รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะการค้า ภูมิภาคอาเซียน ประเทศสิงคโปร์ (16-31 มกราคม 2554)

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 25, 2011 10:52 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ประเทศสิงคโปร์

ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและภาวะการค้าระหว่างวันที่ 16-31 มกราคม 2554

เศรษฐกิจ-ภาวะการค้า

1.ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของสิงคโปร์เดือนธันวาคม 2553 เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 9 (ลดลงจากที่ตั้งเป้าไว้ร้อยละ 16) เนื่องจากการผลิตกลุ่มสินค้า Biomedical ลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน อีกทั้งกลุ่มสินค้าอื่นๆลดลง ยกเว้นกลุ่ม Transport Engineering ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1 ซึ่งอัตราการขยายตัวตามตารางข้างล่างนี้

อัตราการเติบโต (%) ตามกลุ่มอุตสาหกรรม เดือนธันวาคม 2553 และปี 2553 ดังนี้

                      กลุ่ม               ธันวาคม 2553     2553
          Precision Engineering              29         35.5
          Chemicals                         9.1         49.8
          Electronics                        9          12.9
          Transport Engineering             8.1         40.1
          Biomedical Manufacturing          1.2         -4.6
          General Manufacturing             0.7         10.7
                                   รวม       9          29.7

ที่มา : Economic Development Board (EDB)

2. กิจการสนามบินชางกีเติบโตมากในปี 2553 โดยมีจำนวนผู้เดินทางถึง 40 ล้านคน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีจำนวนนี้ นอกจากสนามบินชางกีเป็นที่นิยมของผู้เดินทางแล้ว ยังได้รับรางวัลต่างๆรวม 340 รางวัล นับตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อปี 2524 สำหรับปี 2553 ได้รับรางวัลสนามบินดีที่สุด 25 รางวัล รวมถึง 1) Best Airport in the World (Business Traveler-UK Publication) 2) Best International Airport Award (Conde’ Nast Traveler) ทั้งนี้ การบริการของสนามบินเป็นที่พอใจต่อผู้เดินทางซึ่งมีดัชนีชี้วัดถึง 73.7 (ระดับมาตรฐานเท่ากับ 68.7) อนึ่ง ในปี 2554 สนามบินชางกีครบรอบ 30 ปี ซึ่งได้มีการเติบโตจาก “Gateway into Singapore” เป็น “Major Gateway to Asia” และ “Premier Air Hub”

3. ราคาแป้งสาลี ถั่วเหลืองและน้ำตาลทรายเพิ่มสูงขึ้น เนื่องสภาวะวิกฤตทางธรรมชาติทำให้สินค้าขาดแคลน และส่งผลให้ราคาขายปลีกขนมปัง ขนมเค๊ก และผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ใช้ส่วนผสม 3 อย่างนี้ มีราคาสูงขึ้นอีกร้อยละ 5-8 ทั้งนี้ ในเดือนมกราคม 2554 ราคาแป้งสาลี 32 เหรียญสิงคโปร์/ถุง 25 กิโลกรัม (ในเดือนตุลาคม 2553 ราคา 29 เหรียญฯ) ถั่วเหลือง ราคา 1,130 เหรียญฯ/ตัน (ในปี 2553 ราคา 770 เหรียญฯ) และน้ำตาลทรายราคา 70 เหรียญฯ/ถุง 50 กิโลกรัม (ในปี 2552 ราคา 50 เหรียญฯ)

4. ภาคการก่อสร้างปี 2553 สดใส ซึ่งมีมูลค่า 25.7 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับปี 2552 (มูลค่า 22.5 พันล้านเหรียญฯ) และคาดการณ์การเติบโตของปี 2554 จะมีการเติบโตประมาณ 22-28 พันล้านเหรียญฯ แบ่งออกเป็นส่วนของภาครัฐประมาณ 12-15 พันล้านเหรียญฯ (ร้อยละ 55 ของการก่อสร้างรวม) โดยการเติบโตจะมาจากการสร้าง Institute of Technical Education(ITE) แห่งที่ 3 ที่ Ang Mo Kio และการพัฒนา Jurong General Hospital พร้อมกับ Community Hospital ณ Jurong East รวมถึงการปรับปรุง Victoria Theatre และ Victoria Concert Hall ณ Empress Place และการสร้าง MRT Line Stage 3 สำหรับภาคเอกชน คาดว่า จะเติบโตในระดับปานกลางประมาณ 10-13 พันล้านเหรียญฯ

ตารางการเติบโตภาคการก่อสร้างปี 2553 และคาดการณ์ปี 2554-2556 (หน่วย : พันล้านเหรียญสิงคโปร์)

