นับจากปี 2553 เป็นต้นมา ราคาเนื้อหมูในตลาดจีนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากราคาต่ำสุด ที่กิโลกรัมละ 9 หยวน ปัจจุบันราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 17.45 หยวน ทำลายสถิติราคาเนื้อหมูที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของปี 2551 ที่ 17.16 หยวน
ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม กล่าวว่า ราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาเนื้อหมู เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย โดยในช่วงเดือนมิถุนายน 2554 มีความเป็นไปได้ที่ CPI จะพุ่งสูงขึ้นเป็นร้อยละ 6 นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ราคาเนื้อหมูขยับตัวสูงขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2553 อย่างมาก โดยในเดือนเมษายน และพฤษภาคม ราคาเนื้อหมูสูงขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 35.2 และ 40.4 ตามลำดับ จากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคที่สูงขึ้นร้อยละ 5.5 ในช่วงเดือนพฤษภาคม ผนวกกับราคาผลิตภัณฑ์อาหารที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 11.7 ในเดือนมิถุนายน ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าร้อยละ 64 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2553
สาเหตุหลักสำคัญ 2 ประการที่ทำให้เนื้อหมูมีราคาแพง และมีไม่เพียงพอต่อการจำหน่าย คือ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2553 ธุรกิจฟาร์มหมูขาดทุน ทำให้เกษตรกรไม่มีหนทางในการประกอบธุรกิจ ประการที่สอง คือ เกิดโรคระบาดขึ้นหลายครั้ง ทำให้แม่พันธุ์หมูขาดแคลน นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะ
อาหารปศุสัตว์ที่มีต้นทุนสูงขึ้นกว่าร้อยละ 20 ประกอบกับ ความต้องการของผู้บริโภคที่มีมาก ในขณะที่การเติบโตของหมูมีจำกัด ก็ถือเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เนื้อหมูมีราคาสูงขึ้น
หลิว ลี่ กาง คณะกรรมการธนาคาร ANZ (Australia & New Zealand Banking Group Ltd.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ราคาเนื้อหมูที่เพิ่มขึ้นเพียง 1 % จะทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคสูงขึ้น 0.036 % และถ้าหากราคาเนื้อหมูเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 50 ก็จะทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคสูงขึ้นร้อยละ 1.8 หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อัตราดัชนีราคาผู้บริโภคจะสูงขึ้นกว่าร้อยละ 6 อย่างแน่นอน
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
ที่มา: เว็บไซต์ Chinadaily (www.chinadaily.com.cn) วันที่ 27 มิถุนายน 2554
หนังสือพิมพ์ Finance and Investment วันที่ 28 มิถุนายน 2554
ที่มา: http://www.depthai.go.th