ข้อมูลเมืองอี้อู

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 28, 2011 14:53 —กรมส่งเสริมการส่งออก

อี้อู ได้ชื่อว่าเป็นเมืองศูนย์กลางตลาดขายส่งและกระจายสินค้าเบ็ดเตล็ดนานานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในจีนและในโลก โดยในปี 2548 ได้มีการรับรอง จากสถาบันสำคัญหลักๆของโลก ได้แก่ องค์การสหประชาชาติ ธนาคารโลกและมอร์แกน แสตนลีย์ โดยมีพื้นที่ในตลาดรวมกว่า 4 ล้านตารางเมตร มีร้านค้าส่งมากกว่า 62,000 ร้าน ภายในตลาดมีสินค้ามากมายกว่า 1.7 ล้านชนิด จนได้ชื่อว่าเป็น “ซุปเปอร์มาเก็ตของโลก”

ด้านภูมิศาสตร์และการปกครอง

อี้อูเป็นเมืองขนาดเล็กอยู่ภายใต้การปกครองของเมืองจินหัว (Jinhua) ตั้งอยู่ ณ ใจกลางมณฑลเจ้อเจียง ใกล้ชายฝั่งทางตะวันออกของจีน มีประชากรประมาณ 2 ล้านคน (พ.ศ.2553) พื้นที่ทั้งหมด 1,105 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาล้อมรอบ อยู่ห่างจากมหานครเซี่ยงไฮ้ 300 ก.ม. และห่างจากนครหางโจวไปประมาณ 120 ก.ม (เดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลา 2 ชั่วโมง) แบ่งการปกครองย่อยออกเป็น 15 ตำบล 8 หมู่บ้าน

อุตสาหกรรม

รัฐบาลได้มีแนวคิดการก่อตั้งเมืองอี้อูให้เป็นเมืองศูนย์กลางการค้าส่งสินค้าขนาดย่อมของจีน(Yiwu Small Commodity Market) อี้อูแต่เดิมเป็นชุมชนเก่าแก่ของเมืองจินหัว ก่อตั้งมาตั้งแต่ปีก่อน พ.ศ. 765 ต่อมารัฐบาลมณฑลได้ยกระดับเมืองอี้อูให้เป็นอำเภอในปี 2531 (The County-Level Cities) โดยก่อนหน้านั้นในปี 2515 รัฐบาลมณฑลเจ้อเจียงเกิดแนวคิดที่จะปฏิรูปและพัฒนาเมืองอี้อูภายใต้กลยุทธ์ Building the City by Prospering Commerce โดยการพัฒนาและยกระดับตลาด การกระตุ้นการผลิตอุตสาหกรรมสินค้าขนาดย่อม (Industrialization) และการทำตลาดระหว่างประเทศ (Internationalization) รวมถึงการเชื่อมโยงระดับในเขตเมืองและนอกเมืองให้เข้าถึงกันได้

กลยุทธ์หลักที่รัฐบาลมณฑลได้นำมาพัฒนาเมืองอี้อูประกอบด้วย 5 แนวทาง ดังนี้

1. การกำหนดตำแหน่งศูนย์กลางการค้าส่งระหว่างประเทศ (International Trade Center) สำหรับ สินค้าขนาดย่อม (Small Commdity) ภายใต้กลยุทธ์ Building the City by Prospering Commerce จาก 20 กว่าปีที่ผ่านมาทำให้อี้อูมีการโครงการก่อสร้างศูนย์กลางการค้าส่งสินค้าขนาดย่อมอยู่ 5 เฟส (ขยายตลาดทั้งหมด 11 ครั้ง) โดยการรวบรวมสินค้าจากตลาดต่างๆ มาไว้ในศูนย์กลางตลาดค้าส่งจนได้ชื่อว่าเป็นตลาดค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2538 และใน 29 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้พัฒนาตลาดสินค้าขนาดย่อมโดยยกระดับให้เป็น Humble Trade Market, Modern Trade Market และ International Trade Center ตามลำดับและพัฒนาวิธีการทำธุรกิจจากการค้าเงินสด (Sale By Cash on Spot) เป็น Modern E-commerce โดยการเจรจาการค้าและการบริการโลจิสติกส์ที่ทันสมัย

