คปภ. แจงรถทัวร์กรุงเทพ-มุกดาหาร ตกข้างทางที่ จ. มหาสารคาม ได้รับความคุ้มครองจากการทำประกันภัย

ข่าวทั่วไป Friday June 30, 2017 15:44 —คปภ.

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารสายกรุงเทพ-มุกดาหาร ของบริษัทอาม่าทัวร์ หมายเลขทะเบียน 10-1829 มหาสารคาม หมายเลขข้างรถ 927-9 พลิกตะแคงตกข้างทาง ที่บริเวณปากทางบ้านโคกลี่ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 32-33 ต.กุดรัง อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับรับบาดเจ็บทั้งสิ้น 48 ราย ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 4 ราย นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ได้รับรายงานจาก สำนักงาน คปภ. จังหวัดขอนแก่น ว่ารถทัวร์โดยสารคันดังกล่าว ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มคุ้มครองวันที่ 31 ธันวาคม 2559 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองเป็นค่ารักษาพยาบาลกรณีได้รับบาดเจ็บ รายละไม่เกิน 80,000 บาท ในกรณีพักรักษาตัวในสถานพยาบาล จะได้รับค่าชดเชยรายวันๆ ละ 200 บาท แต่ไม่เกิน 20 วัน และมีการทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 1 กับ บมจ.วิริยะประกันภัย เริ่มความคุ้มครองวันที่ 13 มิถุนายน 2560 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 13 มิถุนายน 2561 ซึ่งจะให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก กรณีความเสียหายต่อชีวิต ร่างกายหรืออนามัย ความคุ้มครอง 300,000 บาทต่อคน แต่ไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อทรัพย์สิน ความคุ้มครอง 600,000 บาทต่อครั้ง นอกจากนี้ พบว่ามีการซื้อความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้ายเป็นกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร 500,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาลรายละไม่เกิน 500,000 บาทต่อคน และการประกันตัวผู้ขับขี่ ความคุ้มครอง 500,000 บาท

ดร.สุทธิพลกล่าวว่า ตนได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของสำนักงาน คปภ. ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่าผู้บาดเจ็บได้มีการทำประกันชีวิต และประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้ด้วยหรือไม่ ทั้งนี้หากพบว่ามีการทำประกันภัยไว้ สำนักงาน คปภ. จะประสานงานให้บริษัทประกันภัยที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูฝนนี้อาจมีฝนตกหนักทำให้ถนนลื่น จึงมักเกิดอุบัติเหตุจากรถขึ้นบ่อยครั้ง ดังนั้น จึงขอฝากเตือนประชาชนผู้ใช้รถทุกคน โดยเฉพาะเจ้าของกิจการรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งต้องรับผิดชอบผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก ควรกำชับให้ผู้ขับขี่ระมัดระวังเป็นพิเศษ ที่สำคัญควรตรวจสอบวันหมดอายุของการทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตลอดเวลา ซึ่งหากประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) หมดอายุนอกจากจะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ยังต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะต้องการความคุ้มครองเพิ่มมากขึ้น ก็สามารถทำประกันภัยรถภาคสมัครใจเพิ่มเติมได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186 หรือเว็บไซต์ www.oic.or.th

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