แคนาดาเป็นตลาดการค้า GDP ที่มีขนาดเป็นอันดับที่ ๑๕ ของโลก มูลค่า ๑,๓๒๕ พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเฉลี่ยปีละ ๒.๕-๓.๐% (ระหว่างปี ๒๕๔๔-๒๕๕๓) ผู้บริโภคมีรายได้ต่อหัวต่อปี ๓๙,๐๕๗ เหรียญสหรัฐฯ เป็นอันดับที่ ๑๒ ของโลก มูลค่าการค้าระหว่างประเทศ (ปี ๒๕๕๓) ๗๗๙,๙๐๓ ล้านเหรียญฯ นำเข้ามีมูลค่า ๓๙๑,๙๒๔ ล้านเหรียญฯ และส่งออกมีมูลค่า ๓๘๗,๙๗๙ ล้านเหรียญฯ แคนาดาเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ ๒๘ ของไทย ปัจจุบันไทยส่งออกไปแคนาดาปีละ ๑,๔๐๐ เหรียญสหรัฐฯอัตราการขยายตัวเฉลี่ยปีละ ๑๐% มีส่วนแบ่งในตลาดแคนาดา ๐.๖๐% สินค้าส่งออกไปแคนาดา ได้แก่ อาหาร (ปลาทูน่ากระป๋อง กุ้งแช่แข็ง ข้าว ผลไม้กระป๋อง) ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ยางพารา (ยางพาราธรรมชาติ ยางรถยนต์) เครื่องใช้ไฟฟ้า (ไมโครเวฟ) เครื่องนุ่งห่ม ฯลฯ คู่แข่งขันที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐฯ (ส่วนแบ่ง ๕๑.๑๑%) จีน (๑๐.๘๗%) เม็กซิโก (๔.๕๖%) แคนาดาเป็นตลาดเปิดเสรีและมีข้อกีดกันทางการค้าน้อยกว่าสหรัฐอเมริกา ผู้บริโภคมีรายได้สูง และยังเปิดรับคนต่างชาติให้มาตั้งถิ่นฐานทุกปี ส่งผลให้ตลาดสินค้าและบริการขยายตัว จึงเป็นตลาดที่น่าจับตามอง
นักเศรษฐศาสตร์ นักธุรกิจและนักการตลาดในแคนาดา คาดการณ์ว่าในอีก ๕-๑๐ปีข้างหน้า แคนาดาซึ่งเป็นตลาดที่มีเทคโนโลยี่ที่ก้าวหน้าและความรู้ (knowledge) เป็นตัวขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ จะมีการปรับเปลี่ยนไปตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต (Three Mega Trends) ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อนักธุรกิจส่งออกของไทยในการเตรียมตัวและวางกลยุทธ์การส่งออกที่เหมาะสมกับตลาดแคนาดา
จะมีทิศทางการเปลี่ยนแปลง ๓ ประการ
๑.๑ โลกของสื่อดิจิตอลที่ก้าวหน้า (Media Completion) คาดว่าในปี ๒๕๖๓ โลกจะมีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและเป็นยุคดิจิตอลที่แท้จริง คอมพิวเตอร์และสื่อดิจิตอลต่างๆ จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตส่วนตัวและชีวิตประจำวันของมนุษย์มากขึ้น ทุกข้อมูลจะถูกส่งผ่านระบบการมองเห็น (Visual) ทุกคำถามหรือทุกความต้องการจะได้รับการตอบสนองผ่านสื่อดิจิตอลแบบอัตโนมัติ การทำงานหรือการสั่งการจะดำเนินการผ่านระบบเสมือนจริง (virtual world) ความต้องการของมนุษย์ในด้านสินค้าและบริการจะได้รับการตอบสนองผ่านระบบ Brand in a dialogue และ Brand Coaching ที่จะเข้ามาแทนที่ระบบการโฆษณาสินค้าทางสื่อในปัจจุบัน ตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงที่จะนำไปสู่แนวโน้มของโลกดิจิตลที่ก้าวหน้า ได้แก่ ห้องแต่งตัวเสมือนจริง โทรทัศน์Interactive การซื้อขายสินค้าออนไลน์ผ่าน Google TV สมาร์ทโฟน iPhone สมาร์ทเท็บเล็ต iPad เป็นต้น
๑.๒ โลกของหุ่นยนต์ (Roboworld) คาดว่าในปี ๒๕๗๘ เป็นยุคที่คนและหุ่นยนต์ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเป็นปกติ หุ่นยนต์จะได้รับการพัฒนาให้ใกล้เคียงความมนุษย์มากขึ้น (Homo Robo) ที่สามารถทำงานในโรงงานหรือทำงานบ้านแทนคนได้ มีรูปร่างเหมือนคนและสามารถตอบโต้ รับคำสั่งเป็นภาษามนุษย์ได้ ในช่วงปลายยุคนี้ หุ่นยนต์เหล่านี้อาจมีความรู้สึกทางจิตใจและอารมณ์ที่เหมือนมนุษย์ได้
การพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถให้บริการในโรงงานและครัวเรือนเหล่านี้ จะมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจพอสมควร เนื่องจากจะไม่มีการจ้างแรงงานเพื่อมาทำหน้าที่ให้บริการหรือทำงานบ้านอีกต่อไป โดยเฉพาะในประเทศที่มีค่าแรงถูก ตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในปัจจุบัน ได้แก่ เครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์ เพื่ออำนวยความสะดวกภายในบ้าน เครื่อง (หุ่นยนต์) ล้างกระจกภายนอกอาคาร เพื่อลดความเสี่ยง ค่าจ้างแรงงานที่สูงของงานพนักงานล้างกระจก เป็นต้น
๑.๓ โลกแห่งความสะดวกสบายเสมือนจริง (Pamper Planet) คาดว่าในปี ๒๕๙๓ โลกจะเป็นยุคที่มีความเจริญสูงสุด มนุษย์ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น การงานทุกอย่างรวมถึงการจัดสรรและจัดหาสินค้าบริการให้กับมนุษย์จะอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของหุ่นยนต์และระบบคอมพิวเตอร์ตั้งแต่วันเกิดจนถึงวันตาย จึงเป็นโลกที่อยู่ในยุคแห่งการปรนเปรอความสะดวกสบายอย่างแท้จริง นอกจากนี้ การเดินทางและการขนส่งอาจจะเปลี่ยนไปด้วยเทคโนโลยีที่สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุได้อย่างรวดเร็วและกินเวลาเพียงเล็กน้อย
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลกหรือ ๓ Megatrends ข้างต้น จะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การค้าดังนี้
๒.๑ Coaching Brands Economy แนวโน้มที่แบรนด์ของสินค้าและบริการ จะเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ โดยจะมีบริษัทที่ทำหน้าที่เสมือนตัวแทน (Coaching Brand Agents) นำเสนอสินค้าและบริการอย่างน้อย ๒๐ แบรนด์สินค้าต่อหนึ่งความต้องการของลูกค้า โดยการนำเสนอจะมาจากความพึงพอใจและความต้องการเฉพาะของลูกค้าเป็นหลัก บริษัทตัวแทนจะให้คำปรึกษาในการเลือกซื้อสินค้าและบริการเป็นรายบุคคล และมีการเก็บบันทึกข้อมูลความชื่นชอบพิเศษของลูกค้าไว้สำหรับการนำเสนอสินค้าและบริการในอนาคต การติดต่อสื่อสารระหว่างบริษัทตัวแทนและลูกค้าจะกระทำผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือ Virtual แบบอัตโนมัติ และจะมีความสัมพันธ์แบบ Life-long Relationships
ตัวอย่างของระบบ Coaching Brands ที่สามารถเห็นได้ในปัจจุบันได้แก่ Rocket Taxi ซึ่งติดต่อกับรถแท็กซี่ผ่าน iPhone app ได้ทั่วโลก เวปไซต์ Spotify ที่เป็นเครือข่ายเพลงที่คนทั่วโลกสามารถค้นหาเพลงได้ผ่านระบบออนไลน์ Google Voice ที่ติดต่อสื่อสารกันโดยไม่ต้องผ่านโอเปอเรเตอร์, Facebook, Wonga ที่สามารถจ่ายสินเชื่อในเวลารวด เร็ว, Greenpeace ที่ช่วยเลือกกระดาษชำระ สื่อเหล่านี้ซึ่งทำหน้าที่คล้าย Coaching Brand Agents จะมีการเสนอแนะแบรนด์สินค้าที่จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ
๒.๒ Experiences Economy แนวโน้มที่ผู้บริโภคใช้ประสบการณ์จากการใช้สินค้าและบริการ ที่ได้รับถ่ายทอดผ่านสื่อดิจิตอล (Virtual/New Media) เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการ อาทิ ประสบการณ์ของผู้บริโภคในการใช้สินค้าและบริการ (Consumer Product Review) การให้ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Expert Review)ที่มีต่อสินค้าและบริการ ข้อมูลที่ไหลเวียนในโลกออน์ไลน์ที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ได้แก่ ภาวะโลกร้อน (Global Warming) การรักษาสิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติทางธรรมชาติ วิกฤตเศรษฐกิจ โรคระบาดสายพันธุ์ใหม่ การมีส่วนร่วมช่วยสังคมของบริษัท