2. การเพิ่มปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่เป็นองค์ประกอบให้ตลาดสามารถพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมการบริการที่ทันสมัย โดยการเร่งพัฒนาการบริการทางการค้า โลจิสติกส์ การเงินและสถาบันการเงินรวมทั้งธุรกิจประกันภัยเพื่อรองรับธุรกิจการค้าในอี้อู ปัจจุบัน มีธุรกิจการบริการมากกว่า 90,000 ธุรกิจในเมืองอี้อูและมีพนักงานมากกว่า 500,000 คนที่ทำงานเกี่ยวกับการบริการธุรกิจ ซึ่งรวมทั้งการจัดงานแสดงสินค้าที่ดึงดูดนักธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศมาร่วมงานและเยี่ยมชมงาน เช่น The China Yiwu International Commodity Fair เป็นต้น

3. การเชื่อมโยงการค้ากับอุตสาหกรรมโดยเน้นอุตสาหกรรมที่อี้อูสามารถผลิตได้เอง ไม่ว่าอุตสาหกรรมนั้นจะขาดแคลนวัตถุดิบหรือโครงสร้างอุตสาหกรรมไม่แข็งแรง ก็สามารถรวบรวมนำมาพัฒนาเชื่อมโยงกับการค้าให้แข็งแกร่ง โดยเริ่มจากอุตสาหกรรมขนาดย่อม(Small Commodities)พัฒนามาเป็นโรงงานอุตสาหกรรม (Manufacturing Industry) และพัฒนารูปแบบโรงงานอุตสาหกรรมสำหรับผลิตสินค้าขนาดย่อม (The large Industry Manufacturing Small Commodities) รวมตัวกันเป็นผู้ประกอบการขนาดย่อมในศูนย์การค้าส่งเมืองอี้อู ปัจจุบันมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมมากกว่า 16,000 ราย ประมาณร้อยละ 20 เป็นผู้ผลิตถุงเท้า (Knitted Socking) เครื่องประดับ งานฝีมือ (Arts and Crafts) และผ้าทอขนสัตว์ (Wool Spinning) และมีตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก กลุ่มสินค้าอี้อูที่มีชื่อเสียงและได้รับรางวัล ได้แก่ ปากกา เครื่องสำอาง เสื้อถักไร้ตะเข็บ งานฝีมือและของขวัญ

4. มองหาการตลาดแบบ Global Market โดยตั้งกลยุทธ์การตลาดระหว่างประเทศ (Internationalization) ปัจจุบันสามารถส่งออกสินค้ามากกว่า 215 ประเทศทั่วโลก และมีนักธุรกิจต่างชาติรวมถึงบริษัทต่างชาติเข้ามาตั้งสำนักงานดำเนินธุรกิจมากกว่า 3,000 บริษัทที่เมืองอี้อู

5. พัฒนา ดูแลรักษาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและสังคมทั้งในเมืองและชานเมือง โดยมีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ให้เชื่อมโยงกันเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนรวมถึงการพัฒนาด้านอื่นๆ เช่น การก่อสร้างบ้านที่อยู่อาศัย โรงพยาบาล สาธารณสุข ให้การศึกษากับผู้ที่เข้ามาอาศัยอยู่และทำงานในอี้อู เป็นต้น

อี้อูประกอบด้วยอุตสาหกรรมเด่น ๆ 8 ประเภทคือ

5.1 อุตสาหกรรมเสื้อผ้า : อี้อูเป็นหนึ่งในสี่ฐานการผลิตแห่งชาติของจีน ที่เมือง ดาเฉิน และเมืองซูซี่ โดยเสื้อผ้าที่ผลิต ได้ชื่อว่าเป็น "เสื้อพื้นเมืองของจีน"สามารถผลิต 500,000 ชิ้นทุกวัน

5.2 อุตสาหกรรมเครื่องประดับ : เครื่องประดับเมืองอี้อู เป็นผู้นำทางอุตสาหกรรมเครื่องประดับหลักของจีน

5.3 อุตสาหกรรมสิ่งทอ (นิตติ้ง) : ผลิตภัณฑ์หลักคือถุงเท้าถักและถุงน่อง รวมทั้งชุดชั้นใน ผลรวมของอุตสาหกรรม คิดเป็นร้อยบะ 40 ของผลผลิตทั้งหมดในประเทศจีน

