ตลาดกล้วยไม้ในอิตาลี

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 7, 2010 13:51 —กรมส่งเสริมการส่งออก

บทสรุปผู้บริหาร

แม้ว่ากุหลาบจะเป็นดอกไม้ที่เป็นที่นิยมและใช้มากที่สุดในโอกาสต่างๆ ในอิตาลี ตามด้วยลิลลี่ และดอกไม้เมืองหนาวอื่นๆ แต่กล้วยไม้เป็นดอกไม้ที่เป็นที่นิยมสูงสุดในกลุ่มดอกไม้ต่างถิ่น และมีแนวโน้มขยายการใช้ในโอกาสต่างๆ มากขึ้นนอกเหนือจากวิธีดั้งเดิมเป็นช่อดอกไม้ หรือประดับบ้าน เช่นการใช้ตกแต่งงานแต่งงาน งานศพ Event ต่างๆ ตกแต่งร้าน หรือใช้ในวงการแฟชั่น หรือตกแต่งภายใน เป็นต้น และเมื่อเทียบกับดอกไม้เมืองหนาวอื่นๆ กล้วยไม้จัดเป็นดอกไม้ที่มีราคา จึงถูกนำมาใช้ในโอกาสสำคัญ หรือเมื่อต้องการความรู้สึกหรูหรา

อิตาลีสามารถผลิตกล้วยไม้ได้ส่วนหนึ่งมักเพาะเลี้ยงในเรือนกระจก แต่ผลิตได้ในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้ร่วงเท่านั้น ที่เหลือมีการนำเข้าจากเนเธอร์แลนด์ ไทย เป็นส่วนใหญ่ โดยพันธุ์ที่นำเข้าจากเนเธอร์แลนด์จะเป็นพันธุ์ดอกโต แต่ที่นิยมนำเข้าจากไทยเป็นพันธุ์ดอกขนาดเล็ก เช่น พวกหวาย เป็นต้น

กล้วยไม้ไทยที่จำหน่ายในอิตาลีส่วนใหญ่ถูกนำเข้าผ่านเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีตลาดกลางขายส่งดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุด โดยมีรถบรรทุกขนส่งมาอิตาลีทุกวัน และส่วนหนึ่งนำเข้าจากไทยโดยตรง ทั้งนี้การนำเข้าตรงจากไทยยังมีค่าขนส่งสูง และสายการบินที่บินตรงมีเพียงการบินไทย ซึ่งบินมามิลานเพียงอาทิตย์ละ 3 เที่ยว โรม 4 เที่ยว

หากผู้ส่งออกไทยสามารถเจรจากับสายการบินในการลดค่าระหว่างขนส่งได้ เชื่อว่าการนำเข้ากล้วยไม้จากไทยจะขยายตัวอีกมาก ทั้งนี้สมาคมผู้ค้าส่งดอกไม้อิตาลีสนใจที่จะเจรจานำเข้าจากฟาร์มกล้วยไม้ของไทยโดยตรง

ตลาดกล้วยไม้ในอิตาลี

กล้วยไม้ เป็นไม้ดอกไม้ประดับอีกชนิดที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดอิตาลีขณะนี้ และมีแนวโน้มที่จะถูกใช้ในหลากหลายโอกาสยิ่งขึ้น

ในอิตาลี ดอกกล้วยไม้สื่อความหมายถึง Sensuality และ Passion การให้ดอกกล้วยไม้ถูกใช้ในการขอความรัก การขอบคุณ หรือการขอโทษ แต่ด้วยความที่ดอกกล้วยไม้ให้ความรู้สึกถึงความหรูหรา ความซับซ้อน และเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ จึงเป็นที่นิยมใช้ในโอกาสต่างๆ มากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะต้องมีการนำเข้า เนื่องจากกล้วยไม้ส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อน เช่น เอเชีย อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ มีเพียง 15% เท่านั้นที่มีถิ่นกำเนิดในเขตหนาว

ภาพรวมผลผลิตกล้วยไม้ในประเทศอิตาลี

ชนิดของกล้วยไม้ที่ปลูกได้ในอิตาลี

กล้วยไม้ที่สามารถปลูกได้ในอิตาลีแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือกล้วยไม้เลี้ยง และกล้วยไม้ป่า ซึ่งแบ่งแยกสายพันธุ์ออกเป็น

