“อิ่มอร่อยกับอาหารไทย”

หลังการแสดงแฟชั่นโชว์ แขกผู้มีเกียรติทุกท่านได้ร่วมรับประทานอาหารไทย ที่ได้จัดเตรียมไว้หลากหลายเมนู เช่น ต้มยำ ต้มข่าไก่ แกงเขียวหวาน แกงกะหรี่ ยำวุ้นเส้น คอหมูย่าง ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้คือ ข้าวเหนียว ส้มตำ ซึ่งมีการสาธิตการทำแบบสดๆ ณ บริเวณงาน นอกจากนั้นยังมีส่วนของการแกะสลัก ผัก ผลไม้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการประดิษฐ์ประดอยผัก ผลไม้ ให้สวยงามเพื่อนำไปปรุงเป็นอาหาร หรือตกแต่ง ส่วนของหวานประกอบด้วย ลูกชุบ ทองหยอด ฝอยทอง วุ้นกะทิ และข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งต้องรอคิวกันนานกว่าจะได้ลิ้มลองความหอมหวานของมะม่วงน้ำดอกไม้ไทย ความสำเร็จในการจัดงาน

การแสดงโชว์ของผลงานทั้ง 4 แบรนด์ ต่างได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ เป็นอย่างมาก ได้มีการสัมภาษณ์ถึงผลงาน แนวความคิด ของนักออกแบบทั้ง 4 คน และนำเสนอภาพข่าวประชาสัมพันธ์ ผ่านรายการทีวี นิตยสาร และเวปไซด์ต่างๆ เช่น สถานีโทรทัศน์ DUNA ออกอากาศการจัดงานในช่วงแฟชั่น ความยาว 7 นาที มีภาพ และข่าวลงในนิตยสาร Wellness, La Femme, Budapest Times, Budapest Zeitung, Time Out Budapest, Piac & Profit, Elle, Le Journal Francophone de Budapest, HVG เวปไซด์ www.divatfuggo.hu, www.bpststart.hu, www.varosban.blog.hu, www.euroastra.hu, www.bellacafe.hu, www.deluxe.hu, www.cseppek.hu, www.helloinfo.hu, www.pink.hu, www.noiportal.hu เป็นต้น

นอกจากนั้น ทางสคร. บูดาเปสต์ได้ยืมหุ่นจาก TREND 2 มาให้ดีไซน์เนอร์ได้ใส่เสื้อผ้าโชว์ในวันที่ 29 กันยายน 2553 ในห้องที่โรงแรมโซฟิเทลจัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งในวันนี้ ยังมีรายการทีวีที่เกี่ยวกับแฟชั่น นิตยสารแฟชั่น และเวปไซด์เกี่ยวกับแฟชั่นมาทำข่าว ถ่ายรูป และสัมภาษณ์ดีไซน์เนอร์อีก เมื่อมีโอกาสทางสคร. บูดาเปสต์จึงได้นำเหล่าดีไซน์เนอร์ไปชมสินค้าของดีไซน์เนอร์ฮังการีด้วย นับว่าเหล่าดีไซน์เนอร์ที่ได้มีโอกาสเดินทางไปฮังการีในครั้งนี้ ได้รับความรู้ และประสบการณ์ที่ดี และมีความสำคัญในการนำมาปรับปรุงผลงานของตนให้มีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

อนึ่ง ในการจัดงานครั้งนี้ ทางสคร. ณ กรุงบูดาเปสต์ ได้ใช้งบประมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับผลที่ได้รับ โดยในการจัดงาน ได้อาศัยความร่วมมือจากบุคคล และหน่วยงานหลายฝ่าย โดยเฉพาะจากโรงแรมโซฟิเทล บูดาเปสต์ ทำให้สามารถประหยัดงบประมาณไปได้มาก แต่ผลลัพท์ที่ได้กลับมีมูลค่ามหาศาล ยกตัวอย่างเช่น ทางด้านการประชาสัมพันธ์ ซึ่งหากต้องเสียค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์แล้ว คงมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 30,000 ยูโร ทางด้านสถานที่จัดงานและตกแต่ง คงไม่ต่ำกว่า 15,000 ยูโร และยังมีค่าอาหารที่ใช้สำหรับเลี้ยงแขกอีก เป็นต้น

สรุป

การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักออกแบบไทยได้แสดงผลงานออกสู่สายตาชาวฮังการีเป็นครั้งแรก จึงนับเป็นโอกาสสำคัญในการเปิดตลาดสินค้าแฟชั่นไทย ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในประเทศแถบนี้ การมีวัฒนธรรมที่ต่างกัน ทำให้การสร้างสรรค์ผลงานของดีไซน์เนอร์ไทย ทั้งทางด้านดีไซน์ และการเลือกใช้วัสดุ มีความโดดเด่นและแตกต่างจากแฟชั่นทางยุโรปตะวันออก ซึ่งปัจจุบันคนฮังการีมีรสนิยมในการใช้สินค้าแบรนด์เนม ที่มีความแตกต่าง และนำสมัย ดังนั้น การแสดงแฟชั่นโชว์เสื้อผ้าไทย จึงนับเป็นก้าวแรก และก้าวสำคัญ ในการบุกเบิกตลาดสินค้าแฟชั่นไทยในฮังการี นอกจากนั้น ความรู้ และประสบการณ์ของดีไซน์เนอร์ที่ได้รับ ยังเป็นประโยชน์แก่ตัวของดีไซน์เนอร์เอง และแก่วงการแฟชั่นของไทยอีกด้วย และผลได้ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือทำให้ชาวฮังการี และประเทศใกล้เคียงได้รู้จักประเทศไทย และสินค้าไทยมากยิ่งขึ้น

สำนักงานส่งเสริมการส่งออก ณ กรุงบูดาเปสต์

ที่มา: http://www.depthai.go.th