5.4 อุตสาหกรรม ซิป : ผลผลิต และปริมาณการขายตรงเป็น 1 / 4 ของตลาดในประเทศและยอดขายตรงเป็น 1 / 3 ของตลาดต่างประเทศ

5.5 อุตสาหกรรม ของเล่น : พลาสติกและตุ๊กตาของเล่นที่ขายดิบขายดีในกว่า 30 ประเทศและพื้นที่ทั่วโลกและเป็นสินค้าที่เป็นที่นิยมในประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น

5.6 อุตสาหกรรมอุปกรณ์ขนาดเล็ก : ฟันเฟืองสำคัญเป็นผลิตภัณฑ์หลักกว่า 70% ของตลาดระดับชาติ เป็นสินค้าที่นิยมทั่วโลก

5.7 อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ : มีกว่า 400 บริษัทในอุตสาหกรรมการพิมพ์และอุปกรณ์การพิมพ์ที่ทันสมัยที่สุดในโลก

5.8 อุตสาหกรรมสิ่งทอจากขนสัตว์ : อี้อู เป็นหนึ่งในสองฐานการผลิตที่สำคัญของผลิตภัณฑ์สิ่งทอผ้าขนสัตว์ที่สำคัญในจีน

เมื่อมีการปฏิรูปการพัฒนาเมือง รัฐบาลได้มีนโยบายพัฒนาอี้อูให้เป็น “เมืองแห่งการค้า” โดยใช้หลักการพัฒนาส่งเสริมสินค้าอุตสาหกรรมสินค้าขนาดเล็กและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มีการก่อสร้างเขตพัฒนาเศรษฐกิจ นิคมอุตสาหกรรม ในขณะเดียวกันก็เน้นอุตสาหกรรมการเกษตรแบบดั้งเดิมให้มีความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงโครงการเกษตรเชิงนิเวศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การนำเข้าและส่งออก

ในปี 2553 มูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้าของเมืองอี้อูมีมูลค่ารวม 3,120 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.7 จากปีที่แล้ว โดยแบ่งเป็นมูลค่าการส่งออกเท่ากับ 2,860 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.1 และมูลค่าการนำเข้า 260 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.2

งานแสดงสินค้าเมืองอี้อู

อี้อูเป็นหนึ่งในเมืองที่มีศักยภาพทางด้านงานแสดงสินค้ามากที่สุดของประเทศจีน จัดงานแสดงสินค้าใหญ่เล็กประมาณ 128 ครั้งต่อปี ปัจจุบัน มี 4 งานแสดงสินค้าระดับชาติจัดขึ้นที่เมืองอี้อูดังนี้

1. งานแสดงสินค้า China Yiwu International Commodities Fair เป็นงานแสดงสินค้าอุปโภคบริโภคระหว่างประเทศ และเป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จัดประจำทุกปีระหว่างวันที่ 21-25 ตุลาคม

2. งานแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวจีนChina International Tourist Commodities Fair จัดประจำที่เมืองอี้อูตั้งแต่ปี 2552 ประกอบด้วยเทศกาลสินค้าท่องเที่ยว การจัดกิจกรรมต่างๆ การประกวดการออกแบบสินค้าท่องเที่ยว งานสัมมนาการพัฒนาการท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเป็นต้น จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 ตุลาคม

3. งานแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ป่าไม้จีนChina Yiwu (International) Forest Products Fair งานแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ป่าไม้จีนจัดเป็นประจำที่เมืองอี้อูโดยกรมป่าไม้แห่งประเทศจีน จะจัดขึ้นในช่วงปลายปีของทุกปี

4. งานแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมและศิลปะอี้อู China Yiwu Stationary and Arts Trade Fair จัดขึ้น ณ เมืองอี้อู โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม และเป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด จะจัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี

เมืองอี้อูมีระบบงานแสดงสินค้าที่ทันสมัยครบวงจร สามารถตอบสนองกับความต้องการของการค้าระดับต่างๆ มีสถานที่เหมาะสมสำหรับจัดงานแสดงสินค้าและการประชุมที่สำคัญ 3 แห่งดังนี้

ศูนย์การประชุมและการแสดงสินค้านานาชาติเหมยหู

เป็นสมาชิกของสมาคมอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าแห่งโลกหรือยูเอ็ฟไอ มีพื้นที่ภายใน 46,500 ตารางเมตร (สามารถตั้ง 1,500 คูหา) และพื้รที่ภายนอก 6 หมื่นตารางเมตร(สามารถตั้ง 3000 คูหา)

