ผลการหารือของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยในการเยือนกัมพูชา

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 25, 2011 14:34 —กรมส่งเสริมการส่งออก

สรุปผลการหารือระหว่างสมาคมผู้ส่งออกข้าวของไทยกับสมาคมโรงสีข้าวกัมพูชา

เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๔ ณ กรุงพนมเปญ

๑. ผู้เข้าร่วมประชุม

๑.๑ ฝ่ายกัมพูชา ประกอบก้วย Mr. Duong Heng ตำแหน่งรองประธานสมาคมโรงสีข้าวกัมพูชา และประธานโรงสีข้าวจังหวัดตาแก้ว เป็นประธาน ร่วมกับประธานโรงสีข้าวของจังหวัดต่างๆ ได้แก่ จ. ไปรแวง, จ. กัมปงจาม, จ. บันเตียเมียนเจย, จ. พระตะบอง, จ. เสียมเรียบ, จ. กัมปงธม, จ. โพธิสัตว์, จ. อุดรเมียนเจย และ จ. กันดาล รวม ๑๐ คน

๑.๒ ฝ่ายไทย ประกอบด้วย นางกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และคณะ รวม ๓๓ คน

๒ ประเด็นการหารือ

๒.๑ ฝ่ายไทย :

นางกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย แจ้งถึงวัตถุประสงค์ในการเดินทางมาเยือนกัมพูชาในครั้งนี้ว่า เป็นการสำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาข้าวกัมพูชาเพื่อส่งออก และหาความร่วมมือเพื่อดำเนินธุรกิจส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศ เนื่องจากกัมพูชามีข้าว ส่วนไทยมีตลาด ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะไดัรับผลประโยชน์ร่วมกัน

๒.๒ ฝ่ายกัมพูชา :

๒.๒.๑ Mr. Duong Heng แจ้งว่า ปัจจุบันกัมพูชามีข้าวเปลือกเหลือเพื่อส่งออกประมาณ ๒ ล้านตัน โดยเฉลี่ย ๑ ปี สามารถปลูกข้าวได้ ๘ ล้านตัน (ข้าวเปลือก) โดยเป็นข้าวหอมประมาณร้อยละ ๒๕ - ๓๐ ของผลผลิตรวม จังหวัดที่ปลูกข้าวมากที่สุด คือ จ. พระตะบอง (ชายแดนไทย) และ จ. ตาแก้ว (ชายแดนเวียดนาม) ข้าวเปลือกที่เหลือจากการบริโภคจะส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือ ไทยและเวียดนาม ขณะนี้กัมพูชากำลังทำการปรับปรุงพันธุ์ข้าวหอมให้ตรงกับความต้องการของตลาด

ต้นทุนการผลิตข้าว ๑ เฮกตาร์ ประมาณ ๑.๕ ล้านเรียล หรือ (ประมาณ ๔๐๐ ดอลลาร์สหรัฐฯ) ได้รับผลผลิตโดยเฉลี่ยประมาณ ๓ - ๔ ตัน (ข้าวเปลือก) ราคาข้าวเปลือก ความชื้นประมาณ ๑๔% พันธุ์ทั่วไป ๒๓๐ ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน พันธุ์ข้าวหอม ๓๕๐ ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน ส่วนราคาข้าวสาร (ข้าวหอม) FOB ณ ท่าเรือสีหนุวิลล์ ส่งออกไปยุโรป ๙๑๕ ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน

๒.๒.๒ การปลูกข้าวในกัมพูชามีการนำเครื่องจักรมาช่วยงาน และสมาคมโรงสีข้าวกัมพูชากำลังดำเนินโครงการกระจายพันธุ์ข้าวให้แก่เกษตรกรปลูกเพื่อสะดวกต่อการกำหนดพันธุ์ และกำลังศึกษาตลาดข้าวในต่างประเทศ โดยต้องการเรียนรู้ประสบการณ์จากไทยเรื่องการหาตลาดในต่างประเทศ

๒.๒.๓ รัฐบาลกัมพูชามีแผนผลักดันการส่งออกข้าว โดยกำหนดให้ว่า ในปี ๒๐๑๕ จะส่งออกข้าวสารให้ได้ ๑ ล้านตัน จึงพยายามพัฒนาระบบชลประทาน และการคัดเลือกข้าวพันธุ์ดี เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าว ๒ - ๓ ครั้งต่อปี นอกจากนี้ รัฐบาลได้ให้เงินกู้แก่ผู้ประกอบการโรงสีข้าวเพื่อรับซื้อข้าวเปลือก โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๖ ต่อปี

