อินเดียตั้งเป้าส่งออก 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายใน 3 ปี จะส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าทุนและวัตถุดิบของไทยทะลักเข้าอินเดียมากขึ้น
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 นายอนันต์ ชามา รมว. พาณิชย์อินเดียได้เปิดเผยแผนยุทธศาสตร์การส่งออกฉบับใหม่ว่าอินเดียจะเพิ่มการส่งออกให้ได้ 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายใน 3 ปี (2511-2513) เพิ่มขึ้นถึง 37.5% เมื่อเทียบกับปี 2553 ที่มียอดการส่งออก 245,000 เหรียญสหรัฐโดยสินค้าเป้าหมายหลักจะเป็นสินค้าวิศวกรรมเคมีภัณฑ์ ยา-เวชภัณฑ์ และอิเล็กทรอนิกส์ โดยสัดส่วนสินค้ากลุ่มดังกล่าวต่อการส่งออกรวม จะขยับเพิ่มจากเดิมที่มีสัดส่วน 31.9 % (ปี 2553) เป็น 39.2 %
เมื่อพิจารณารายสินค้า นายชามากล่าวว่า สินค้าที่มีศักยภาพในส่งออก เป็นสินค้กลุ่มวิศวกรรมซึ่งได้ตั้งเป้าหมายส่งออก 1.25 แสนล้านเหรียญสหรัฐ กลุ่มยาและเภสัชภัณฑ์ 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เคมีภัณฑ์ขั้นมูลฐาน 1.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 1.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนสินค้าที่เป็นสินค้าเป้าหมายดั้งเดิมและมีการใช้แรงงานสูง เช่น เสื้อผ้า/สิ่งทออินเดียได้ตั้งเป้าส่งออก 4.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เครื่องหนัง/รองเท้า 9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ อัญมณีและเครื่องประดับ 7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และสินค้าเกษตร 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ในการบรรลุเป้าหมายการส่งออก 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ดังกล่าว อินเดียจะต้องเพิ่มการส่งออกให้ได้ร้อยละ 26.7 ต่อปี และจะต้องใช้ยุทธศาสตร์เชิงรุกเปิดตลาดใหม่ๆ ให้กับสินค้าอินเดียเพิ่มขึ้น เช่น การเปิดตลาดอเมริกาใต้ และการรุกตลาดอาเซียนที่มีความตกลงอาเซียน-อินเดีย FTA ให้มากขึ้น อีกทั้งรัฐบาลอินเดียจะได้ปรับปรุงสิทธิพิเศษด้านการส่งออก ลดต้นทุนธุรกรรมการส่งออก และชูนโยบาย “Brand India” อย่างจริงจังเพื่อกระตุ้นการส่งออกสินค้าในกลุ่มเป้าหมายต่อไป
นายไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ ผอ. สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ เมืองเจนไน ให้ความเห็นว่า นโยบายกระตุ้นการส่งออกดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยเป็นอันมาก เนื่องด้วยกว่าร้อยละ 84 ของการส่งออกของไทยไปยังตลาดอินเดียเป็นการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก อาทิเช่น เคมีภัณฑ์ กาว/เครื่องหนัง/ชิ้นส่วนรองเท้า เม็ดพลาสติก เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องยนต์ รถยนต์/อุปกรณ์/ส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและอัญมณีและเครื่องประดับ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์/อุปกรณ์/ส่วนประกอบ และเหล็ก/เหล็กกล้า อีกทั้งสินค้ากว่า 4,800 รายการก็เป็นสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรภายใต้ FTA อาเซียน-อินเดีย จึงคาดว่าการส่งออกไปอินเดียจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 40% ต่อปีในช่วง 3 ปีนี้
ที่มา: http://www.depthai.go.th