ศูนย์การแสดงสินค้านานาชาติอี้อู

ลงทุน 1,800 ล้านหยวน มีพื้นที่ภายใน 3 แสนตารางเมตร เปิดใช้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2552 สามารถจัด 5,326 คูหา ศูนย์การประชุมนานาชาติอี้อูที่ลงทุน 700 ล้านหยวนมีเนื้อที่ภายใน 8,000 ตารางเมตร

ศูนย์การประชุมนานาชาติอี้อู

กำลังดำเนินการก่อสร้าง จะรับบริการกิจกรรมทางรัฐบาลระดับสูง กิจกรรมธุรกิจขนาดใหญ่ และการประชุมขนาดใหญ่

ปัจจุบันนี้ เมืองอี้อูจัดงานแสดงสินค้าเฉพาะทางและประชุมระดับสูงประมาณ 80 ครั้งต่อปี ซึ่งได้รับความสนใจจากหน่วยงานรัฐบาล สมาคม และบริษัทต่างๆ

แหล่งซื้อขายและติดต่อธุรกิจนานาชาติเมืองอี้อู (China Yiwu International Trade Mart)

ตลาดการค้าระหว่างประเทศ (เฟส 1)

ก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม 2543 และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ 28 กันยายน 2544 บนเนื้อที่ 1,008 ไร่และพื้นที่ภายในอาคาร 340,000 ตารางเมตร ใช้เงินการลงทุนทั้งสิ้น 700 ล้านหยวน แบ่งออกเป็น 5 ประเภทธุรกิจหลัก : ตลาดผู้ผลิต คลังสินค้าและศูนย์อาหาร มีร้านค้า 9,000 คูหา และองค์กรธุรกิจมากกว่า 10,500 องค์กรธุรกิจ ชั้น 1 สินค้าประเภทดอกไม้และของเล่น ชั้น 2 ประเภทเครื่องประดับ ศิลปะและงานประดิษฐ์ ชั้น 3 ศูนย์ร้านผู้ผลิตและชั้น 4 และศูนย์จัดหาข้อมูลสำหรับ บริษัทต่างประเทศ

ตลาดการค้าระหว่างประเทศ (เฟส 2)

เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ 22 ตุลาคม 2547 บนเนื้อที่ 1,159.2 ไร่และพื้นที่ภายในอาคาร 600,000 ตารางเมตร มีร้านค้า 8,000 คูหาและองค์การธุรกิจกว่า 10,000 องค์กร ชั้น 1 สินค้าประเภท กระเป๋า ร่มและเสื้อกันฝน ชั้น 2 ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์เกี่ยวกับเครื่องใช้ภายในบ้าน อุปกรณ์ประดับยนต์ ชั้น 3 ประเภท เครื่องครัว สุขภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก อุปกรณ์อิเล็อิเล็กทรอนิกส์ นาฬิกา ชั้น 4 ศูนย์กลางสำหรับผู้ผลิตและธุรกิจอื่น ๆ ชั้น 5 ศูนย์บริการการค้าต่างประเทศ ภายในชั้น 2-3 ของห้องโถงกลางมีศูนย์ท่องเที่ยวและแหล่งช้อปปิ้งและพิพิธภัณฑ์ประวัติสินค้าขนาดเล็กของจีน นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกรวมถึงสำนักอุตสาหกรรมและพาณิชย สำนักภาษี สถานีตำรวจ ธนาคาร ร้านอาหาร ไปรษณีย์ โทรคมนาคมและฝ่ายการทำงานอื่น ๆ โรงแรมสี่ดาว ตะวันออกและตะวันตก มีรถรับส่งชมรอบตลาด ในปี 2548 ตลาดแห่งนี้เมืองผ่านการรับรองคุณภาพการจัดการระบบ ISO9001 การรับรองมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO1400

ตลาดการค้าระหว่างประเทศ (เฟส 3)