ตัวอย่างของพัฒนาการในปัจจุบันที่จะนำไปสู่แนวโน้ม Experiences Economy ได้แก่ Justin TV ที่คนส่วนใหญ่ใช้ดูกีฬา XING ที่ทำเงินให้กับสมาชิกที่จ่ายเงิน , Elf ที่สามารถดาวน์โหลดคริสมาสต์การ์ดในราคา ๔.๙๙ เหรียญ, การเลือกริงโทนด้วยตัวเองจาก GIST, Jaap ที่ให้เลือกบ้านด้วยตัวเอง , WhereIGo การเล่นเกมส์ในโลกเสมือนจริง เป็นต้น
๒.๓ De-nationalizing Economy หรือโลกไร้พรมแดนเสมือนจริง (Virtual World ) ซึ่งความต้องการของผู้บริโภคได้รับการตอบสนองแบบไม่มีพรมแดน ผู้บริโภคสามารถเรียกซื้อสินค้า ใช้บริการ และปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นๆ ผ่านระบบเทคโนโลยี่และสื่อดิจิตอลที่ก้าวหน้า ได้อย่างไม่จำกัดขอบเขตด้านพรมแดน วัฒนธรรม หรือภาษา
ตัวอย่างของพัฒนาการในปัจจุบันที่จะนำไปสู่แนวโน้ม De-nationalizing Economy ได้แก่ สื่อ Social Media ที่สามารถติดต่อสื่อสารทั้งในโลกเสมือนจริงและเป็นระบบ Realtime อาทิ Facebook, Twitter, Justin Zoover ที่มีการใช้ ๑๓ ภาษาที่แตกต่างกัน จะมีบริการใหม่ๆ อาทิ Social Media Manager ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของบริษัทติดต่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า, Netlog; แอพพิเคชั่นสำหรับ iPhone ที่ให้ผู้ใช้สามารถอัปเดทกิจกรรมต่างๆ บนเว็ปไซต์ในระบบ Real time ทำให้มีความรู้สึกว่าอยู่ใกล้ชิดกัน, Google และ Yahoo, YouTube, ITunes,
๒.๔ Network Economy หรือ เศรษฐกิจระบบเครือข่าย ที่ไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แต่จะมีการแบ่งปันวัตถุดิบ แรงงาน วิธีการ และสินค้าอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งจะนำไปสู่การสิ้นสุดบทบาทขององค์กรทางเศรษฐกิจที่สำคัญในปัจจุบัน เช่น บริษัท ห้างร้าน รัฐบาล และองค์กร NGO เป็นต้น ภายใต้เศรษฐกิจระบบเครือข่ายนี้ จะมีการพึ่งพากันทางเศรษฐกิจกันมากขึ้น ความต้องการของผู้บริโภคจะผูกติดกับเครือข่ายผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและท้ายสุดจะเหลือผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้บริการทุกๆอย่างเพียงรายเดียวผ่านระบบ Virtual การหาผลประโยชน์เกินควรโดยบริษัทผู้ผลิตหรือผู้ให้บริการจะน้อยลงและหายสาปสูญไปในที่สุด
ตัวอย่างของวิวัฒนาการในปัจจุบันที่จะนำไปสู่แนวโน้ม Network Economy อาทิ Ready Ping การบริการส่งข้อความ (Texting) แจ้งลูกค้าในร้านอาหารหรือศูนย์การค้าเมื่อคิวหรือโต๊ะของลูกค้าพร้อมให้บริการแล้ว หรือ Triodos ที่แสดงการลงทุนบนแผนที่ หรือ Google predicts the flu โดยผู้คนที่มีไข้ (Flu) ส่วนใหญ่จะค้นหา key word ว่า Flu หรือคำที่เกี่ยวข้องทำให้สามารถเก็บข้อมูล Profile ในการพยากรณ์การแพร่ของไข้หวัดได้ หรือ Hip ที่ให้บริการเช่าสำนักงานในช่วงเย็นหรือวันหยุด หรือ Werkplekzoeker ที่ให้บริการพื้นที่ทำงานในช่วงวันธรรมดา VandaagopStap สถานที่ที่ควรจะไปในวันนี้
สืบเนื่องจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลก (Three Mega Trend) และด้านเศรษฐกิจการค้าข้างต้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงในตลาดแคนาดาในอีก ๕-๑๐ ปีข้างหน้า ดังนี้
