1. การส่งเสริมการประกันภัยสำหรับรายย่อย (Micro Insurance) นับเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยมุ่งเน้นพัฒนาการเข้าถึงระบบประกันภัยของประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้สามารถเข้าถึงระบบประกันภัยได้อย่างเพียงพอและทั่วถึง สอดคล้องกับแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 2 ของสำนักงาน คปภ. ซึ่งได้มอบหมายให้สมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทยศึกษากรมธรรม์ประกันภัยรายย่อยแบบมาตรฐาน เช่น กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่สามารถขายได้ทั้งบริษัทประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัย เพื่อจะได้ร่วมกันกำหนดรูปแบบกรมธรรม์ประกันภัย อัตราเบี้ยประกันภัย และช่องทางการจำหน่ายที่มีความเหมาะสม ต่อไป
2. โครงการศูนย์กลางด้านสุขภาพ (Medical Hub) ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีนโยบายมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของสถานบริการสุขภาพทุกระดับ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันกับต่างประเทศ ส่งผลให้ชาวต่างชาติให้ความสนใจ และเดินทางมารับบริการด้านสุขภาพในไทยมากขึ้น ภายใต้โครงการดังกล่าว ครม. ได้มีมติเห็นชอบให้ชาวต่างชาติที่ขอรับการตรวจลงตราวีซ่าเข้าประเทศไทยจะต้องซื้อประกันภัย (Travel Insurance) และในขณะนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ประสานสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทยมาหารือในหลักการแล้ว
3. โครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สำนักงาน คปภ. ร่วมกับ สมาคมประกัน วินาศภัยไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กรมอุตุนิยมวิทยา บมจ. ไทยรับประกันภัยต่อ และธนาคารโลก จัดทำรูปแบบการรับประกันภัยข้าวโพดสัตว์เลี้ยงสำหรับรายย่อยเสร็จเป็นรูปธรรมแล้ว และได้เริ่มเปิดขายในช่วงปลายเดือนมีนาคม นี้
4. โครงการสนับสนุน และร่วมจัดทำฐานข้อมูลสำหรับการประกันวินาศภัย (Insurance Bureau System : IBS) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านการประกันภัยที่จะช่วยสนับสนุนการกำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยสำนักงาน คปภ. ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกับสมาคมวินาศภัยไทยเพื่อจัดทำฐานข้อมูลด้านการประกันภัย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดรูปแบบของการรายงานข้อมูล และจัดทำขั้นตอนการนำส่งข้อมูลเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งอุตสาหกรรม
รองเลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่าการประชุมร่วมกับภาคธุรกิจและสมาคมประกันวินาศภัยไทยในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดียิ่งในการเปิดรับฟังความคิดเห็น และหาแนวทางร่วมกันในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้ธุรกิจประกันวินาศภัยไทยมีความเข้มแข็ง เติบโตต่อไปได้อย่างมีเสถียรภาพ สามารถก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ได้อย่างแข็งแรงทั้งในเชิงรับ และเชิงรุก มีช่องทางการจำหน่าย และผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบบรายย่อย หรือไมโครอินชัวรันซ์ที่หลากหลาย ให้ประชาชนทุกระดับสามารถเข้าถึงการประกันภัยได้อย่างพอเพียง และทั่วถึง รวมถึงมีการประสานความร่วมมือระหว่าง สำนักงาน คปภ. และบริษัทประกันภัยในการสร้างฐานข้อมูลด้านการประกันภัยที่มีความแม่นยำซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน ต่อไป
ที่มา: http://www.oic.or.th