โอกาสในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น เฟอร์นิเจอร์ สถาปัตยกรรม และการตกแต่งภายใน มีมากมายมหาศาลในอินเดีย เป็นที่คาดการณ์ว่าในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 11 (ปี 2007 -2012)ความต้องการบ้านพักอาศัยมีสูงถึง 26.53 ล้านหน่วย
ผลจากการศึกษาของ Pricewaterhouse Coopers ระบุว่าอินเดียเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ๆ อย่างมุมไบ นิวเดลี และเจนไนที่บูมสุดๆ ในด้านบ้านและอาคารที่พักอาศัย ขณะที่ในด้านการก่อสร้างโรงแรมจะบูมมากในเมืองมุมไบ นิวเดลีและบังกะลอร์
อย่างไรก็ตาม เมืองระดับรองลงมาก็มีโครงการก่อสร้างอย่างคึกคักไม่แพ้กัน เช่น บริษัท Ansal Properties ได้ทุ่มการลงทุนในโครงการก่อสร้างใหญ่ๆ ทั้งในเมือง ไจปูร์ อัจมาร์ จอตปูร์ ปณีปัต กุนดลี และอัครา ทั้งนี้การก่อสร้างที่พักอาศัยจะมีมากเป็นพิเศษ ในรัฐอุตรประเทศ ปันจาบ มัธยประเทศ ราชาสถาน และฮารียานา
กรมนโยบายและส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPP) ของอินเดียกล่าวว่าการก่อสร้างของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบ้านพักอาศัย ซึ่งประกอบด้วยซีนีเพล็ก มัลติเพล์กซ์ การพัฒนาเมืองใหม่ (integrated townships) และศูนย์การค้า ก่อให้เกิดการไหลเข้าของการลงทุนจากต่างประเทศกว่า 8.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงเมษายน 2000 — เมษายน 2010
เมื่อเห็นโอกาสมีมากมายอย่างนี้แล้ว กรมส่งเสริมการส่งออกจึงไม่รอช้า จับมือกับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และสมาคมธุรกิจไม้ยางพารา จัดคณะผู้แทนการค้าไม้ยางพาราแปรรูปอบแห้งและผลิตภัณฑ์เดินทางไปเจรจาการค้าจับเข่าคุยกับเถ้าแก่โรงงานเฟอร์นิเจอร์ เมืองเจนไน ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 27 กันยายน — 1 ตุลาคม 2553 สามารถเปิดตลาดชิ้นส่วนทำจากไม้ยางในอินเดียสำเร็จเกินความคาดหมาย นายไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ ผอ. สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไนเปิดเผยว่า ปัจจุบันการส่งออกไม้ยางพาราแปรรูปอบแห้งของไทยร้อยละ 92 ส่งออกไปประเทศจีน เป็นการพึ่งพาตลาดหลักเพียงตลาดเดียว อาจส่งผลต่ออำนาจต่อรองในอนาคต จำเป็นต้องหาตลาดใหม่ๆ รองรับ เมืองเจนไน ประเทศอินเดียเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่เศรษฐกิจดี และมีการก่อสร้างเกิดขึ้นมากมาย อีกทั้งการเดินทางไปเจรจาการค้าเพื่อขยายตลาดส่งออกไม้ยางพาราแปรรูปและผลิตภัณฑ์ของไทยในอินเดียยังเป็นการลดการพึ่งตลาดหลักอย่างจีนเพียงตลาดเดียว
ผลการเปิดตลาดประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง มีผู้ประกอบการอินเดียในสาขา เฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งภายใน และร้านค้าไม้ สนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากคุณภาพไม้ยางไทยดีกว่าประเทศอื่นๆ (ไม้ยางพารามีสีสันสวยงามไม่แพ้ไม้โอ๊ก บางครั้งจึงเรียกว่า White oak) โดยสามารถทำยอดขายไม้ยางและไม้ปาร์เก้ได้สูงถึง 340 ล้านบาท นับเป็นยอดขายที่สูงเป็นประวัติการณ์ ผู้สนใจเปิดตลาด docor ในอินเดียสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไน thaitradechennai@gmail.com
ที่มา: http://www.depthai.go.th