24 ชั่วโมง โดยจะเน้นดูแลด้านระบบสินไหมทดแทนเป็นลำดับแรกเพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามสำนักงาน คปภ.ได้ติดตามการประเมินความเสียหายและชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกันภัย รวมถึงเร่งรัดให้การช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมมีความมั่นใจว่าภาคอุตสาหกรรมประกันภัยสามารถเข้ามาช่วยเหลือและบรรเทาความเสียหายในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากได้มีเตรียมการรองรับรวมถึงมีการสำรองเงินกองทุนเพื่อเป็นค่าสินไหมทดแทนในส่วนนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยขอให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยว่ามีความคุ้มครองใดบ้าง และแจ้ง บริษัทประกันภัยโดยเร็วเพื่อประโยชน์ในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อไป หากมีข้อสงสัยสอบถามสายด่วนประกันภัย 1186

ฝ่ายสื่อสารองค์กร

โทร . 02-513 -1769 02-513-1680

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