เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์
เยอรมนีเป็นผู้นำที่สำคัญในด้านการผลิตเครื่องจักรกล เครื่องอิเลคทรอนิกส์ใช้ในห้องทดลอง ในด้านการแพทย์ ยกเว้นคอมพิวเตอร์ที่ยังเป็นรองสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ในปี 2553 ที่ผ่านมา สมาคมอุตสาหกรรม เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิกส์ของเยอรมนีประมาณว่ายอดขายใน ตลาดโลกจะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีกร้อยละ 6 — 7 สำหรับเยอรมนีมียอดขาย ในปี 2553 เป็นมูลค่าประมาณ 162,000 ล้านยูโร หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 และในปี 2544 จะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 8 เป็น 175,000 ล้านยูโร สินค้าหมวดนี้ประกอบด้วยส่วนประกอบ ชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปมาก มายหลากหลายชนิด และยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด มีส่วนช่วยให้เยอรมนีซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าประเภทนี้ที่สำคัญระดับหนึ่งของโลก สามารถฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5,000 คน เป็นจำนวนคนงานในอุตสาหกรรมแขนงนี้ทั้งสิ้น 815,000 คน
ตลาดส่งออกที่สำคัญของเยอรมนีจะเป็นประเทศอื่นๆ ในยุโรปมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 67 เฉพาะประเทศต่างๆ ที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป มีส่วนแบ่งร้อยละ 57 โดยฝรั่งเศสมีส่วนแบ่งสูงสุดประมาณร้อยละ 35 รองลงมาเป็นสหรัฐอเมริกา จีนเป็นอันดับที่สาม มีส่วนแบ่งราวร้อยละ 7 แต่ในช่วง 2 —3 ปีข้างหน้าจะมีส่วนแบ่งเพิ่มสูงกว่าร้อยละ 10 ตามความต้องการของอุตสาหกรรมในจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
สินค้าส่งออกของไทย
ตามสถิติกรมศุลกากรไทย มูลค่าการส่งออกสินค้ารายการนี้ของไทยไปเยอรมนียังคงเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนแรกปี 2554 ไทยส่งออก เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปเยอรมนีมูลค่า 33.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 11.1 ของการส่งออกสินค้าไทยไปเยอรมนี มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 76.9 ที่สำคัญๆ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ มูลค่า 13.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 109.5 ไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 3 แหล่งนำเข้าสำคัญของเยอรมนี ได้แก่ เช็ค ฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ (ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 22, 14 และ 8) อุปกรณ์ไฟฟ้าให้สัญญานเสียงแสงมูลค่า 4.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 66.5 ไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 0.4 แหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่นและฮังการี (ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 21, 14 และ 9) สำหรับ เครื่องใช้อิเลคทรอนิกส์ ไทยส่งออกไปเยอรมนีเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 53.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 17.5 ของการส่งออกสินค้าไทยไปเยอรมนี มูลค่าลดลงร้อยละ 14.0 ที่สำคัญๆ ได้แก่ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เป็นมูลค่า 53.2 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าลดลงร้อยละ 24.4 ไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 2 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ จีน เนเธอร์แลนด์ และเช็ค (ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 38, 20 และ 9) วงจรพิมพ์ มีการส่งออกไปเยอรมนีเป็นมูลค่า 5.5 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.3 ไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 1.4 แหล่งนำเข้าสำคัญอื่นๆ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ และเกาหลีใต้ (ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 20, 10 และ 9)
จากการที่สินค้าประเภททุน ได้แก่ เครื่องจักรกล เครื่อใช้อิเลคทรอนิกส์ต่างๆ ยังคงเป็นที่ต้องการของต่างประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชีย ผู้ผลิตในเยอรมนีจึงมีความต้องการสินค้าประเภทชิ้นส่วนและส่วนประกอบมากขึ้นสำหรับการผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปต่อไป สินค้าของไทยโดยเฉพาะแผงวงจรต่างๆ จึงยังมีโอกาสตลาดที่ดี แจ่มใส
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศฯ ณ กรุงเบอร์ลิน
ที่มา: http://www.depthai.go.th