กล้วยไม้เลี้ยง : 4 อนุวงศ์ 29 สายพันธุ์ โดยส่วนใหญ่เป็นชนิด Orchidoideae และ Epidendroideae ที่เหลือเป็นชนิด Cypripedioideae และ Spiranthoideae

กล้วยไม้ป่า : 31 อนุวงศ์ 230 สายพันธุ์ เกือบทั้งหมดเป็นชนิด Geophytes ที่เหลือเป็นชนิด Loeselii Liparis, Paludosa Malaxis และ Spiranthes aestivalis โดยพบในแคว้น Puglia ถึง 91 สายพันธุ์ แคว้น Toscana 84 สายพันธุ์ และแคว้น Emilia Romagna 82 สายพันธุ์

แหล่งปลูกกล้วยไม้ในอิตาลี

ประเทศอิตาลีมีแหล่งปลูกกล้วยไม้เลี้ยงสาคัญอยู่ทางตอนเหนือ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 23 ราย ตามเมืองต่างๆ

พื้นที่การปลูก และปริมาณกล้วยไม้ที่ปลูกได้ในอิตาลี

          ประเภท          เนื้อที่ (ไร่)          ผลผลิต (ต้น)
          ปลูกในพื้นที่เปิด         65               310,000
          ปลูกในเรือนกระจก   4,304            19,398,000

ฤดูกาลของดอกกล้วยไม้

ดอกกล้วยไม้ในอิตาลี จะมีฤดูกาลออกดอกที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และสภาพภูมิอากาศในแต่ละแคว้น โดยส่วนใหญ่จะออกดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (กุมภาพันธ์ — พฤษภาคม) หรือใบไม้ร่วง (กันยายน) ซึ่งมีภูมิอากาศไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป

การอุปโภคกล้วยไม้

ประเภทของกล้วยไม้

การซื้อขายกล้วยไม้ในตลาดอิตาลีนั้นแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ

1) ดอกกล้วยไม้ตัดขาย

การผลิตกล้วยไม้และขายกล้วยไม้ในครั้งแรกๆ นั้นเพื่อตัดขายแบบดอกแก่ร้านขายดอกไม้ทั่วไป หรือนักจัดดอกไม้ โดยส่วนใหญ่ดอกกล้วยไม้จะถูกบรรจุในกล่องหรูหราโดยเฉพาะดอกคัทลียา ส่วนดอกกล้วยไม้ประเภท Cymbidium นั้นจะถูกขายพร้อมราก และบรรจุในกล่องพลาสติกใส โดยกล้วยไม้ที่ได้รับความนิยมในตลาดคือ พันธุ์ Dendrobium พันธุ์ Cymbidium พันธุ์ Cattaleya และพันธุ์ Synopsis ตามลำดับ

2) ต้นกล้วยไม้ตกแต่ง

กล้วยไม้ตกแต่งในอิตาลีนั้นได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้รักการตกแต่งบ้าน หรือเพื่อใช้ประดับร้านค้าที่มีการตกแต่งแบบเขตร้อน เนื่องจากกล้วยไม้นั้นให้ความรู้สึกหรูหรา เมื่อออกดอกแล้วยังสามารถอยู่คงทนได้ตลอดทั้งปี รวมทั้งง่ายต่อการเลี้ยงดู โดยเฉพาะการปลูกในบ้าน หรือในที่ร่ม

กล้วยไม้ตกแต่งส่วนใหญ่นั้นจะถูกผสมระหว่างสายพันธุ์ ซึ่งนอกจากทำให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่มีสีสันสวยงามขึ้น อายุยาวขึ้น และรูปทรงสวยขึ้นแล้ว ยังทาให้มีราคาต่าลงเพื่อสามารถวางขายในตลาดอีกด้วย

สายพันธุ์ที่เป็นที่นิยม และง่ายต่อการดูแลได้แก่ Dendrobium, Cymbidium, Odontoglossum, Oncidium และ Phalaenopsis โดยเฉพาะสายพันธุ์ Phalaenopsis นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยในปี 2008 ชาวอิตาลีซื้อดอกกล้วยไม้ชนิดนี้ถึง 4 ล้านต้น และเพิ่มปริมาณความต้องการขึ้นเรื่อยๆ ทุกปีจนเกินความสามารถการผลิตของผู้ประกอบการอิตาเลียน ส่วนสายพันธุ์ Vanda และ Paphiopedillum (รองเท้านารี) นั้นได้รับความนิยมรองลงมาเนื่องจากความยุ่งยากในการดูแล

