1. สถานการณ์เศรษฐกิจปากีสถาน ค่อนข้างน่าวิตก จากสถานการณ์การเมือง การก่อการร้าย รุมเร้าจากการที่สหรัฐบุกสังหารบินลาดินในเขตแดนประเทศปากีสถานโดยไม่แจ้งให้ทราบก่อน การขาดแคลนพลังงานและไฟฟ้าที่ยังไม่ดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อเริ่มสูงขึ้น การโอนเงินจากต่างประเทศทรงตัว และ ค่าเงินรูปีค่อนข้างมีเสถียรภาพ และการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.54ของธนาคารกลางปากีสถาน ดังนี้
1.1 อัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ค.54 = 13.2 สูงขึ้นจาก เม.ย.54 (= 13.0)กลับไปเท่ากับ มี.ค.54(=13.2 ) แต่ยังต่ำกว่าต้นปี 54(12,9) และจากช่วงที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงสุดในเดือนต.ค.-ธ.ค.53(15.5-15.7) ส่วนอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย12เดือน ณ พ.ค. 54 เท่ากับ 13.9 ทรงตัวมาตั้งแต่ธ.ค.53 เนื่องจากรัฐบาลได้ปรับราคาน้ำมันสูงขึ้นร้อยละ 4.9 เมื่อปลายเดือนก.พ.ตามภาวะราคาตลาดโลกที่สูงขึ้นจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง และแรงกดดันจากIMF ที่กำหนดให้รัฐบาลต้องลดการขาดดุลงบประมาณให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้คือ ร้อยละ 4.7ของGDP ซึ่งปัจจุบันยังสูงกว่าเป้าอยู่คือร้อยละ 8
1.2 ปริมาณเงินโอนจากแรงงานในต่างประเทศเดือนพ.ค.มีมูลค่า 1,049.79ล้านดอลลาร์ ใกล้เคียงกับเม.ย.และ มี.ค.54 (1,030.42และ1,052.88 ล้าน) และสูงกว่าพ.ค.ปีก่อน(757.36)ร้อยละ38.52 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว และสำหรับช่วงปีงบประมาณ กค.53-พ.ค.54 รวมเงินโอน 10,096.34 ล้านดอลลาร์ สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน (7,075.80) ร้อยละ 25.21
1.3 สำรองเงินตราต่างประเทศณ ต่างประเทศณ 18 มิ.ย.54 มีปริมาณ 17,523.11 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 21 พ.ค.54 (17,065.8 ล้าน)และเม.ย.54 (17,376.1 ล้าน)นับว่าเพิ่มขึ้นสูงสุดนับจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ต.ค.51 (6,716ล้าน) จากการได้รับเงินกู้เพิ่มจาก IMF ปริมาณสำรองทรงตัวและดีขึ้นมาตั้งแต่มิ.ย.52
1.4 ค่าเงินรูปีปากีสถานในเดือนมิ.ย.54 ค่อนข้างทรงตัวอยู่ในระดับสูง คือ มีค่าระหว่าง 85.7612- 86.10 จากที่เดือนพ.ค.54 ที่อ่อนค่าลงถึง 86.37 และอ่อนค่าลงจากเม.ย.54 84.52รูปี/ดอลลาร์ ซึ่งแข็งค่าสูงสุด จากที่อ่อนค่าลงถึงต่ำสุดในเดือนก.ย.53 (1 USD= 86.32รูปี) ค่าเงินรูปีได้อ่อนค่าลงเป็นลำดับตั้งแต่ประสบปัญหาเศรษฐกิจใน2008 เนื่องจากมีปัญหากับสหรัฐ มีการปรับลดเงินช่วยเหลือลง
1.5 มูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศเดือนพ.ค.54= 199.9 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเม.ย. 54 (177.5ล้าน)และมี.ค.54(94.8 ล้าน) ส่วนการลงทุนช่วงก.ค.53-พ.ค.54รวม 1,760.5 ล้านดอลลาร์ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน(2,520.4ล้าน) โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ในกลุ่มการสำรวจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และโทรคมนาคม
1.6 มูลค่าการส่งออกเดือนพ.ค.54 = 2.26 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจากเม.ย.54 ( 2.59 พันล้าน) และมี.ค.54(2.516 พันล้าน) ร้อยละ 12.74 และ10.17 ตามลำดับ และมูลค่าส่งออกก.ค.53-พ.ค.54 รวม 22.78 พันล้านดอลลาร์ สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน(17.88 พันล้าน) ร้อยละ 27.40 สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ข้าว ผลไม้ สิ่งทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป หนังและเครื่องหนัง พรม ซีเมนต์ เคมีภัณฑ์ อัญมณี เป็นต้น โดยส่งไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา จีน อาฟกานิสถาน สหราชอาณาจักร กลุ่มสหภาพยุโรป บังกลาเทศ ตุรกี ฮ่องกง เป็นต้น
สำหรับมูลค่านำเข้าพ.ค.54 = 3.28 พันล้านUSD สูงขึ้นจากเม.ย.(2,91 พันล้าน) ร้อยละ12.71 และใกล้เคียงกับ มี.ค.54(= 3.21พันล้าน) สำหรับมูลค่านำเข้าช่วงก.ค.53-พ.ค.54 =32.17 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน(28.1 พันล้าน) ร้อยละ 14.48 สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องจักรทอผ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้า อุปกรณ์ในโทรคมนาคม เช่น มือถือ รถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันปาล์ม น้ำตาลทราย ฝ้ายดิบ ชา เหล็ก เม็ดพลาสติก เป็นต้น โดยนำเข้าจาก สหรัฐอาหรับอิมิเรสต์ ซาอุดิอารเบีย จีน คูเวต สิงคโปร์ มาเลเซีย ตามลำดับ
ทำให้การขาดดุลการค้าในเดือนพ.ค.54=ขาดดุล1.02 พันล้านUSD เพิ่มขึ้นจากเม.ย.(ขาดดุล0.31พันล้าน) และดุลการชำระเงินพ.ค.54 ขาดดุล0.457 พันล้าน จากที่เม.ย.54 เกินดุล 0.63 พันล้านUSD
2. ภาวะการส่งออกของไทยไปปากีสถานเดือนพ.ค.54 มีมูลค่า 70.33 ล้านดอลลาร์ลดลงจากเม.ย.54 (74.05 ล้าน) และมี.ค.54 ( 90.45 ล้าน)ร้อยละ5.02 และ 22.24ตามลำดับ และมูลค่าช่วงม.ค.-พ.ค.เท่ากับ 387.14 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน(339.73 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น ร้อยละ13.96 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ0.41 ของการส่งออกทั้งหมดของไทย จากการส่งออกเครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ ยาง เครื่องจักร เคมีภัณฑ์ ด้าย เส้นใยประดิษฐ์ ผ้าผืน ผลิตภัณฑ์พลาสติก ไม้ รองเท้า และเครื่องสำอาง เพิ่มขึ้น
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงธากา บังกลาเทศ
ที่มา: http://www.depthai.go.th