ด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของเดนมาร์ก ( Danish Design ) จึงทำให้อุตสาหกรรมแฟชั่นเสื้อผ้าของเดนมาร์กในปีที่ผ่านมาขยายตัวอย่างมาก ดังนั้น รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆของเดนมาร์กจึงมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้กรุงโคเปนเฮเกน เป็นศูนย์รวมแฟชั่นแห่งใหม่โลก โดยขณะนี้ อุตสาหกรรมแฟชั่นใหญ่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับสี่ของยอดการส่งออกสินค้าทั้งหมดของเดนมาร์ก
กล่าวโดยทั่วไป สินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าของเดนมาร์กมีลักษณะพิเศษตรงที่มีสไตล์แบบ boho-chic ที่มีการเลือกสรร วัสดุ เนื้อผ้า ที่เน้นหนักไปทางงานเย็บปักถักร้อย และ การประดับตกแต่ง โดยเนื้อผ้าที่ใช้นั้นจะใส่สบายและมีสไตล์ ไม่ว่าจะขี่จักรยาน ไปประชุม หรือ มีปาร์ตี้ ก็สามารถปรับใส่ให้เข้าได้กับทุกแบบ
Ulla Skjodt ผู้จัดการด้านแนวโน้มแฟชั่น ของสมาคม Dansk Fashion and Textile กล่าวว่า ในเดนมาร์คเราสามารถออกแบบ และผลิตเสื้อผ้าที่ทันสมัยและสามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน นอกเหนือไปจากนั้น อุตสาหกรรมแฟชั่นยังได้มีการสร้างสรรแฟชั่นให้เหมาะสมกับทุกระดับขั้นของผู้บริโภค ทั้งดีไซน์ที่ดีและราคาที่ไม่สูงมากส่งผลให้ สินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าแบรนด์ของเดนมาร์กสามารถตีตลาดได้กว้างขวาง
การสร้างสรรงานแฟชั่นใหม่ๆเป็นสิ่งสำคัญในวงการแฟชั่น การสร้างสรรงานที่ไม่เหมือนใครเป็นสิ่งที่ถูกสนับสนุนในเวลานี้ ตรงกับที่ Skjodt กล่าวว่าทุกคนสามารถออกแบบและผลิตเสื้อผ้า แต่ถ้าจะผลิตแบบที่พิเศษและไม่เหมือนใครไม่ใช่ว่าใครๆก็จะทำได้
อุตสาหกรรมแฟชั่นเดนมาร์ก ในเวลานี้แบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลักๆ คือ กลุ่มแบรนด์ที่ใช้ความเป็นเป็นผู้นำด้านแฟชั่น ( trend-driven brands ) มาเป็นจุดขาย โดยการสร้างกระแส ( trend ) ขึ้นมาในวงการแฟชั่น และอีกกลุ่มหนึ่งคือ innovation-driven brands คือกลุ่มที่พยายามที่นำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในการออกแบบ เพื่อจะให้เข้าถึงการออกแบบแห่งอนาคต
บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในวงการแฟชั่นเดนมาร์ก คือ Bestseller A/S, BTX - group และ IC Company ทั้งสามบริษัทนี้หากรวมกันจะมีมากกว่า ๔๐ แบรนด์ และมีสัดส่วนถึงร้อยละ ๗๕ ของการส่งออกของสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าของเดนมาร์ก บริษัทเหล่านี้ส่วนมากจะมุ่งสนใจไปที่การผลิตตามแนวโน้มแฟชั่น ( trend-driven brands ) และผลิตครั้งละมากๆ
ในเวทีโลกการคาดคะเนแนวโน้มกระแสแฟชั่นและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรผลงานนั้นเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่ง Best seller ซึ่งเป็นร้านเครื่อข่ายค้าปลีกรายใหญ่นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในทิศทางนี้ และบริษัทได้เริ่มขยายกิจการเข้าไปเปิดสาขาในกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ภายใต้แบรนด์ ONLY ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี ส่งผลให้สินค้าเสื้อผ้าของเดนมาร์กไม่เพียงแต่ทำให้การส่งออกของเดนมาร์กเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นภาคส่วนที่สำคัญที่ช่วยสร้างงานในระบบเศรษฐกิจอย่างมากในช่วงวิกฤติการเงินทางเศรษฐกิจ
ปัจจุบันสินค้าแฟชั่นเดนมาร์ก ( Danish Design) สามารถสร้างเอกลักษณ์ (Brand)หรือมีความแตกต่าง จากเสื้อผ้าที่ผลิตครั้งละมากได้แล้ว (international mass production) The Designers Remix collection ซึ่งเป็นแบรนด์ที่จะไปแสดงในงาน London’s Fashion week spring 2011 เป็นหนึ่งตัวแทนของ innovative design ของแบรนด์นี้ นักออกแบบของแบรนด์นี้ชื่อ Ms. Charlotte Eskildsen ใช้คอนเซปต์ว่า somewhat mysterious โดนเน้นความเซ็กซี่ และ ความสง่างาม เป็นตัวอธิบายแบรนด์ เธอกล่าวว่า “ลักษณะการออกแบบของฉันนั้นเหมาะสำหรับผู้หญิงละเอียดละออ ที่มีความมั่นใจในตัวเอง และมีพลัง ฉันต้องผสมผสานการออกแบบที่หลากหลายเข้าด้วยกันที่จะสามารถทำให้ผู้หญิงรู้สึกถึงความสวยที่มีในตัวเอง
ในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมแฟชั่น เป็นอุตสาหกรรมลำดับต้นๆที่รัฐบาลเดนมาร์กให้ความสำคัญมาก โดยมีเป้าหมายมุ่งมั่นที่จะทำให้ โคเปนเฮเกนเป็นจุดศูนย์กลางแฟชั่นในอนาคต โดยใช้งานแสดงสินค้า Copenhagen fashion week ซึ่งเป็นงานแสดงเกี่ยวกับอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรปตอนเหนือ เป็นเครื่องมือในการดึงดูดผู้ชมงานจากทั่วโลก ดังที่ Eva Cruseตำแหน่ง CEO ของ Danish Fashion Institute กล่าวว่า โคเปนเฮเกน มีศักยภาพมากพอที่จะเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของโลกในอนาคตได้ นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นในเดนมาร์กอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่มันมีเสน่ห์และลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนใครในโลก นอกจากนี้มันยังเป็นการสร้างโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้แก่นักออกแบบที่มีความสามารถแต่ไม่มีโอกาส
สำหรับปี ๒๕๕๔ เดนมาร์กกำหนดจัดงาน Copenhagen International Fashion Fair รวม ๒ ครั้ง ณ Bella Center กรุงโคเปนเฮเกน ครั้งแรกจัดระหว่างวันที่ ๓-๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ และ ครั้งหลังจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๔-๗ สิงหาคม ๒๕๕๔
ทั้งนี้ ในปี ๒๕๕๓ เดนมาร์กมีการนำเข้าสินค้าเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มจากไทยมูลค่า ๒๐.๗๓ ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี ๒๕๕๒ ร้อยละ ๒๕.๑๙ สินค้ารองเท้าและชิ้นส่วน มูลค่า ๑๒๕.๔๐ ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๕.๒๗ และเครื่องใช้สำหรับเดินทาง มูลค่า ๑.๘๕ ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ ๕ เมื่อเทียบกับปี ๒๕๕๒
ที่มา Copenhagen Post ฉบับ ๑๔-๒๐ มกราคม ๒๕๕๓
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ. ณ กรุงโคเปนเฮเกน
ที่มา: http://www.depthai.go.th