ตลาดรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบฮังการี ความน่าสนใจ ไม่ใช่ตลาดในประเทศ...แต่ป็นฐานการผลิตในเขตภูมิภาค

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 15, 2011 11:38 —กรมส่งเสริมการส่งออก

ภาพรวม

ยุโรปกลางและตะวันออกกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมรถยนต์โลกเป็นอย่างยิ่ง ด้วยจำนวนรถยนต์ 2.9 ล้านคันที่ผลิตในปี 2551 จึงทำให้เป็นฐานการผลิตที่สำคัญสำหรับตลาดยุโรป ในปี 2550 ผลผลิตในกลุ่ม CEE ขยายตัวถึงร้อยละ 27 มากกว่าทางฝั่งยุโรปตะวันตกถึง 5 เท่า บทบาทที่สำคัญของยุโรปกลางคือการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็ก หรือ economic car การขยายตัวอย่างรวดเร็วของการผลิตยานยนต์ในท้องถิ่น ยังผลให้ตลาดซัพพลายเออร์มีการเติบโตด้วยเช่นกัน การพัฒนาอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมยานยนต์ในกลุ่ม CEE จะไม่มีทางเป็นไปได้ หากขาดการลงทุนจากต่างชาติอย่างจริงจัง จากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำจากยุโรป อเมริกา และเอเชีย

จำนวนของผู้ผลิตอุปกรณ์และส่วนประกอบรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงต้นของปี 2533 บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างประเทศหลายแห่งเช่น Suzuki, Audi, General motors และซัพพลายเออร์ระดับชั้นนำ ได้ก่อตั้งโรงงานผลิตในฮังการี โดยมีการลงทุนมากกว่าร้อยละ 45 ของยอดการลงทุนจากต่างชาติโดยรวม

ลักษณะเฉพาะของตลาดอุปกรณ์และส่วนประกอบรถยนต์ในฮังการี ความต้องการของชิ้นส่วนยานยนต์ โดยทั่วไปแล้วขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ
  • ปริมาณการผลิตประจำปีของยานพาหนะ ชิ้นส่วนหลักและอุปกรณ์ต้นแบบ หรือที่เรียกว่า original equipment manufacturer (OEM)
  • อายุการใช้งานและข้อกำหนดของสมาคมธุรกิจยานยนต์ของประเทศ

อุตสาหกรรมซัพพลายเออร์ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ฮังการี นอกจากจะผลิตเพื่อรองรับความต้องการของบริษัทผลิตรถยนต์ข้ามชาติที่ปฏิบัติการในประเทศแล้ว ยังส่งออกสู่ตลาดยุโรปตะวันตก และประเทศต่างๆด้วยเช่นกัน องค์ประกอบของตลาดประกอบด้วยการดำเนินงานของบริษัทจำนวน 180-200 ราย ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง ที่ผลิตส่วนประกอบยานยนต์มากกว่า 100 ราย ส่วนบริษัทขนาดเล็กที่ผลิตชิ้นส่วนไฟฟ้า เครื่องอัดเย็น เครื่องตัดโลหะ และชิ้นส่วนพลาสติก มีจำนวน 20-30 ราย

สถานการณ์ตลาด

สถานการณ์ตลาดรถยนต์ภายในประเทศได้รับผลกระทบอยากหนักทั้งจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ การปล่อยเครดิตแก่ผู้ต้องการซื้อรถซึ่งแทบจะสูญหายไปจากตลาด รวมถึงยอดการสั่งซื้อจากภาครัฐก็ลดลงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากนโยบายทางการเงินที่เข้มงวด จำนวนรถใหม่ที่จดทะเบียนในปี 2553 ลดลงถึง 72% เมื่อเทียบกับปี 2551 และลดลง 28% เมื่อเทียบกับปี 2552

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจของบริษัทวิจัย PwC ชี้ให้ว่าผู้ประกอบการจำนวนมาก มองว่าแนวโน้มตลาดจะเริ่มพลิกตัวดีขึ้น และจากการประเมินของสมาคมผู้นำเข้ายานยนต์ประเทศฮังการี (the Hungarian Association of Vehicle Importers) ในปี 2554 คาดว่าจะมีการจดทะเบียนรถใหม่ที่ประมาณ 58,000 คัน ซึ่งหมายถึงเพิ่มขึ้นจากปี 2553 จำนวน 15,000 คัน แม้ว่าในช่วงเดือนแรกของปี 2554 ยอดขายรถยนต์และส่วนประกอบจะลดลงร้อยละ 3.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ในปี 2553 อุตสาหกรรมยานยนต์สามารถสร้างผลผลิตโดยรวมถึง 13 พันล้านยูโร จึงนับได้ว่าอุตสาหกรรมนี้เป็นเสาหลักที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ และวงการผลิตในฮังการีเป็นอย่างยิ่ง ด้วยสัดส่วนร้อยละ20 ของการส่งออก การจ้างงานทั้งในส่วนของซัพพลายเออร์รายย่อย และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องสามารถสร้างงานให้กับประเทศมากกว่า 100,000 ตำแหน่ง ตลอดจนการลงทุนของผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติ เช่น Audi Mercedes และ Opel ซึ่งมีมาตรฐานทางเทคโนโลยี และมูลค่าเพิ่มทางการผลิตสูง จึงมีส่วนช่วยผลักดันการส่งออกและ GDP ของประเทศให้เติบโตมากยิ่งขึ้น

