รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยบริษัท ยูเนี่ยนอินเตอร์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน)

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีคำสั่งที่ 954/2557 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท ยูเนี่ยนอินเตอร์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยบริษัทมีพฤติการณ์ที่หากให้ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยต่อไป อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน

1. บริษัท ยูเนี่ยนอินเตอร์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีการดำเนินการในลักษณะที่อาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน บริษัทดำรงเงินกองทุนไม่ครบถ้วนตามกฎหมาย ไม่ยื่นรายงานทางการเงิน และงบการเงินที่บริษัทมีหน้าที่ต้องยื่นต่อสำนักงาน คปภ. ไม่บันทึกรายการการรับประกันภัยภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเป็นจำนวนมาก มีระบบควบคุมกรมธรรม์ประกันภัยไม่รัดกุม และมีค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายที่สูงผิดปกติ นอกจากนั้นบริษัทยังไม่สามารถดำรงเงินสำรองประกันภัยและเงินสำรองค่าสินไหมทดแทน ให้ครบถ้วนตามกฎหมาย

2. นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คณะกรรมการ คปภ.) ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2551) สั่งให้ให้บริษัทหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2556 และให้บริษัทดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดของบริษัทเกี่ยวกับฐานะและการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2556

3. เนื่องจากการแก้ไขประเด็นปัญหายังไม่ลุล่วง ประกอบกับ บริษัทได้ร้องขอขยายระยะเวลาการแก้ไขปัญหาออกไป นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการ คปภ. ได้ขยายระยะเวลาการแก้ไขประเด็นปัญหาของบริษัทออกไปอีก 3 เดือน โดยมีเงื่อนไขให้บริษัทดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดของบริษัทที่มีอยู่เดิมให้แล้วเสร็จ

4. สำนักงาน คปภ. ได้ให้โอกาสบริษัทในการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาเป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้ว แต่บริษัทไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาของบริษัทได้ ดังนั้น หากให้ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยต่อไป จะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงได้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท ยูเนี่ยนอินเตอร์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2557

5. การเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท ยูเนี่ยนอินเตอร์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทประกันวินาศภัยอื่นๆ

6. เพื่อป้องกันมิให้ประชาชนผู้เอาประกันภัยได้รับความเดือดร้อน สำนักงาน คปภ. ได้รับความร่วมมือจากบริษัทประกันวินาศภัยภัย จำนวน 24 บริษัท ยินดีรับโอนกรมธรรม์ประกันภัยของผู้เอาประกันภัยซึ่งได้ทำประกันภัยไว้กับบริษัท ยูเนี่ยนอินเตอร์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่ยังมีผลผูกพันอยู่ โดยขอความร่วมมือให้ผู้เอาประกันภัยซื้อกรมธรรม์ประกันภัยในแบบเดิม ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี แล้วบริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะขยายความคุ้มครองเพิ่มเติมให้กับผู้เอาประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่เหลือของกรมธรรม์ประกันภัยเดิม ทั้งนี้ผู้เอาประกันภัยจะต้องโอนสิทธิที่จะได้รับเบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่เหลือจากผู้ชำระบัญชี หรือจากกองทุนประกันวินาศภัยให้แก่บริษัทที่รับโอนกรมธรรม์ประกันภัยนั้นด้วย

7. สำหรับผู้เป็นเจ้าหนี้ตามสัญประกันภัยของบริษัท ให้ยื่นขอรับชำระหนี้ต่อผู้ชำระบัญชี และกองทุนประกันวินาศภัย ภายในสองเดือนนับแต่วันที่กองทุนประกันวินาศภัยออกประกาศ โดยให้นำเอกสารต้นฉบับพร้อมทั้งสำเนา จำนวน 2 ชุด ประกอบการยื่นขอรับชำระหนี้ ดังนี้ กรมธรรม์ประกันภัย บัตรประจำตัวประชาชน ใบเคลม ใบนัดชำระหนี้ หรือเอกสารอื่นใดที่แสดงถึงมูลหนี้ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล) หากไม่สามารถมายื่นได้ด้วยตนเอง จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมกับสำเนาบัตรประชาชน ผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ ยื่นต่อผู้ชำระบัญชีของบริษัท ยูเนี่ยนอินเตอร์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ตามสถานที่ดังต่อไปนี้

1. ส่วนกลาง ยื่นได้ 3 แห่ง ดังนี้

(1) สำนักงาน คปภ. เลขที่ 22/79 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

(2) สำนักงาน คปภ. เขตท่าพระ เลขที่ 287 ซอยรัชดาภิเษก 6 ถนนรัชดาภิเษก ท่าพระ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600

(3) สำนักงาน คปภ. เขตบางนา เลขที่ 1/16 อาคารบางนาธานี ชั้น 8 ถนนบางนาตราด กม.3 แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260

2. ส่วนภูมิภาค ยื่นที่ สำนักงาน คปภ.ภาค และสำนักงาน คปภ.จังหวัดทั่วประเทศ

8. สำหรับเจ้าหนี้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อผู้ชำระบัญชี ณ สถานที่และภายในกำหนดเวลาที่ระบุข้างต้น พร้อมทั้งนำเอกสารแสดงความเป็นเจ้าหนี้ ต้นฉบับพร้อมทั้งสำเนา จำนวน 1 ชุด ประกอบการขอยื่นชำระหนี้ ดังนี้ หลักฐานแสดงถึงมูลหนี้ บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล) หากไม่สามารถมายื่นได้ด้วยตนเอง จะต้องมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมกับสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ

9. ปัจจุบันมีกองทุนประกันวินาศภัย ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ ที่เกิดจากการเอาประกันภัย ในกรณีที่บริษัทล้มละลายหรือถูกเพิกถอนใบอนุญาต โดยเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากสัญญาประกันภัย จะต้องไปขอรับชำระหนี้จากผู้รับชำระบัญชี และ/หรือ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายก่อน หากจำนวนเงินที่ได้รับชำระหนี้จากบริษัท (ผู้ชำระบัญชี และ/หรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์) มีไม่เพียงพอ เจ้าหนี้ดังกล่าวมีสิทธิได้รับชำระหนี้ส่วนที่ขาดจากกองทุนฯ แต่รวมกันแล้วทุกสัญญาไม่เกินหนึ่งล้านบาทต่อราย

สำหรับรายชื่อบริษัทประกันวินาศภัยภัยที่เข้าร่วมโครงการให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย สามารถดูได้จากเว็บไซต์ของสำนักงาน คปภ. www.oic.or.th หรือสอบถามได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186

ที่มา: http://www.oic.or.th