เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2553 สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน นำโดย นางสาวกนกพรรณ พงษ์อารยะ ตำแหน่งผู้อำนวยการ และ Ms. Roberta Ronda ตำแหน่ง Interntional Trade Relations ประจำสำนักงานฯ มิลาน ได้มีโอกาสเข้าพบผู้นำเข้าดอกไม้รายใหญ่ของอิตาลี Mr. Franco Cereda ตำแหน่งประธานบริษัท และ Mr. Giovanni Cereda ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท Betta & Cereda นอกจากนี้ Mr. Franco Cereda ยังเป็นประธานสมาคมผู้นำเข้าดอกไม้ ต้นไม้ และเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ของประเทศอิตาลี โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ Via Marco Bruto, 22 เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
บริษัท Betta & Cereda ได้ดำเนินการสืบทอดกันมาเป็นรุ่นที่ 4 ซึ่งจัดจำหน่ายดอกไม้ทั้งที่ผลิตเองในฟาร์มของบริษัทฯในอิตาลี และนำเข้าจากต่างประเทศ โดยมีลูกค้าหลักของบริษัทคือ Wholesaler, Retailer เช่น ร้านขายดอกไม้ต่างๆ ทั้งประเภทขายดอกไม้อย่างเดียวและจัดดอกไม้แบบมีดีไซน์เพื่อจำหน่าย นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายดอกไม้ผ่านทาง Website และจัดบริการส่งถึงบ้าน โดยมีร้านค้าย่อยของบริษัทตั้งอยู่ที่ตลาดค้าส่งดอกไม้ Mercato Floricolo ซึ่งตั้งอยู่ที่ Via Cesare Lombroso, 54 20137 Milano ประเทศอิตาลีอีกด้วย ซึ่งจะเปิดให้บริการเฉพาะวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 10.00 -12.00 น. เท่านั้น
โดยการเข้าพบครั้งนี้ สำนักงานฯ มิลานได้ทำความรู้จักตลาดดอกไม้ในอิตาลี รวมทั้งสอบถามปริมาณการผลิต และนำเข้าดอกไม้ โดยเฉพาะดอกกล้วยไม้ พบว่า บริษัทนำเข้าดอกกล้วยไม้จากทั่วโลกโดยมีประเทศหลักๆ เช่น แอฟริกาใต้ อิสราเอล สิงคโปร์ เนเธอร์แลนด์ และไทย เป็นต้น แต่ในปัจจุบันบริษัทได้หยุดการนำเข้าจากไทยโดยตรงโดยมีสาเหตุหลัก ๆ ได้แก่
1 ต้นทุนการนำเข้าสูงกว่าคู่แข่งอื่นในอิตาลี เมื่อเทียบกับผู้นำเข้ารายอื่นที่สั่งซื้อกล้วยไม้จากเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทำให้เห็นข้อแตกต่างในด้านราคา โดยผู้นำเข้ารายอื่นกดราคาดอกไม้ให้ต่ำลงเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ดอกไม้ที่บริษัทนำเข้านั้นไม่สามารถแข่งขันได้ในตลาดเนื่องจากราคาสูงเกินไป
ด้วยสาเหตุนี้ บริษัทจึงเปลี่ยนการสั่งซื้อจากไทยและหันไปนำเข้ากล้วยไม้ไทยจากเนเธอร์แลนด์แทน เพราะเป็นตลาดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีดอกไม้ให้เลือกจำนวนมากรวมทั้งมีการบริการขนส่งโดยรถบรรทุกมายังมิลานทุกวัน
2 ต้นทุนการขนส่งสูง โดยในอดีตการขนส่งสามารถขนส่งทางเครื่องบินโดยตรงจากกรุงเทพฯ ถึงมิลานโดยสายการบิน Alitalia ของประเทศอิตาลี แต่สายการบินดังกล่าวได้ยกเลิกเที่ยวบินนี้ไป จึงทำให้เหลือเที่ยวบินตรงจากไทยถึงมิลานเพียงแค่สายการบินไทย แต่ก็ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของเที่ยวบิน เพราะการบินไทยนั้นบินมามิลานเพียง
3 เที่ยว/สัปดาห์ และบินมาโรมเพียง
4 เที่ยว/สัปดาห์ จึงทำให้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้นำเข้าได้ดีเท่ากับการนำเข้าจากเนเธอร์แลนด์ที่สามารถส่งดอกไม้ได้ทุกวัน กอปรกับมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากต่อเที่ยว
ปริมาณการนำเข้าดอกกล้วยไม้ โดย 80% ของดอกกล้วยไม้ทั้งหมดนำเข้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ อีก 20% ที่เหลือนั้นเฉลี่ยนำเข้ามาจาก แอฟริกาใต้ อิสราเอล และสิงคโปร์ หากบริษัทหันมานำเข้าจากไทยโดยตรงคาดว่าจะนำเข้าไม่ต่ำกว่า 500 กิโลกรัมต่อครั้ง 10,000 - 15,000 สเต็มต่อเที่ยว นอกจากนี้ ในประเทศอิตาลีมีร้านขายดอกไม้รายย่อยถึง 35,000 ร้านทั่วประเทศ
การใช้งานดอกกล้วยไม้ โดยดอกกล้วยไม้ที่เป็นที่นิยมนำเข้าจากเนเธอร์แลนด์นั้นเป็นพันธุ์ดอกใหญ่ ซื้อเป็นต้นไม่ตัดดอกนิยมใช้เพื่อการประดับตกแต่งภายใน ส่วนดอกกล้วยไม้ไทยที่เป็นที่นิยมนั้นจะเป็นพันธุ์ดอกเล็ก และตัดดอกขาย โดยส่วนใหญ่ใช้ในการจัดช่อเพื่องานต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานศพ เป็นต้น ส่วนประเทศอิตาลีนั้นสามารถผลิตดอกกล้วยไม้ได้เอง เช่น พันธุ์ Phragmipedium แต่คุณภาพไม่ดีเท่ากับดอกกล้วยไม้จากประเทศอื่นๆ ในปัจจุบันนี้ชาวอิตาเลียนมีการอุปโภคดอกไม้ลดลงเมื่อเทียบกับ 10 ปีก่อน โดยจากการซื้อดอกไม้เฉลี่ย 80 ยูโร/คน/ปี ในปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 55-65 ยูโร/คน/ปีเท่านั้น
บริษัท Betta & Cereda มีความสนใจที่จะนำเข้าดอกกล้วยไม้โดยตรงจากประเทศไทย โดยต้องการติดต่อสั่งซื้อกับฟาร์มกล้วยไม้ไทยโดยไม่ผ่านคนกลาง และพร้อมที่จะรวบรวมปริมาณการสั่งซื้อให้มากพอกับการขนส่ง นอกจากนี้ บริษัทยินดีที่จะช่วยทำการประชาสัมพันธ์ดอกกล้วยไม้ไทยในอิตาลี เช่น โปรโมทผ่านเวบไซต์ของบริษัท หรือเน้นทำช่อกล้วยไม้ไทยจัดเป็นโปรโมชั่นอีกด้วย
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมิลาน
ที่มา: http://www.depthai.go.th