แนวโน้มตลาด

การเลือกซื้อรถยนต์ของประชากรฮังการี จะมีแนวโน้มที่รถยนต์ขนาดเล็ก ราคาไม่แพงเหมาะสมกับรายได้ ดังนั้น “Suzuki” ซึ่งเป็นรถยนต์เพียงแบรนด์เดียวที่ผลิตภายในประเทศ และมีเป้าหมายที่รถยนต์นั่งขนาดเล็ก จึงครองตำแหน่งเจ้าตลาด ตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา ในปี 2550 มีส่วนแบ่งตลาดถึงร้อยละ 28 และด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ผู้ทำตลาดแต่ละราย ต่างมุ่งเน้นกิจกรรมและพัฒนาตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กเพิ่มมากขึ้น

หลังจากปี 2549 กำลังซื้อของประชากรฮังการีได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากระบบการเมืองในประเทศ จนมาถึงวิกฤตเศรษฐกิจโลกเมื่อปลายปี 2551 แต่การที่ฮังการียังคงได้รับความสนใจจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำต่างชาตินั้น ไม่ใช่เพราะตลาดรถยนต์ในประเทศ แต่เป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานและวัฒนธรรมทางภาคอุตสาหกรรมของฮังการี ที่เหมาะสมต่อการเป็นฐานผลิตแห่งภูมิภาคให้กับสามผู้ผลิตระดับโลก Suzuki Audi และ General Motors โดยเน้นการผลิตเครื่องยนต์เป็นหลัก ผู้ทำตลาดทั้งสามราย ต่างมีจุดประสงค์และแผนการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน จึงเชื่อว่าจะสามารถผลักดันอุตสาหกรรมให้มีการขยายตัว สร้างแหล่งงานใหม่ ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่ออุตสาหกรรมโดยรวมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ฮังการียังเป็นที่สนใจของ Daimler AG ด้วยการตัดสินใจเปิดโรงงานในเมือง Kecskemet ซึ่งห่างจาก Budapest ประมาณ 86 ก.ม.เพื่อผลิตโมเดิลใหม่สำหรับรถยนต์นั่งขนาดเล็กในอนาคตข้างหน้า

ผู้ร่วมทำตลาด

Audi Hungaria

คือ ผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ที่สุดของประเทศ และเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตเครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง Gyor ในปี 2551 ฮังการีสามารถผลิตเครื่องยนต์ได้เกือบ 2 ล้านเครื่อง เพื่อจัดส่งให้กับ Audi ทุกรุ่นและ VW ทั้งในฮังการีและประเทศอื่นๆ หลังจากเกิดภาวะวิกฤต แม้ว่าAudi จะได้รับผลกระทบหนักกว่ารายอื่นในฐานะหนึ่งในผู้ส่งออกหลักของฮังการี แต่ทางบริษัทยังคงมีนโยบายขยายกำลังผลิตเพิ่มจากเดิมเป็น 3 เท่าในปี 2556

Suzuki

คือ ผู้ผลิตรายใหญ่อันดับสองของประเทศ ซูซูกิเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในฮังการีตลอดระยะเวลา 13 ปี มียอดจำหน่าย 170,000 คันในปี 2551 และ 2552 แม้ว่าการมุ่งเน้นตลาดภายในจะต้องประสบปัญหาทางด้านผลผลิตลดลง แต่ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นก็ได้ให้คำมั่นสัญญากับผู้ร่วมธุรกิจในฮังการี ในการที่ขยายกำลังการผลิตให้มากยิ่งขึ้น โดยจะเพิ่มยอดขายในประเทศรัสเซียให้ได้ถึง 30,000 คันภายในปี 2555 และต้องการเปิดตลาดในแถบอเมริกาเหนือ (Morocco, Tunisia and Egypt) เพื่อสร้างยอดขายให้ได้ ประมาณ 10,000 คัน

General Motors

ตั้งโรงงานที่ Szentgotthard ติดกับเขตชายแดนออสเตรีย จัดส่งให้กับแบรนด์ต่างๆในยุโรป