3) ต้นกล้วยไม้หายากเพื่อการสะสม

นิยมกล้วยไม้พันธุ์แท้ ซึ่งผู้ที่ชื่นชอบกล้วยไม้ และสะสมกล้วยไม้จะเสาะหาต้นกล้วยไม้ถึงฟาร์มโดยตรง โดยรู้จักประเภท ลักษณะของต้นกล้วยไม้เป็นอย่างดี ราคาของกล้วยไม้เพื่อการสะสมนั้นขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของกล้วยไม้ ขนาดของดอก โดยจะมีราคาตั้งแต่ 15 ยูโรต่อต้น ไปจนถึง 600-700 ยูโรต่อต้นทีเดียว

บริษัทผู้ผลิตและจาหน่ายกล้วยไม้ขนาดใหญ่ของอิตาลี

ในปัจจุบัน ประเทศอิตาลีมีบริษัทผลิตกล้วยไม้ขนาดใหญ่เพื่อจำหน่ายเหลือไม่มากนัก หลายบริษัทได้ปิดตัวไปเนื่องจากความยุ่งยากในการดูแลกล้วยไม้ รวมทั้งการนำเข้ากล้วยไม้และดอกไม้อื่นๆ ทุกวันนี้มีความสะดวกสบาย ทั้งได้ดอกไม้มีคุณภาพ และปริมาณที่ดีกว่าการผลิตเองในประเทศ

ในปี 2007 สามารถนับบริษัทผลิตและจาหน่ายกล้วยไม้รายใหญ่ของอิตาลีที่เหลืออยู่ ได้ 7 บริษัท ดังนี้

1) Orchideria di Morosolo เมือง Varese

2) Riboni orchidee เมือง Varese

3) Orchidee del lago maggiore เมือง Novara

4) Orchidee rare เมือง Torino

5) N&C เมือง Imperia

6) Il sughereto เมือง Glosseto

7) Giorgi di Lavagna เมือง Genova

ซึ่งเมื่อมองถึงผลผลิตกล้วยไม้ที่ได้ ทุกบริษัทเน้นการผลิตกล้วยไม้เพื่อการประดับตกแต่ง หรือพันธุ์กล้วยไม้หายากเพื่อการสะสม เนื่องจากไม่มีกำลังมากพอที่จะผลิตดอกกล้วยไม้ตัดขายเพื่อตอบสนองกับความต้องการของตลาด

การเลือกซื้อกล้วยไม้ของชาวอิตาเลียน

กล้วยไม้ได้รับความนิยมในโอกาสต่างๆ เนื่องจากมีสีสันสวยงาม และหลากหลายให้เลือกใช้งาน รูปทรงที่ให้ความรู้สึกหรูหรา สง่างาม น้ำหนักเบา มีรากที่ยาวทำให้มีอายุยืนกว่าดอกไม้ประเภทอื่นๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีราคาที่สูง และการดูแลที่ต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษกว่าดอกไม้ชนิดอื่นๆ

สถานที่จำหน่าย

โดยปกติ สามารถแบ่งสถานที่จำหน่ายได้เป็น 5 ประเภทหลักๆ สำหรับกล้วยไม้ตัดดอก และต้นกล้วยไม้

1) ร้านขายส่ง เป็นร้านค้าที่จำหน่ายดอกไม้นานาประเภท และจำหน่ายกล้วยไม้ทั้งประเภทตัดดอก และประเภทต้น โดยประเภทตัดดอกมักจะขายเป็นช่อ ช่อละ 10 — 20 ดอก ส่วนประเภทต้นนิยมขายแยกต้นเดี่ยว และขายกล้วยไม้พันธุ์ทั่วไป และพันธุ์ผสม ทั้งที่ผลิตในอิตาลี และนำเข้าจากเนเธอร์แลนด์ หรือไทย

ตลาดขายส่งดอกไม้ของเมืองมิลาน อยู่ที่ Via Marco Bruto, 22 ซึ่งมีร้านขายส่งดอกไม้ทั้งที่ผลิตในประเทศอิตาลี และนำเข้าจากต่างประเทศกว่า 30 ร้าน โดยส่วนใหญ่ร้านดอกไม้รายย่อยจะมาเลือก และสั่งซื้อดอกไม้โดยตรง โดยตลาดขายส่งดอกไม้ Mercato Floricolo นี้ จะเปิดให้บริการเฉพาะวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ตั้งแต่ 10:00 -12:00 เท่านั้น

