ผู้บริโภคชาวจีนเริ่มออกมาวิจารณ์เกี่ยวกับราคาสินค้าที่สูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารทั้งอาหารสำเร็จรูปและวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหาร โดยในครึ่งปีแรกของปี ๒๕๕๔ ราคาเนื้อหมูเพิ่มสูงขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่ผ่านมา โดยสูงขึ้นถึงร้อยละ ๕๗.๑ เมื่อเทียบกับราคาเนื้อหมูช่วงเดือนกรกฎาคม ปี ๒๕๕๑ ราคาเนื้อหมูที่พุ่งสูงขึ้นปีนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index : CPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ ๖.๔ ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงสุด (ราคาเนื้อหมู เฉลี่ยกิโลกรัมละ ๓๐ หยวน / เนื้อวัว กิโลกรัมละ ๓๐ - ๓๓ หยวน / ไก่ กิโลกรัมละ ๒๐ หยวน และราคาปลา กิโลกรัมละ ๑๓ หยวน)
นักวิชาการของจีนได้วิเคราะห์ราคาเนื้อสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้นมาจากสาเหตุ ดังนี้
๑. ปริมาณเนื้อสัตว์ในตลาดมีน้อยกว่าปรกติ
๒. ราคาค่าขนส่งที่แพงขึ้น
๓. ผู้ผลิต พ่อค้า ผู้บริโภค คิดว่าราคาสินค้าน่าจะเพิ่มสูงขึ้น (เป็นผลทางจิตวิทยาที่สำคัญ ซึ่งผู้บริโภคคิดว่าจะต้องซื้อสินค้าราคาแพง)
อย่างไรก็ตาม นักวิชาการหลายท่านได้คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคจะลดต่ำลงในช่วงครึ่งปีหลัง โดยอยู่ในระดับร้อยละ ๕ โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยของราคาน้ำมันในตลาดโลก รัฐบาลเข้าควบคุมราคาสินค้า และการที่รัฐบาลกลางสั่งให้ธนาคารในจีนขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วย
อาหาร อสังหาริมทรัพย์ ค่ารักษาพยาบาล ค่าบุหรี่ ของใช้ประจำวัน เสื้อผ้า ค่าเดินทาง ด้านบันเทิง แอลกอฮอลล์ เครื่องนุ่งห่ม และสื่อสาร และการศึกษา ๑๔.๔๐% ๖.๒๐% ๓.๔๐% ๒.๗๐% ๒.๕๐% ๒.๑๐% ๐.๙๐% ๐.๖๐% ที่มา : Xinhua News Agency
อนึ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นประเทศผู้ผลิตเนื้อหมูรายใหญ่ที่สุดในโลก ผลผลิตจะใช้บริโภคภายในประเทศ นับตั้งแต่สาธารณรัฐประชาชนจีนประสบปัญหาเรื่องความปลอดภัยของอาหาร จึงเปิดให้มีการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย โดยในปี ๒๕๕๐ เริ่มมีการนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศ
บริเวณมณฑลลุ่มแม่น้ำแยงซี คือ มณฑลเสฉวน ฉงชิ่ง กุ้ยโจว หูหนาน เจียงซี เจียงซู เจ้อเจียง และอันฮุย เป็นพื้นที่ที่มีการเลี้ยงหมูมากที่สุดคิดเป็นผลผลิตร้อยละ ๕๐
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครคุนหมิง
ที่มา: http://www.depthai.go.th