ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในบ้านของเยอรมนี

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 17, 2011 14:59 —กรมส่งเสริมการส่งออก

จำนวนสัตว์เลี้ยงในบ้าน

ในปี 2552 เยอรมนีมีการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้านเป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 22.6 ล้านตัว ทั้งนี้ยังไม่รวมปลาตู้และสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ ที่มีการเลี้ยงเป็นจำนวนอีกประมาณ 2.0 และ 0.4 ล้านตู้ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีการทำสระ/บ่อเลี้ยงปลาสวยงามในสวนตามบ้านต่างๆ อีกราว 2.1 ล้านสระ/บ่อ ในจำนวนสัตว์เลี้ยงในบ้าน 22.6 ล้านตัว แบ่งตามชนิดของสัตว์ได้ดังนี้

จำนวนสัตว์เลี้ยงในเยอรมนี

          (ล้านตัว/ล้านครอบครัว)           2550    2551    2552     ครัวเรือนที่เลี้ยง
          แมว                           7.9     8.2     8.2         6.5
          สุนัข                           5.3     5.5     5.4         5.3
          ประเภทหนู กระต่าย               6.6     6.2     5.4         2.2
          นก                            3.4     3.4     3.4         2.0
          ปลาตู้                          2.1     2.0     2.0          --
          สระน้ำในสวน                    2.3     2.3     2.1          --
          สัตว์เลื้อยคลานต่างๆ              0.42    0.40    0.40          --

ที่มา สมาคมอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง

ช่องทางตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในเยอรมนี

ยอดขายอาหารและของใช้สัตว์เลี้ยงในเยอรมนี

          (ล้านยูโร)                     2550     2551     2552     2553
          - อาหาร                     2,472    2,594    2,694       --
          - ของใช้ต่างๆ                   857      906      909       --
          รวมทั้งสิ้น                     3,331    3,500    3,603    3,700

ตามการรวบรวมตัวเลขโดย Euromonitor ในปี 2553 ที่ผ่านมายอดการขายอาหารสัตว์เลี้ยงและของใช้ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงในบ้านมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,700 ล้านยูโร เปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในยุโรปจัดเป็นอันดับที่ 3 รองจากฝรั่งเศส (4,133 ล้านยูโร) และอังกฤษ (3,747 ล้านยูโร) อันดับ 4 เป็นอิตาลีมูลค่า 2,283 และอันดับ 5 สเปน มูลค่า 1,222 ล้านยูโร หากเปรียบเทียบด้านจำนวนสัตว์เลี้ยง เยอรมนีจัดอยู่ในลำดับที่ 4 รองจากรัสเซีย (39.0 ล้านตัว) ฝรั่งเศส (31.3 ล้านตัว) และอิตาลี (30.4 ล้านตัว)

ตามยอดการจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงในปี 2553 ที่มีมูลค่าประมาณ 3,073 ล้านยูโรนั้น จะมีการวางจำหน่ายในตลาดเยอรมนีในร้านค้าต่างๆ ดังนี้

          ประเภทร้านค้า                                                          มูลค่า    ส่วนแบ่งตลาด

ล้านยูโร ร้อยละ

          Supermarket, ร้านค้าของใช้ประจำวัน (Drugstores) และ Discounter           1,976      64.3
          ร้านค้าสัตว์เลี้ยง อาหารสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ                                    1,097      35.7
          รวมทั้งสิ้น                                                              3,073     100.0

ที่มา สมาค้าผู้ค้าสัตว์เลี้ยงในบ้านเยอรมนี

การนำเข้า

ในระยะ 3 ปีผ่านมา (2550 — 2552) เยอรมนีนำเข้าสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง (พิกัด 230910 และ 2309 90) เป็นมูลค่าโดยเฉลี่ยปีละ 1,543.1 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2553 (ม.ค.-ก.ย.) มีการนำเข้าทั้งสิ้น 1,093.0 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าลดลงร้อยละ 4.5 แหล่งนำเข้าที่สำคัญๆ ได้แก่ เนเธอแลนด์ ฝรั่งเศส และลิชเทนสไตน์ คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 43.5, 12.8 และ 6.6 ตามลำดับ สำหรับประเทศไทย มีการนำเข้าในระยะ 3 ปีผ่านมา (2550 — 2552) เป็นมูลค่าโดยเฉลี่ยปีละ 15.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2553 (ม.ค.-ก.ย.) มีการนำเข้าทั้งสิ้น 14.3 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 1.3 มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4

การส่งออก

ในระยะ 3 ปีผ่านมา (2550 — 2552) เยอรมนีส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง (พิกัด 230910 และ 2309 90) เป็นมูลค่าโดยเฉลี่ยปีละ 1,730.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2553 (ม.ค.-ก.ย.) มีการส่งออกทั้งสิ้น 1,293.9 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.69 ตลาดส่งออกที่สำคัญๆ ได้แก่ เนเธอแลนด์ ออสเตรีย และฝรั่งเศส คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 11.6, 10.4 และ 9.9 ตามลำดับ

อัตราภาษีนำเข้า

จำแนกตามพิกัดของสินค้า ตามส่วนผสมที่เป็นแป้งและนมจะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้า ดังนี้