          ปี                               การเติบโต                    มูลค่าผลผลิตของ
                            ภาครัฐ          เอกชน           รวม       โครงการที่แล้วเสร็จ
          2553               8.3           17.4           25.7             27
          2554             15-Dec          13-Oct        22-28          24-26
          2555            9-12 ต่อปี          -            19-26 ต่อปี      20-27 ต่อปี

(65% เป็นโครงการ

สร้าง อาคาร และ

          2556         35% เป็น โครงการ

Civil Engineering)

ที่มา : Building & Construction Authority (BCA)

5. อัตราเงินเฟ้อปี 2553 มีอัตราสูงถึงร้อยละ 2.8 เนื่องจากราคารถยนต์และน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ซึ่ง Department of Statistics ให้ข้อสังเกตว่า กลุ่มผู้มีรายได้สูงจะได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ทั้งนี้ Monetary Authority of Singapore คาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในอัตราสูงภายใน 2-3 เดือนของต้นปี 2553 และหลังจากนั้นจะมีอัตราที่ลดลงอยู่ในระดับปานกลาง ส่วน Bank of America Merrill Lynch คาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะมีอัตราที่สูงกว่าร้อยละ 4 ในช่วงต้นปี 2554 และร้อยละ 3.2 เมื่อถึงปลายปี 2554 สำหรับอัตราเงินเฟ้อปี 2553 ในแต่ละกลุ่มระดับรายได้ เทียบกับปี 2552 ตามตารางข้างล่างนี้

          Income Groups    All Items    Food    Housing    Transport    Education &     Recreation

Stationery Others

          General               2.8       1.4        2         10.3           2.7             1.2
          Lowest 20%            2.4       1.4       3.8         5.3           2.3             0.8
          Middle 60%            2.7       1.4       2.4         9.6           2.7              1
          Highest 20%           3.1       1.4       0.8        11.6           2.8             1.4

6.ภาคเอกชนคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2554 จะมีอัตราสูงกว่าของ MAS ร้อยละ 2-3 ได้แก่ (1) Credit Suisse คาดการณ์ร้อยละ 3.2 (2) DBS คาดการณ์ร้อยละ 4-5 (3) Citigroup คาดการณ์ร้อยละ 3-4 (4) OCBC คาดการณ์ร้อยละ 3.2 ทั้งนี้ จากเหตุผลของการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วทำให้มีความต้องการมากขึ้นทั้งด้านสินค้าและบริการ ซึ่งส่งผลให้มีความกดดันต่อดัชนีราคาผู้บริโภค หากภาครัฐดำเนินการให้อัตราเงินเฟ้อลดลง จะทำให้การเติบโตเศรษฐกิจได้รับผลกระทบ อีกทั้ง ปัจจัยสำคัญที่หลีกเลี่ยงได้ยากคือ ราคาน้ำมันอาจจะสูงกว่า 90 เหรียญสหรัฐฯ/บาเรล และราคาอาหารสูงขึ้นทั่วทุกประเทศ

7.ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2554 บริษัทน้ำมัน Caltex, Esso และ Shell ได้เพิ่มราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันประมาณ 3-4 เซนต์/ลิตร โดยราคาน้ำมัน(Octane Petrol) 98, 95 และ 92 มีราคา/ลิตร คือ 2.08, 2.007 และ 1.947 เหรียญสิงคโปร์ ตามลำดับ และน้ำมันดีเซล ราคา/ลิตร 1.493 เหรียญฯ

8.ความคาดหวังการเติบโตธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมการผลิตสินค้า โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ

(1) ช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2554 คาดว่า จะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น กลุ่มสินค้าสำคัญ ได้แก่ Biomedical, Pharmaceutical, Medical Technology และ Transport Engineering (aerospace and marine & offshore engineering) ที่จะมีผลผลิตสูงขึ้นตามความต้องการ ส่วนกลุ่มเคมีภัณฑ์ และ General Manufacturing คาดว่า จะผลผลิตลดลง (2) ช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2554 คาดว่าจะคงอยู่ในระดับที่ดี ธุรกิจที่จะมีการพัฒนาดีที่สุดคือ Transport Engineering เนื่องจากได้รับการสั่งซื้อ เพิ่มขึ้นของ marine and offshore engineering, offshore oil and gas สำหรับกลุ่มอื่นๆที่จะมีสภาวะที่ดีขึ้น ได้แก่ Aerospace (การบำรุงรักษา การซ่อมแซมและการยกเครื่องใหม่ ) กลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ (computer peripherals and semiconductor, computing and consumer electronics products) เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเริ่มแสดงให้เห็นการพัฒนาที่ฟื้นตัวสู่ระดับมั่นคง ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อการผลิตเพื่อส่งออก ได้แก่ ราคาสินค้าที่ต้องแข่งขันอย่างสูง ค่าเงินสิงคโปร์ที่แข็งแกร่ง และเศรษฐกิจยุโรปไม่มั่นคงพอ