2) ร้านขายปลีกแบบจัดช่อมีดีไซน์ เป็นร้านค้าที่จัดดอกไม้แบบมีคอนเซ็ป เพื่อตกแต่งงานพิธีเช่นงานแต่งงาน งานเปิดตัวสินค้า หรืองานแสดงโชว์ต่างๆ ซึ่งให้บริการทั้งแบบรับเหมาจัดดอกไม้สำหรับทั้งงาน และจัดช่อดอกไม้แบบพิเศษขายหน้าร้าน โดยนักจัดดอกไม้จะเป็นผู้ที่ผ่านการอบรมการจัดดอกไม้ขั้นสูง และสามารถผสมผสานการใช้ดอกไม้นานาชนิดได้อย่างมีเอกลักษณ์

การใช้ดอกไม้สำหรับร้านดอกไม้มีดีไซน์ประเภทนี้ จะใช้ดอกไม้นำเข้า เนื่องจากมีคุณภาพที่ดี และมีความแปลกใหม่กว่าดอกไม้ในประเทศทั่วไป

3) ร้านดอกไม้ริมถนน มักซื้อดอกไม้มาจากร้านขายส่ง เพื่อมาแบ่งย่อยขายทั่วๆ ไป ไม่นิยมจัดเป็นช่อ หรือจัดเป็นช่อแบบง่ายๆ เพื่อให้ผู้ซื้อซื้อกลับบ้านไปเพื่อจัดแจกันดอกไม้ หรือเพื่อเยี่ยมผู้ป่วย หรือขายดอกไม้เพื่อนาไปวางบนหลุมศพ เน้นดอกไม้พื้นๆ ที่ขายดี เช่นดอกกุหลาบ ดอกลิลลี่ รวมทั้งดอกกล้วยไม้แต่คิดในราคาที่สูงกว่าปกติ และมีทั้งดอกกล้วยไม้ตัดขาย แต่นิยมขายต้นกล้วยไม้เพื่อการตกแต่งบ้านมากกว่า

4) ร้านค้าย่อยบนอินเตอร์เน็ต เป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่อยู่อาศัยในเมือง ซึ่งสะดวกสบายต่อการเลือกซื้อดอกไม้ และมีบริการจัดส่งให้ถึงบ้าน โดยแต่ละเวบไซต์มีการให้ข้อมูลเบื้องต้น เช่น ดอกไม้ที่เหมาะสมกับการส่งในเทศกาลต่างๆ ความหมายของดอกไม้แต่ละชนิด รวมทั้งภาพตัวอย่างของดอกไม้ และราคา โดยช่อดอกไม้ที่มีการใช้ดอกกล้วยไม้ มักจะมีราคาสูงกว่าชนิดอื่นๆ และมักจะจัดช่อ หรือจำหน่ายในแบบต้นกล้วยไม้มากกว่ากล้วยไม้ตัดดอก

5) ฟาร์มกล้วยไม้ นิยมผลิตกล้วยไม้เลี้ยงเพื่อการสะสม เนื่องจากไม่มีกำลังพอที่จะผลิตกล้วยไม้ตัดดอกขาย เพื่อส่งจำหน่ายในตลาด ฟาร์มกล้วยไม้นี้จะเพาะพันธุ์ และอนุรักษ์ รวมทั้งพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ สำหรับกล้วยไม้เพื่อการสะสม โดยผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นผู้ที่รู้จักกล้วยไม้เป็นอย่างดี และสะสมพันธุ์กล้วยไม้ เดินทางไปยังฟาร์มกล้วยไม้โดยตรงเพื่อเลือกต้น และคุยกับเจ้าของฟาร์มเรื่องการปลูกการดูแลรักษากล้วยไม้

การใช้งานดอกไม้ และดอกไม้ที่ได้รับความนิยม

อิตาลีเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีการอุปโภคดอกไม้เป็นจำนวนมาก โดยนับเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมความเป็นอยู่พื้นฐาน การใช้ดอกไม้ส่วนใหญ่เน้นการใช้ตกแต่งบ้าน มอบให้แก่กัน ใช้เป็นส่วนหนึ่งในพิธีต่างๆ เช่นงานแต่งงาน งานศพ การใช้ในวงการดีไซน์ หรือการใช้ในทางการแพทย์ การศาสนา เป็นต้น

