สงครามค้าปลีกระหว่างยักษ์ใหญ่ของวงการ คือ ห้างวอลมาร์ท และ ห้างทาร์เก็ท นับวันจะเข้มข้นขึ้นเป็นลำดับ ห้างทั้งสองทำทุกหนทางที่จะขยายร้านค้าเข้าไปในเมืองใหญ่และมีชุมชนหนาแน่น ห้างทาร์เก็ทประสบความสำเร็จและได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ในขณะที่ห้างวอลมาร์ทได้รับการต่อต้าน ไม่ต้องการให้มีการขยายสาขาเข้ามาในเขตชุมชนหนาแน่น แต่ห้างวอลมาร์ทประสบความสำเร็จในการขยายสาขาในเมืองขนาดเล็กหรือนอกเขตชุมชนใหญ่
ในช่วงเวลาเศรษฐกิจเปราะบางของสหรัฐฯ ห้างทาร์เก็ทได้ใช้วิกฤติให้เป็นโอกาสโดยดำเนินการเปิดสาขาบนถนน State Street ในใจกลางเมืองของนครชิคาโก ซึ่งเป็นย่านธุรกิจการค้าที่เก่าแก่และสำคัญ นับได้ว่ามีความหาญกล้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าในย่านนี้ เคยมีห้างสรรพสินค้าหลายแห่งเปิดกิจการอยู่ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา แต่ค่อยๆ ทะยอยปิดสาขาเพราะประสบปัญหาการขาดทุน หรือ อีกแง่หนึ่ง ถือว่าห้างทาร์เก็ตมีชัยชนะเหนือคู่แข่ง ห้างฯ มั่นใจว่า จุดขายที่สำคัญของห้างฯ คือ รูปแบบสินค้าที่มีสไตล์และดีไซน์ที่เหนือกว่าสินค้าของคู่แข่งขันรวมทั้งการตกแต่งภายใน ซึ่งจะเป็นปัจจัยดึงดูดลูกค้าให้มาซื้อสินค้าของห้างฯ
ห้างทาร์เก็ทสาขานี้ ตั้งอยู่ในอาคาร Sullivan Center ซึ่งเป็นอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของนครชิคาโก ซึ่งเดิมอาคารหลังนี้เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า Carson Pirie Scott และได้ตัดสินใจปิดสาขานี้เมื่อปี 2550 แต่ยังเปิดสาขาต่างๆ ตามเขตนอกรอบของนครชิคาโก ร้านทาร์เก็ทสาขานี้จะเป็น Urban Store Concept ที่ใช้พื้นที่ประมาณ 54,000 ตารางฟุต (5,016 ตารางเมตร) มีกำหนดเปิดให้บริการในต้นปี 2555 นับเป็นสาขาแห่งที่ 10 ของห้างฯ ในนครชิคาโก ในขณะที่ห้างวอลมาร์ทนั้นมีสาขาในนครชิคาโกเพียงแห่งเดียว
ปัจจุบัน การเปิดร้านสาขาขนาดย่อมในเขตชุมชนเมืองหรือในย่านธุรกิจของมหานคร ใหญ่ๆ ในสหรัฐฯ เป็นกลยุทธ์การค้าปลีกที่กำลังเป็นที่นิยมของผู้นำตลาดค้าปลีก เพื่อให้บริการโดยทั่วถึงทุกกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งนอกจากจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคแล้ว แต่ก็ได้รับการต่อต้านจากชุมชนจำนวนมากเช่นกัน เนื่องจาก ส่งผลกระทบต่อร้านค้าปลีกรายย่อยในชุมชุนที่ไม่สามารถแข่งขันได้ทำให้ต้องทะยอยปิดกิจการไปในที่สุด
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก
ที่มา: http://www.depthai.go.th