คปภ. แจงอุบัติเหตุรถชนประสานงาบนถนนสายสุโขทัย-กำแพงเพชร ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บได้รับความคุ้มครองจากประกันภัย

ข่าวทั่วไป Wednesday January 16, 2013 14:19 —คปภ.

นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2556 เกิดอุบัติเหตุรถยนต์อีซูซู หมายเลขทะเบียน ถส-3499 กรุงเทพมหานคร ชนประสานงากับรถยนต์อีซูซู หมายเลขทะเบียน บธ-7911 สุโขทัย บนถนนสายสุโขทัย-กำแพงเพชร หลักกิโลเมตรที่ 418 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และได้รับบาดเจ็บ 1 ราย

สำนักงาน คปภ. ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. จังหวัดสุโขทัย เบื้องต้นทราบว่ารถยนต์อีซูซู หมายเลขทะเบียน ถส-3499 กรุงเทพมหานคร ทำประกันภัยรถภาคบังคับและภาคสมัครใจ (ประเภท 1) ไว้กับบริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) และรถยนต์อีซูซู หมายเลขทะเบียน บธ-7911 สุโขทัย ทำประกันภัยรถภาคบังคับไว้กับบริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด และทำประกันภัยภาคสมัครใจ (ประเภท 2) ไว้กับบริษัท ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งผู้ประสบภัยจะได้รับความคุ้มครอง ดังนี้

1. ผู้โดยสารที่ประสบภัยเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวร ทายาทสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ได้ดังนี้

1.1 ความคุ้มครองจากการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) 200,000 บาทต่อคน และ

1.2 ความคุ้มครองจากการประกันภัยรถภาคสมัครใจ กรณีไม่มีผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100,000 บาทต่อคน หรือมีผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 300,000 บาทต่อคน

2. ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ได้ดังนี้

2.1 ความคุ้มครองจากการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อคน และค่าชดเชยรายวัน สำหรับผู้ประสบภัยที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล วันละ 200 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 วัน และ

2.2 ความคุ้มครองจากการประกันภัยรถภาคสมัครใจ ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินวงเงินคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยประชาชนที่ประสบอุบัติเหตุ จึงได้ประสานบริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด และบริษัท ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนสำหรับผู้เสียชีวิต และค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนตรวจสอบวันหมดอายุของการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เพราะหากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น การทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของท่านได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนประกันภัย 1186

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