คปภ. ระบุประกันคุ้มครอง..! กรณีรถตู้เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุชนรถกระบะดับ 2 ศพ พร้อมเร่งรัดการจ่ายสินไหมเพื่อเยียวยาความสูญเสียโดยเร็ว

ข่าวทั่วไป Friday October 4, 2019 15:58 —คปภ.

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีรถตู้ของเจ้าคุณอลงกต เจ้าอาวาส วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี หมายเลขทะเบียน ฮบ 9830 กรุงเทพมหานคร ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บก 7145 ลพบุรี บริเวณถนนพหลโยธิน กม.179-180 หมู่ 3 ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และผู้บาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิด เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 นั้น เบื้องต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับ สำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) ซึ่งกำกับดูแล สำนักงาน คปภ. จังหวัดลพบุรี ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบการทำประกันภัยพร้อมเร่งอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัย ตลอดจนติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งให้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจาก สำนักงาน คปภ. จังหวัดลพบุรี ว่า รถตู้หมายเลขทะเบียน ฮบ 9830 กรุงเทพมหานคร ที่ท่านเจ้าคุณอลงกต เจ้าอาวาส วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี โดยสารมานั้น ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 0010406111042486 เริ่มคุ้มครอง วันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 โดยให้ความคุ้มครองผู้ประสบภัยกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร จำนวน 300,000 บาทต่อหนึ่งคน กรณีความเสียหายต่อร่างกายหรืออนามัย จำนวน 80,000 บาทต่อหนึ่งคน กรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน จำนวน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน

นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบพบว่ารถยนต์ตู้คันดังกล่าวทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 1 ไว้กับ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 001010/6111/16031-5 เริ่มความคุ้มครองวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 สิ้นสุดความคุ้มครอง 13 พฤศจิกายน 2562 โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ความเสียหายต่อชีวิต ร่ายกาย หรืออนามัย เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. จำนวน 500,000 บาทต่อคน รวมแล้วไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง) ความเสียหายต่อทรัพย์สิน จำนวน 2,500,000บาทต่อครั้ง สำหรับความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร ผู้ขับขี่ 1 คน จำนวน 100,000 บาท ผู้โดยสาร 11 คน จำนวน 100,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล จำนวน 100,000 บาทต่อคน การประกันตัวผู้ขับขี่ 200,000 บาทต่อครั้ง

ในส่วนของรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บก 7145 ลพบุรี ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัท ไทยศรีประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 190044/M00790229001 เริ่มคุ้มครองวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 โดยเบื้องต้นตรวจสอบไม่พบข้อมูลการทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ

สำหรับ การจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย และผู้บาดเจ็บ 1 ราย นั้น ได้สั่งการให้ประสานกับบริษัทประกันภัยดังกล่าวเพื่อเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้บาดเจ็บและทายาทผู้สูญเสียแล้ว โดยบริษัทประกันภัยได้ติดต่อกับทายาทของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายแล้ว และจะเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยโดยด่วนต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดทำเอกสารประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทน สำหรับผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือ ท่านเจ้าคุณอลงกต เจ้าอาวาส วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี โดยสำนักงาน คปภ. จังหวัดลพบุรี ได้แจ้งสิทธิค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยให้กับโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะได้เร่งติดตามให้มีการจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิดังกล่าวโดยเร็ว

ดังนั้น ในเบื้องต้นจากกรณีเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ผู้เสียชีวิตที่โดยสารมากับรถยนต์กระบะ จะได้รับเงินเยียวยาจากระบบประกันภัยจำนวน 300,000 บาท ส่วนผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ ที่เสียชีวิต จะได้รับการเยียวยาเบื้องต้นจำนวน 35,000 บาท เนื่องจากต้องรอผลคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ส่วนผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นผู้โดยสาร จะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 80,000 บาท ตามสิทธิของประกันภัย (พ.ร.บ.) และค่ารักษาพยาบาลตามความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล (ประกันภัยภาคสมัครใจ) จำนวน 100,000 บาท นอกจากนี้ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบอุบัติเหตุมีการทำประกันภัยประเภทอื่นๆ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุประเภทอื่นๆ ก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้อีกด้วย

"สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชน ควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น รวมทั้ง เตรียมสภาพร่างกายให้มีความพร้อมในระหว่างการใช้รถใช้ถนนและหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัย จะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

ที่มา: http://www.oic.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