ปัจจุบันอัตราการซื้อดอกไม้ของคนอิตาลีอยู่ที่ 65 ยูโรต่อคนต่อปี ต่ำกว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วอยู่ที่ 1.4-1.6 แสนลีร์ หรือประมาณ 80 ยูโรต่อคนต่อปี เนื่องจากคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มการซื้อดอกไม้ลดลง

แนวโน้มการใช้ดอกกล้วยไม้

ดอกกล้วยไม้ถูกใช้ในการจัดช่อ เพื่อมอบให้กันในโอกาสต่างๆ มากขึ้น กล้วยไม้ขนาดเล็ก เช่น หวาย นิยมใช้ในโอกาสไปเยี่ยมหลุมศพ การใช้กล้วยไม้ทั้งต้นเพื่อการประดับตกแต่งบ้านและ ดอกกล้วยไม้กาลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในวงการการออกแบบ และการตกแต่ง โดยมีการประยุกต์ใช้ดอกกล้วยไม้สดในโอกาสต่างๆ เช่นตกแต่งเค้ก การจัดเป็นช่อดอกไม้เจ้าสาวและประดับในงานแต่งงาน งานศพ งาน event ต่างๆ การใช้ตกแต่งร้านค้าต่างๆ เช่นร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร ร้านสปา การใช้ในวงการแฟชั่น หรือการใช้เพื่อการตกแต่งภายใน

ในขณะเดียวกัน ดอกกล้วยไม้ก็ยังได้รับความนิยมในการนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา สง่างาม ความลึกลับ และน่าหลงใหล โดยได้ถูกนำมาใช้งานส่วนใหญ่ในวงการแฟชั่น และการออกแบบ

จึงคาดว่าดอกกล้วยไม้ที่ใช้ในการตกแต่งจะมีแนวโน้มขยายตัวต่อไป และดีกว่ากล้วยไม้จัดเป็นช่อ เนื่องจากคนอิตาลีมีแนวโน้มการซื้อดอกไม้ลดลง

การนำเข้ากล้วยไม้ของประเทศอิตาลี

แหล่งนำเข้าดอกไม้ และกล้วยไม้ที่สำคัญของอิตาลี

อิตาลีนำเข้าดอกกล้วยไม้ส่วนใหญ่จากประเทศเนเธอร์แลนด์ เนื่องจากมีตลาดกลางค้าดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนาเข้าดอกไม้นานาชนิดส่งตรงมาจากทั่วโลก นับว่าเป็น Distributor ที่มีศักยภาพสูง และครองเปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ในการส่งออกดอกไม้สู่ตลาดยุโรป

การนำเข้ากล้วยไม้จากไทยมีทั้งที่ส่งตรงทางเครื่องบินจากไทย และส่งผ่านเนเธอร์แลนด์ แต่การนาเข้าตรงจากไทยมีปัญหาเรื่องค่าขนส่งที่สูง ผู้ค้าส่งจึงนิยมสั่งซื้อจากเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีรถบรรทุกขนมาส่งทุกวัน

วิธีการนำเข้ากล้วยไม้ตัดดอก และต้นกล้วยไม้สู่ประเทศอิตาลี สำหรับผู้นำเข้าอิตาเลียน

1) กรอกแบบฟอร์มการขออนุญาตนำเข้าสินค้าประเภทต้นไม้ และดอกไม้ และยื่นแก่หน่วยงาน CITES Scientific Authority

2) ชำระค่าบริการต่อคำร้อง (สาหรับการขออนุญาตนาเข้าสูงสุด 3 สายพันธุ์ต่อการยื่นคำร้องหนึ่งครั้ง) เป็นจำนวนเงิน 15.49 ยูโร

3) หากการยื่นคำร้องได้รับการอนุมัติ หน่วยงาน CITES Scientific Authority จะออกใบอนุญาตให้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่คารองได้รับการอนุมัติ

การส่งออกกล้วยไม้จากไทยสู่ประเทศอิตาลี

การส่งออกกล้วยไม้ไทยมายังประเทศอิตาลี

ประเทศอิตาลีเป็นประเทศหลักในตลาดยุโรปของไทยในการส่งออกกล้วยไม้ โดยในปี 2009 ไทยมีมูลค่าส่งออกกล้วยไม้ตัดดอกจำนวน 2,395,415 กิโลกรัม เป็นเงิน 4,852 ล้านยูโร คิดเป็น 9.8 % ของการส่งออกทั้งหมด (49,530 ล้านยูโร) ซึ่งกล้วยไม้ไทยที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือพันธุ์ Dendrobium