๓.๑ Coaching Brand Agent จะมีบทบาทมากขึ้น จะมีการสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านระบบ Coaching Brand Agent ซึ่งจะสร้างเว็ปไซต์ที่รวมแบรนด์สินค้าและบริการต่าง ๆ (Brand Community) เพื่อให้สมาชิกเว็ปไชต์ได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสื่อสารแบบ ๒ ทาง (Two Way- Communications) โดย Brand Agent ซึ่งเป็นผู้นำเสนอแบรนด์ของสินค้าและบริการ จะได้มีการบันทึก จัดเตรียมข้อมูลและนำเสนอให้ผู้บริโภคตัดสินใจ เลือกซื้อสินค้า โดยการเก็บข้อมูลจะใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น อาทิ การใช้แถบข้อมูล RFID เก็บข้อมูลผลิตภัณฑ์แทนแถบ Barcode ในอดีต หรือการใช้เทคโนโลยี Image Recognition ในการค้นหาข้อมูลต่าง โดยผ่านระบบโทรศัพท์ Smartphone แทนการพิมพ์ Keyword ในการค้นหาข้อมูล เป็นต้น
ขณะนี้ได้มี Brand Agent ที่สร้างเว็ปไซต์ที่เป็นแหล่งรวมแบรนด์สินค้าในแคนาดา ได้แก่ เว็ป well.ca แหล่งรวมสินค้าเครื่องสำอางค์ และเวชภัณฑ์หลายยี่ห้อที่จำหน่ายในแคนาดา เว็ป Flyerland.ca ที่เป็นศูนย์รวม Flyer (ข้อมูลสินค้าที่มีวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า) จากห้างทั่วแคนาดา ที่ทำให้ผู้บริโภคได้เปรียบเทียบราคา ให้ความเห็นและแลกเปลี่ยนข้อมูล เว็ป www.lushpad.com ที่รวมสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน Clearlycontact.ca ซึ่งจำหน่ายแว่นตาหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งเว็ปไชต์เหล่านี้สามารถเข้าไปสืบค้นได้ทั้งทางคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และสื่อดิจิตอลอื่น ๆ
๓.๒ การค้าผ่านสื่อดิจิตอลเพิ่มขึ้น จากการที่โลกจะก้าวสู่ยุคโลกไร้พรมแดนเสมือนจริง เป็นโลกเครือข่ายและโลกหุ่นยนต์ในอนาคต รวมทั้งเทคโนโลยีและสื่อดิจิตอลมีความก้าวหน้าและเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้การค้าสินค้าและบริการผ่านสื่อดิจตอลจะขยายตัวเพิ่มขึ้น ปัจจุบันการค้าโลกผ่านระบบอินเตอร์ เน็ตจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ ๑๘% และภายในปี ๒๕๕๘ จะมีมูลค่าสูงถึง ๑.๕ ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ
สำหรับการค้าผ่านระบบอินเตอร์เน็ตในแคนาดา ปัจจุบันมีมูลค่าการค้า ๑๕,๑๐๐ ล้านเหรียญฯ มีอัตราขยายตัวปีละ ๒๕% โดยชาวแคนาดาจำนวน ๘๐% มีคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต (ประชากรรวม ๓๔.๓ ล้านคน) ประชากร ๒๔.๗ ล้านคน (๗๓% ของประชากรรวม) มีโทรศัพท์มือถือ และประชากรกว่า ๓๙% ได้เคยมีการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ ชาวแคนาดาสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน สมาร์ท Tablet และในอนาคตจะมีการใช้เทคโนโลยี่ NFC (Near Field Communication) ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยี่สำหรับบันทึกข้อมูล สามารถใช้ได้ทั้งในโทรศัพท์ มือถือ หรือสื่อดิจิตอลอื่นๆ จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้จะทำให้การซื้อขาย ชำระค่าสินค้าสะดวกมากขึ้น และยังสามารถเก็บบันทึกข้อมูลอื่นๆ อาทิ คะแนนสะสมแต้มสินค้า ข้อมูลบัตรสมาชิกของห้าง ข้อมูลบัตรประชาชน ใบขับขี่ ซึ่งช่องการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการได้เปิดกว้างมากขึ้น จากเดิมที่เป็นร้านค้า ห้างสรรพสินค้าช็อปปิ้งมอลล์ การซื้อสินค้าทางแคตตาล็อก การซื้อขายทางทีวี ไปสู่การซื้อขายผ่านสื่อดิจิตอลที่ก้าวหน้ามากขึ้น
๓.๓ ผู้บริโภคเป็นผู้กำหนดรูปแบบใหม่ๆ ของสินค้าและบริการ(Consumers invent new product & Service) ในโลกแห่งเครือข่ายและโลกแห่งสื่อดิจิตอล ผู้บริโภคมีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากสื่อดิจิตอลและ feedback กับไปยังผู้ผลิตสินค้า ทำให้เกิดสินค้าและบริการใหม่ออกมาเรียกว่า สินค้า Prosumer (เป็นการรวมของ Producer และ Consumer) ซึ่งสินค้าจะมีรูปแบบที่หลากหลาย มีลักษณะเด่นเฉพาะตามความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น (Product Personalization)