Daimler

“Mercedes-Benz new generation” ทั้งรุ่น A และ B class ซึ่งจะเริ่มผลิตในปี 2555 การตัดสินใจเลือกฮังการีเป็นฐานผลิตนั้น ได้รับแรงจูงใจมาจากการได้เปรียบทางด้านค่าจ้างงาน แรงงานคุณภาพ ความเหมาะสมและความพร้อมของซัพพลายเออร์ ตลอดจนโครงสร้างการขนส่งที่สะดวก โครงการผลิตรถยนต์นั่งขนาดกระทัดรัด (compact model) มีความสำคัญมากต่อ บริษัท Daimler ซึ่งกำลังพยายามวางสินค้าให้ตรงกับรสนิยมของลูกค้าชาวยุโรปตะวันออกมากที่สุด

Hankook

ซัพพลายเออร์ย่อย ผู้ผลิตยางรถยนต์จากเกาหลีใต้ มีแผนขยายการลงทุนโรงงานผลิตในฮังการี เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมยางรถยนต์ยุโรปในปี 2554

การค้าระหว่างไทย

ในปี 2551 ฮังการีนำเข้าสินค้าประเภทรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ จากไทยเป็นมูลค่า 958.1 ล้านบาท และหลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ การนำเข้าลดลงถึงร้อยละ 72.44 ในปี 2553 เมื่อภาวะเศรษฐกิจฮังการีเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ ส่งผลให้มีการนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 337.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.77 เมื่อเทียบกับมูลค่าที่ตกต่ำลงอย่างมากในปี 2552 และในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2554 (มกราคม-เมษายน) มีการปรับตัวในทางที่ดีขึ้นเช่นกัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.29 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปีที่ผ่านมา

โอกาสทางการตลาด
  • เป็นที่คาดหมายว่าอุตสาหกรรมยานยนต์และส่วนประกอบ จะเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในฮังการีในระยะยาว การคัดเลือกซัพพลายเออร์ของบริษัทต่างชาติชั้นนำ ทั้งบริษัทฮังกาเรียนและต่างชาติ จึงต้องมีคุณสมบัติหรือความสามารถ ที่จะพิสูจน์ศักยภาพตนเองให้ได้ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด
  • ในระยะยาววิวัฒนาการจะขยายสู่โรงงานผลิตของซัพพลายเออร์รายย่อย ที่มีฐานการผลิตในฮังการีมากขึ้น และจากการได้เปรียบทางด้านค่าจ้าง และแรงงานที่มีคุณภาพ การร่วมลงทุนทั้งในลักษณะ joint venture หรือจัดตั้งสำนักงานตัวแทนจำหน่ายของผู้ประกอบการไทย จึงเป็นโอกาสที่จะได้ศึกษาตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค คู่แข่งขัน ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น
  • เศรษฐกิจฮังการีมีการพัฒนาขึ้นมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในกลุ่ม CEE ระบบกฏหมายใช้ตามมาตรฐานทางฝั่งตะวันตก ซึ่งจะปกป้องสิทธิแก่นักลงทุนอย่างเต็มที่
  • ฮังการีมีตำแหน่งทางด้านภูมิศาสตร์ที่ดี เหมาะที่จะเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ จึงเอื้อประโยชน์ต่อการขยายตลาดจากสหภาพยุโรป ไปสู่ทางฝั่งทะเล Adriatic (ประเทศโครเอเชีย)
ข้อเสนอแนะ
  • สินค้าไทยมีคุณภาพและได้มาตรฐาน ผู้ประกอบการไทยควรจะศึกษาตลาดอย่างจริงจัง และหาช่องทางแนะนำสินค้าหรือบริษัท ที่สามารถแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และความน่าเชื่อถือ การที่จะได้รับโอกาสและความไว้วางใจ จากผู้ผลิตและซัพพลายเออร์รายใหญ่ของประเทศหรือไม่นั้น การเริ่มต้นที่ดีคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
  • เนื่องจากตลาดมีภาวะการแข่งขันสูง ดังนั้น ผู้ประกอบการควรจะดำเนินกิจกรรมตลาดเชิงรุกเช่น เข้า ร่วมงานแสดงสินค้า เดินทางมาสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้าให้มากขึ้น
  • หากพิจารณาตลาดอะไหล่รถยนต์และของตกแต่ง ทุกแบรนด์ที่ทำธุรกิจในฮังการีล้วนมีนิตยสาร บริการหลังการขาย ตัวแทนจำหน่าย ที่มีเครือข่ายกว้างขวางเป็นของตัวเองแทบทั้งสิ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการไทย จึงต้องเตรียมความพร้อม ทั้งในด้านการบริการที่เหนือกว่าอย่างครบวงจร การโฆษณาประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขาย ตลอดจนวางกลยุทธ์จุดขายให้โดดเด่นและแตกต่าง
  • เนื่องจากภาวะทางการเงินของฮังการียังไม่ มั่นคง ผู้ประกอบการควรจะต้องเตรียมรับ สถานการณ์การผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
งานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้อง

: Motorcycle exhibiton , Hungexpo

: Autotechnika-Diga, Hungexpo

ที่มา: KSH, VG, FN Online, PwC survey

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงบูดาเปสต์

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