สิงคโปร์ปรับแผนสำรองสำหรับสินค้าข้าว

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 19, 2011 14:35 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ในการนำเข้าสินค้าข้าว ผู้นำเข้าต้องจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทไว้กับหน่วยงานสิงคโปร์ คือ Accounting & Corporate Regulatory Authority (ACRA) และได้รับใบอนุญาตการนำเข้า (Import License) จากหน่วยงาน International Enterprise Singapore (IE Singapore) โดยผู้นำเข้าข้าวสารต้องทำการสำรองข้าวสารไว้ในปริมาณ 2 เท่าของปริมาณที่นำเข้าแต่ละเดือน และข้าวที่สำรองต้องเก็บไว้ในโกดังสินค้าของรัฐบาล Singapore Storage & Warehouse Pte. Ltd. (SSW) ชนิดข้าวที่ต้องสำรอง คือ ข้าวหอม (Fragrant Rice) ข้าวขาว (White Rice) และข้าวหัก (Broken Rice) สำหรับข้าวที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องสำรองคือ ข้าวกล้อง, ข้าวนึ่ง (Parboiled Rice) ข้าวเหนียว และข้าวบาสมาติ (Basmati Rice)

ในสภาวะที่ราคาสินค้าอาหารและสินค้าเกษตรในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น เพราะความต้องการมีสูงกว่าปริมาณผลผลิต จึงมีแนวโน้มที่อาจจะเกิดวิกฤตการณ์ขาดแคลนอาหาร สิงคโปร์ซึ่งต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าอาหารจากทั่วโลก รวมทั้งข้าว ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายการนำเข้าสินค้าข้าวเมื่อเดือนเมษายน 2554 โดยได้ออกประกาศให้ผู้นำเข้าข้าวต้องเพิ่มปริมาณการสำรองข้าว ซึ่งชนิดของข้าวที่ต้องมีการสำรองคือ White Rice, Basmati Rice, Ponni Rice และ Parboiled Rice และต้องเก็บสำรองไว้ที่โกดังสินค้าของรัฐบาล Singapore Storage & Warehouse Pte. Ltd. (SSW) ซึ่งควบคุมโดย International Enterprise Singapore โดยกำหนดปริมาณนำเข้าประจำเดือน(Monthly Import Quantity : MIQ) สำหรับ White Rice จำนวนขั้นต่ำ 50 ตัน/เดือน ส่วน MIQ สำหรับ Ponni Rice, Parboiled Rice และ Basmati Rice ไม่มีการกำหนดปริมาณขั้นต่ำ

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ สิงคโปร์

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