ประเทศคู่แข่งที่สำคัญของไทยในการส่งออกกล้วยไม้ได้แก่ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ แอฟริกาใต้ และนิวซีแลนด์ อย่างไรก็ตาม ไทยยังครองส่วนแบ่งในตลาดยุโรปได้มากที่สุดถึง 87% ของการส่งออกกล้วยไม้ทั้งหมด

วิธีการส่งออกกล้วยไม้ตัดดอก และต้นกล้วยไม้สู่ประเทศอิตาลี สำหรับผู้ส่งออกไทย

การส่งออกกล้วยไม้ตัดดอกสู่อิตาลี ผู้ส่งออกต้องมีใบรับรองการรมสารเคมี และใบรับรองศัตรูพืช ส่วนต้นกล้วยไม้ที่มีดิน หรือวัสดุปลูกติดไปกับกล้วยไม้ ต้องได้รับการตรวจสอบรับรอง และมีใบอนุญาตส่งออก (Phytosanitary) จากหน่วยงานตรวจโรคพืช กรมวิชาการเกษตร จึงส่งออกได้

SWOT ของการส่งออกดอกกล้วยไม้ไทยมายังประเทศอิตาลี

จุดแข็ง

1) กล้วยไม้ไทยมีความหลากหลายทางสายพันธุ์ของดอกกล้วยไม้ ซึ่งเติบโตได้ดีในภูมิอากาศแบบเขตร้อนของประเทศไทย มีสีสันเลือกเยอะ

2) มีการพัฒนาสายพันธุ์กล้วยไม้ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองตลาดอย่างต่อเนื่อง

3) มีกำลังการผลิตกล้วยไม้ตัดดอก และกล้วยไม้เลี้ยงเพื่อการประดับตกแต่งเป็นจำนวนมาก

4) กล้วยไม้ไทยเป็นที่รู้จักในวงกว้างในตลาดเอเชีย และยุโรป

5) มีปริมาณผลผลิตกล้วยไม้สูง สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างสมบูรณ์

จุดอ่อน

1) ค่าขนส่งจากไทยมาอิตาลียังสูงอยู่ เมื่อเทียบกับการขนส่งจากประเทศอื่น

โอกาส

1) มีแนวโน้มการใช้กล้วยไม้เพิ่มขึ้นในหลายๆ วงการด้วยกล้วยไม้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัย และมีระดับ ตลาดต้องการความแปลกใหม่ และต้องการกล้วยไม้หลากสี ต้นกล้วยไม้เป้นที่นิยมใช้ตกแต่งบ้านและให้เป็นของขวัญ

อุปสรรค

1) สายการบินตรงมีเพียงการบินไทย ซึ่งบินมามิลานเพียง 3 วัน โรม 4 วัน และค่าขนส่งยังสูงอยู่ ขณะที่การขนส่งจากเนเธอร์แลนด์มีความสะดวก และค่าใช้จ่ายต่า

2) ประเทศคู่แข่งเริ่มพัฒนาผลผลิตดอกกล้วยไม้เพื่อแข่งขันในตลาดโลกมากขึ้น

แนวทางการแก้ปัญหาและอุปสรรค

เจรจาต่อรองกับสายการบินที่ขนส่งดอกกล้วยไม้มายังอิตาลี หากค่าใช้จ่ายลดลงผู้นำเข้าอิตาลียินดีที่จะนำเข้าตรงจากไทย และจะมีการรวบรวมออร์เดอร์เพื่อให้ได้ปริมาณการสั่งจองต่ออาทิตย์ที่มากพอ

แนวทางการเจาะตลาด

1) ติดต่อกับสมาคมค้าส่งดอกไม้แห่งชาติ หรือของมิลานซึ่งจะสามารถรวบรวมความต้องการซื้อของสมาชิกได้ ซึ่งมีความต้องการที่จะสั่งซื้อจากฟาร์มกล้วยไม้ไทยโดยตรง ไม่ผ่านคนกลาง

2) เข้าร่วมงานแสดงสินค้าไม้ดอกไม้ประดับของอิตาลี หรือยุโรป และนำพันธุ์ใหม่ๆ สีใหม่ๆ มานำเสนอในตลาดอิตาลี และยุโรป

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