๒.๒.๔ กัมพูชามีโรงสีข้าวทั่วประเทศ รวม ๓๕๐ โรง และคาดว่าจำนวนโรงสีข้าวจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นตามความต้องการของตลาด ในปี ๒๐๑๐ สมาคมโรงสีข้าวกัมพูชาส่งออกข้าวสาร จำนวน ๔ พันตัน ส่วนในไตรมาสแรกของปี ๒๐๑๑ (ม.ค. - มี.ค.) ส่งออกจำนวน ๓ หมื่นตัน ผ่านท่าเรือน้ำลึกสีหนุวิลล์

๒.๒.๕ สมาคมโรงสีข้าวกัมพูชายินดีที่จะร่วมมือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเพื่อทดลองส่งออกข้าวสารของกัมพูชาไปยังตลาดยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา ขณะนี้ บริษัท CP Cambodia ซึ่งเป็นนักธุรกิจไทยได้รับซื้อข้าวสารในจังหวัดกัมปงจามเพื่อทำการบรรจุ (packing) และส่งออกไปต่างประเทศ

๓. ผลการหารือ

๓.๑ ฝ่ายไทยเห็นว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการพัฒนาข้าวกัมพูชาเพื่อส่งออก และมีโอกาสที่จะเกิดความร่วมมือ โดยต้องมีการศึกษาต้นทุนเรื่องการผลิต และโลจิสติกส์ เพิ่มเติม

๓.๑ ฝ่ายกัมพูชาเห็นว่า ความร่วมมือจะทำให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย โดยเสนอให้เริ่มจากธุรกิจขนาดเล็กไปสู่ธุรกิจขนาดใหญ่

สคร.กรุงพนมเปญ

สรุปผลการหารือระหว่างสมาคมผู้ส่งออกข้าวของไทยกับสภาหอการค้ากัมพูชา

เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ ณ กรุงพนมเปญ

๑. ผู้เข้าร่วมประชุม

๑.๑ ฝ่ายกัมพูชา ประกอบด้วย Neak Oknha Kith Meng ตำแหน่ง ประธานสภาหอการค้ากัมพูชา และสมาชิกสภาหอการค้ากัมพูชา รวม ๒๘ คน

๑.๒ ฝ่ายไทย ประกอบด้วย นางกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และสมาชิก รวม ๓๓ คน

๒ ประเด็นการหารือ

๒.๑ Neak Oknha Kith Meng ประธานสภาหอการค้ากัมพูชา กล่าวต้อนรับคณะ และหวังที่จะเห็นความร่วมมือเรื่องข้าว โดยได้กล่าวถึงโอกาสของอุตสาหกรรมข้าวของกัมพูชา ดังนี้

  • รัฐบาลกัมพูชาได้ผลักดันนโยบายข้าวให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยมีนโยบายให้ธนาคารปล่อยเงินกู้เพื่อการเพาะปลูกและส่งออก นอกจากข้าว กัมพูชายังมีการสนับสนุนการเพาะปลูกและผลิตสินค้าเกษตรอื่นๆ เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และอ้อยเพื่อผลิตน้ำตาล
  • มีการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ รางรถไฟทางเหนือ เชื่อมต่อระหว่างกรุงพนมเปญ จ.กัมปงชะนัง จ.โพธิสัต จ.พระตะบอง และปอยเปต โดยจะเชื่อมต่อฝั่งไทยที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และทางใต้สร้างเชื่อมไปยังเวียดนามโดยการสนับสนุนจากจีน ซึ่งทั้งหมดเป็นโครงการเชื่อมต่อระบบคมนาคมภายใต้กรอบ ACMECS นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาถนน พลังงาน และบุคคลากร
  • ภายในปี ๒๕๕๘ กัมพูชามีนโยบายผลักดันให้มีการส่งออกให้ได้มากกว่า ๑ ล้านตันข้าวสาร ไม่สนับสนุนให้ส่งออกข้าวเปลือกเพราะไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มและการสร้างงาน ซึ่งจากนโยบายดังกล่าวทำให้มีความต้องการเรียนรู้ประสบการณ์การผลิต เทคนิค และการตลาดจากไทย และคาดว่าในปี ๒๕๕๘ กัมพูชาจะสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
  • สนับสนุนให้มีการเข้ามาลงทุนในกัมพูชา โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาการคอร์รัปชั่น เพราะรัฐบาลกัมพูชาได้ก่อตั้ง Corruption Unit เพื่อต่อต้านการคอร์รัปชั่น

๒.๒ ฝ่ายไทย :

  • นางกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ ได้แสดงความคิดเห็นว่า การพัฒนาการผลิตและส่งออกข้าวของกัมพูชามีความเป็นไปได้สูงมาก เนื่องจากมีการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่ถือว่าเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการลงทุน ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการขนส่งลดลง
  • การสนับสนุนของรัฐบาลมีความชัดเจน และถือเป็นโอกาสที่ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกัน การเจรจากันของภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายจะช่วยผลักดันให้รัฐบาลทั้งสองประเทศร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรม

สคร.กรุงพนมเปญ

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