          H.S. 2309 10 11 มีนมปนไม่เกิน 10%                                 0%
          H.S. 2309 10 13 มีนมปน 10 — 50%                   498.00 ยูโร ต่อ 1 ตัน
          H.S. 2309 10 15     “ 50 — 75%                             730.00 “
          H.S. 2309 10 19     “ เกิน 75%                              948.00 “
          H.S. 2309 10 31 มีแป้งปน 10 — 30%                                0%
          H.S. 2309 10 33 มีนมปน 10 — 50%                             530.00 “
          H.S. 2309 10 39 มีนมปนเกิน 50%                               888.00 “
          H.S. 2309 10 51 มีแป้งปนเกิน 30%                              102.00 “
          H.S. 2309 10 53 มีนมปน 10 — 50%                             577.00 “
          H.S. 2309 10 59 มีนมปนเกิน 50%                               730.00 “
          H.S. 2309 10 70 มีแต่นมปน                                    948.00 “
          H.S. 2309 10 90 อื่นๆ                                          9.6%
          H.S. 2309 90 10 อาหารเลี้ยงปลา                                 3.8%

มาตรการในการนำเข้า

อาหารสัตว์เลี้ยงเป็นสินค้าควบคุม เนื่องจากมีส่วนผสมเป็นเนื้อสัตว์ เนื้อปลา แป้ง และนม สินค้าที่จะนำเข้าต้องขออนุญาตต่อสำนักงานเกษตร และโภชนาการ เมืองแฟรงก์เฟริท ตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้

1. เป็นสินค้าที่ผลิตจากโรงงานที่ได้รับการตรวจสอบด้านสุขอนามัยโดยเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปแล้ว และต้องมีหนังสือรับรองออกให้โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศผู้ส่งออก

2. เมื่อปริมาณการนำเข้าต่อครั้งเกิน 300 กก. จะต้องขอใบอนุญาตนำเข้าจากสำนักงานเกษตรและโภชนาการ ก่อน พร้อมวางเงินค้ำประกันสินค้าที่จะนำเข้าตามอัตราที่กำหนด

3. การนำเข้าครั้งละไม่เกิน 300 กก. ไม่ต้องมีใบอนุญาตนำเข้าแต่จะต้องแจ้งให้สำนักงานเกษตรและโภชนาการทราบ แต่ถ้านำเข้าบ่อยครั้ง หรือกระทำเป็นประจำจะต้องมีใบอนุญาตนำเข้ากำกับสินค้างวดนั้นๆ ด้วย

4. ใบอนุญาตนำเข้ามีอายุใช้ได้นาน 4 เดือน นับจากวันที่ออกให้

5. ใบอนุญาตนำเข้าที่ได้ออกให้แล้ว เมื่อไม่นำไปใช้จะไม่ได้รับเงินค้ำประกันคืน หากทำเช่นนี้บ่อยครั้งอาจถูกพิจารณาไม่อนุญาตให้นำเข้าสินค้านี้อีกต่อไป

สรุป

1. ตามตัวเลขสถิติของสมาคมอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงในบ้าน ในเยอรมนีมีการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้านจำนวนกว่า 23 ล้านตัว โดยเป็นแมวจำนวน 8.2 ล้านตัว ใน 6.5 ล้านครัวเรือน สุนัข 5.4 ล้านตัวใน 5.3 ล้านครัวเรือน ประเภทกระต่าย หนูพุก 5.4 ล้านตัวใน 2.2 ล้านครัวเรือน นก 3.4 ล้านตัว ใน 2.0 ล้านครัวเรือน

2. เยอรมนีสามารถผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงภายในประเทศเป็นปริมาณปีละกว่า 1.3 ล้านตัน โดยมีแนวโน้มการผลิตเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการนำเข้าปีละประมาณ 540,000 ตัน ส่วนใหญ่จะนำเข้าจากประเทศอื่นๆ ที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และเดนมาร์ค เป็นต้น มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 42, 12 และ 5 ตามลำดับ สำหรับสินค้าจากไทยยังมีส่วนแบ่งตลาดน้อย ประมาณร้อยละ 1 มีการนำ เข้าในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ( 2550 — 2552) เป็นมูลค่าโดยเฉลี่ยปีละ 15.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วง 9 เดือนแรกปี 2553 มีการนำเข้าเป็นมูลค่า 14.3 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4

3. การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้านเป็นงานอดิเรกที่คนเยอรมันสนใจกันมากและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้ยังมีโอกาสสูงในการขยายตลาดสินค้าอาหารสัตว์ เนื่องจากจำนวนสัตว์เลี้ยงในบ้านมีเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะแมว ถึงแม้ว่าเยอรมนีจะเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงที่สำคัญ มีการผลิตประเทศเป็นปริมาณที่สูงมากก็ตาม ก็ยังมีการนำเข้าสินค้าจากแหล่งอื่นๆ ด้วย การส่งออกสินค้าของไทยเข้าสู่ตลาดเยอรมันยังคงสามารถขยายเพิ่มขึ้นได้ และในปีที่ผ่านๆ มานี้ ยังไม่ปรากฏว่ามีปัญหาใหญ่ร้ายแรงใดๆ เกิดขึ้น สินค้าของไทยจะมีข้อเสียเปรียบในด้านค่าขนส่งที่สูง ระยะเวลาการส่งมอบสินค้ายาวนานกว่าสินค้านำเข้าจากประเทศคู่แข่งอื่นๆ โดยเฉพาะจากประเทศต่างๆ ในยุโรป อย่างไรก็ตามการเสนอขายในระดับราคาที่เหมาะสม คุณภาพ คุณค่าทางโภชนาการที่ดี เหล่านี้น่าจะทำให้สินค้าจากไทยยังคงเป็นที่สนใจและมีการนำเข้าสืบต่อไป

4. ปัจจุบัน ในตลาดเยอรมนีเริ่มมีการวางจำหน่ายสินค้าอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงในบ้านที่เป็น Bio หรือ Organic ด้วยแล้ว

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงเบอร์ลิน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