ตัวอย่างของสินค้า ได้แก่ Vitamin Water ได้ใช้สื่อ Social Media: Facebook เพื่อสื่อสารโดยตรงกับผู้บริโภคเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และให้ feedback ต่อผู้ผลิต ซึ่งทำให้ผู้ผลิตได้พัฒนารสชาดใหม่ๆ ที่ตรงใจผู้บริโภค ส่งผลให้สินค้านี้ได้รับความนิยมในแคนาดาซึ่งในโลกของอนาคตรูปแบบของ Experience Economy การใช้ปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร อาทิ การแชร์ความเห็นติชมสินค้าจากลูกค้า ข้อเสนอแนะอื่นๆ ซึ่งจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนรูปแบบดีไซน์ ที่ตรงกับความต้องการของตลาด
๓.๔ สินค้าเพื่อสุขภาพและสินค้ารักษาสิ่งแวดล้อม จะได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากมนุษย์มีการเคลื่อนไหวและทำงานน้อยลงโดยหุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทนที่ มนุษย์อายุยืนมากขึ้นจากเทคโนโลยีสุขภาพที่ก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้มีผู้สูงอายุมากขึ้น รวมทั้งการไหลเวียนข้อมูลข่าวสารในโลกออนไลน์ที่มีส่วนทำให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพและรักษาสิ่งแวดล้อม สินค้าเพื่อสุขภาพ ได้แก่ สินค้าสำหรับคนอ้วน สินค้าสำหรับคนเป็นโรคเบาหวานอาหารพร้อมรับประทานที่ปรุงสุกด้วยไอน้ำ อาหารที่ลดความเครียดและทำให้เกิดความผ่อนคลาย สินค้าสำหรับคนออกกำลังกาย สินค้าที่ชะลอความชรา สินค้าบำรุงสุขภาพที่มีการใส่สารอาหารหรือเส้นใยเพิ่มขึ้น สินค้ารักษาสิ่งแวดล้อม อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ ผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ สินค้าเกษตรอินทรีย์ อาทิ กะทิอินทรีย์กระป๋อง ข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์ กุ้งแช่แข็งเกษตรอินทรีย์ บรรจุภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ มูลค่าตลาดสำหรับสินค้ากลุ่มนี้มีมูลค่าประมาณ ๔ พันล้านเหรียญฯ (ปี ๒๕๕๓) คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวเพิ่ม ๑๕-๒๐% ต่อปี
๓.๕ สินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมใหม่จะได้รับความนิยม เนื่องจากผู้บริโภคเห็นว่านวัตกรรมใหม่และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า (Emerging Technology) จะทำให้สินค้าและบริการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น อาทิสินค้าที่ทำให้สุขภาพของมนุษย์ดีขึ้น (Wellbeing) สินค้าอาหารที่ผลิตจากเทคโนโลยี Biopreservatives ที่จะทำให้อาหารคงความสดรสชาดดีและไม่สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ เสื้อผ้านาโนที่มีกันการเปื้อน ไม่มีรอยยับ และกันเชื้อโรค (Anti mircrobial) ปูนซีเมนต์นาโน (Cement Hydration with Nanotechnology) ซึ่งมีคุณสมบัติแข็งแกร่งมากขึ้น มือถือซึ่งมีเทคโนโลยีล้ำสมัย (แคนาดาเป็นผู้ผลิตมือถือยี่ห้อ Blackberry) และ หุ่นยนต์ (Robotic Technology) ผ่าตัดรักษาโรคหรือใช้งาน ธุรกิจบริการใหม่ๆ ได้แก่ Robotics Technician, Cyber Security Specialty, Genetic Counseller, Mobile Application Developer, Social Network Manager
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครโตรอนโต
ที่มา: http://www.depthai.go.th