9.คาดการณ์การจ้างงานเดือนมกราคม-มีนาคม 2554 ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตในช่วงไตรมาสแรกปี 2554 คาดว่าจะคงอยู่ในระดับที่ดี ซึ่งในทุกอุตสาหกรรมที่ทำการสำรวจ ร้อยละ 93 คาดว่าอัตราการจ้างงานในไตรมาสแรกปี 2554 จะมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหรือคงที่ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2553 สำหรับภาคอุตสาหกรรมสำคัญที่จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ Transport Engineering, Chemicals และ Electronics

การลงทุนในประเทศ

1.มูลค่าการลงทุนของบริษัทต่างชาติในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นในปี 2553 และ Economic Development Board (EDB) คาดว่า มูลค่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปี 2554 ซึ่งอัตราการเติบโตปี 2552-2553 และคาดการณ์ปี 2554 ตามตารางข้างล่างนี้

                                Indicator                          2552      2553       2554 คาดการณ์
          Fixed Asset                                              11.8      12.9          12 ถึง14

Investment (S$ billion)

          Total Business Spending per year      (S$ billion)       6.8       8.6          7.5 ถึง 9
          Value-added per year (S$ billion)                        12.5      14.4         14  ถึง 16
          Number of skilled jobs created                          15,200    21,300    16,000 ถึง 19,000

ที่มา : Economic Development Board (EDB)

2.การลงทุนของบริษัท P&G เพิ่มขึ้นในสิงคโปร์ โดยในต้นปี 2554 บริษัทฯได้เริ่มสร้าง Innovation Centre ณ Biopolis เขต Buona Vista พื้นที่ 32,000 ตารางเมตร (เป็นบริษัทที่มีพื้นที่มากที่สุดใน Biopolis) จะสร้างแล้วเสร็จในปี 2556 ซึ่งจะทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 500 อัตรา เพื่อดำเนินการพัฒนาสินค้าเพื่อเพิ่มบุคคลิกภาพ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยสำหรับบ้านและเคมีภัณฑ์ ทั้งนี้ บริษัทฯได้จัดตั้งสำนักงานใหญ่ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคในสิงคโปร์เมื่อปี 2553 และตั้งเป้าสำหรับการพัฒนาบุคคลากรปีละ 500 ราย เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานภูมิภาคของบริษัทฯ

อื่นๆ

1.สิงคโปร์เป็น World’s most globalised economies อันดับที่ 3 รองจากฮ่องกงและไอร์แลนด์ ซึ่งจากการสำรวจของ The Ernst & Young’s Globalisation Index 2010 ได้ทำการสำรวจจาก 60 ประเทศ โดยมีองค์ประกอบสำคัญ 5 ประการคือ การเปิดเสรีทางการค้า การเคลื่อนย้ายเงินทุน การแลกเปลี่ยนด้านเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ วิวัฒนาการของขบวนการแรงงาน และการผสมผสานของวัฒนธรรม

กิจกรรมที่ดำเนินการระหว่างวันที่ 16-31 มกราคม 2554

1. ประสานงานการลงโฆษณางานแสดง สินค้าแฟชั่นและเครื่องหนัง 2554 (BIFF & BIL 2011) โดยจัดลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ The Straits Times

2. ประสานงานเกี่ยวกับการจัดโครงการ Thailand Trade Exhibition ณ บริเวณสถานทูต ไทย และ VivoCity

3. ประสานงานเกี่ยวกับการจัดโครงการส่งเสริมการขายสินค้าไทยร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ต Isetan, FairPrice และ Giant

4. ประสานเชิญชวนและจัดคณะนักธุรกิจ/ผู้นำเข้าสิงคโปร์เยือนงานแสดงสินค้า Bangkok Gems & Jewelry Fair 2011

5. ประสานเชิญชวนและจัดคณะนักธุรกิจ/ผู้นำเข้าสิงคโปร์เยือนงานแสดงสินค้า Made in Thailand 2011

6. ประสานเชิญผู้สื่อข่าวสิงคโปร์เข้าร่วมงานแสดงสินค้า Thailand Int’l Furniture Fair 2011

7. ประสานงานการลงโฆษณาประชาสัมพันธ์กรมส่งเสริมการส่งออกในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างประเทศ (สิงคโปร์)

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ สิงคโปร์

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