ผลการสำรวจสำมะโนประชากรของรัฐบาลอินเดียเมื่อเร็วๆ นอกจากประชากรอินเดียจะมีมากกว่า 1,210 ล้านคนแล้ว ยังพบว่าอินเดียยังมีคนรู้หนังสือมากขึ้น จาก 64.83%ในปี 2001 เป็น 74.04% ในปี 2011 เพิ่มขึ้น 38.82% อันเป็นผลพวกจากเศรษฐกิจอินเดียที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 8.5% ต่อปี
อัตราการรู้หนังสือของอินเดีย
ล้านคน 2001 2011 เพิ่มขึ้น % ชาย 336.5 444.2 31.98 หญิง 224.2 334.2 49.1 รวม 560.7 778.4 38.82
เมื่อพิจารณาแยกเป็นชาย-หญิง พบว่าอัตราการรู้หนังสือเพิ่มขึ้นในเกณฑ์ที่สูงเช่นกัน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราการรู้หนังสือของเพศหญิง (49.10%)มีมากกว่าการเพิ่มขึ้นของเพศชาย (31.98%) สะท้อนให้เห็นถึงการเข้าถึงการศึกษาของเพศหญิงมีมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเข้าสูตลาดแรงงานมากขึ้นในอนาคต
นอกจากนั้นยังพบมามี 10 รัฐที่มีอัตราการรู้หนังสือเกิน 85% ได้แก่ เกรละ ลักษวีป มิโซรัม ตริปูระ กัว ดามันและดิว พอนดิเชอรี ฉัตติครห์ นิวเดลี และอันดามัน/นิโคบา.
เกรละมีอัตราการรู้หนังสือสูงที่สุดถึง 95% เป็นผลโดยตรงจากเศรษฐกิจที่ดีมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากราคายางพาราและเครื่องเทศซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของรัฐนี้พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รองลงมาเป็นลักษวีป เกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งปลูกมะพร้าวสำคัญของอินเดียมี อัตราการรู้หนังสือ 92.28% ขณะรัฐที่ยากจนอย่างพิหารและอรุณาจัลประเทศมีอัตราการรู้หนังสือเพียง 63.82 % และ66.95% ตามลำดับ
นายไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ ผอ. สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไนเปิดเผยว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราการรู้หนังสือดังกล่าวเป็นผลจากการผลักดันอย่างจริงจังในทุกๆด้านของรัฐบาลอินเดียในการขยายโอกาสทางการศึกษาของประชาชนเพื่อรองรับการหลั่งไหลของ FDI เข้าสู่อินเดียอย่างต่อเนื่อง เมื่อเร็วๆ นี้ The United Nations Conference on Trade and Development (UNCTAD) ได้เผยแพร่รายงาน "Foreign Direct Investment 2010" ซึ่งเป็นข้อมูลการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศของประเทศในภูมิภาคต่างๆ ของโลกในปี 2552 ระบุว่า อินเดียเป็นประเทศที่ดึงดูด FDI ได้มากที่สุดเป็นอันดับ 9 ของโลก มูลค่าราว 34.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนั้น UNCTAD ยังคาดการณ์ว่า FDI Inflows ของอินเดียจะเพิ่มขึ้นและมี FDI Inflows มากเป็นอันดับ 3 ของโลกในช่วงปี 2553-2555
ที่มา: http://www.depthai.go.th