มีพื้นที่ภายในอาคาร 460,000 ตารางเมตร มีร้านค้า 7,000 คูหาชั้น 1-3 มีพื้นที่ 80-100 ตารางเมตรมีร้านค้า 600 คูหา ชั้น 4-5 ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม, กีฬา, ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง, แว่นตา, ซิป เป็นต้น ตลาดแห่งนี้เป็นศูนย์กลางอุปกรณ์เครื่องปรับอากาศ ระบบบรอดแบนด์ TV บริการแบบครบวงจรรวมทั้งการขนส่งที่ทันสมัย ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริการการเงิน, ที่พัก, อาหารและความบันเทิงต่าง ๆ

ตลาดการค้าระหว่างประเทศ (เฟส 4)

ก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม 2551 และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ 21 ตุลาคม 2552 พื้นที่ภายในอาคาร 108,000 ตารางเมตร มีร้านค้ากว่า 16,000 คูหา ชั้น 1-2 เป็นสินค้าใช้ประจำวัน ชั้น 3 สินค้าประเภทรองเท้า เข็มขัด ชั้น 4 สินค้าประเภทชุดชั้นใน นอกจากนี้ยังมีบริการต่างๆ เช่นธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โลจิติกส์ แหล่งบันเทิง เช่นโรงภาพยนตร์ 4 มิติ ตลาดการค้าระหว่างประเทศออกแบบด้วยระบบเทคโนโลยีชั้นสูง ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ระบบโทรทัศน์ LCD พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นตลาดขายส่งที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นสากลที่สุดของจีน

ตลาดการค้าระหว่างประเทศ (เฟส 5)

เป็นศูนย์จัดแสดงสินค้าแห่งใหม่สำหรับสินค้านานาชาติจากต่างประเทศทั่วโลก รัฐบาลเมืองอี้อูมีนโยบายเชิญหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของไทยไปจัดตั้งศูนย์แสดงสินค้าไทยในเมืองอี้อูโดยรองนายกเทศมนตรี Mr. Ji Jin Pu ได้แนะนำและเชิญชวนรัฐบาลไทยและ เอกชนไทย เข้าร่วมจัดทำศูนย์แสดงสินค้าไทยภายในอาคารแสดงและขายส่งสินค้านำเข้าจากต่างประเทศอาคารใหม่ ณ ย่านตลาดขายส่งสินค้าเบ็ดเตล็ด China Yiwu International Trade Mart เฟส ที่ 5 และเปิดดำเนินกิจการไปแล้วในเดือน เมษายน 2554 โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจากหลายๆประเทศทั่วโลกสนใจและเข้ามาเปิดแสดงสินค้าในศูนย์แสดงสินค้าดังกล่าวรวมทั้งสินค้าไทยโดยผู้ประกอบการจีนได้นำสินค้าไทย ได้แก่ สินค้าประเภทของใช้ของตกแต่งบ้านมาจัดแสดงในอาคารดังกล่าว

ตลาดขายส่งสินค้าเกษตร (Yiwu Agricultural Trade City)

ตลาดขายส่งสินค้าเกษตร “หนงเม่าเฉิง”ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของอี้อู ติดกับทางด่วนเชื่อมเมืองหางโจว เป็นตลาดขายส่งสินค้าเกษตรแปรรูประดับประเทศ บริหารและจัดการโดยบริษัท Zhejiang Yiwu Agricultural Economic Development Co.,Ltd ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีรัฐบาลจีนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และเป็นบริษัทในเครือของบริษัท Hengda Development Co.,ltd ผู้บริหารและจัดการตลาดขายส่งสินค้าเบ็ดเตล็ดเมืองอี้อู ตลาดขายส่งสินค้าเกษตรแปรรูป “หนงเม่าเฉิง” ได้รับรางวัลและการยกย่องจากหลายสถาบันเช่น “บริษัทดำเนินธุรกิจด้านการเกษตรเชิงการผลิตล้ำหน้าระดับประเทศ” “ตลาดขายส่งที่ได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงเกษตรแห่งประเทศจีน” “ตลาดขายส่งแห่งเมืองเจ้อเจียง” เป็นต้น

ตลาดขายส่งสินค้าเกษตร “หนงเม่าเฉิง” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 450,000 ตารางเมตร พื้นที่ทำการค้า 280,000 ตารางเมตร ลงทุนกว่า 700 ล้านหยวน เป็นศูนย์กลางรวบรวมและกระจายสินค้าเกษตรในพื้นที่ภาคตะวันออกของจีน แบ่งเป็นตลาดขายส่งหลายๆแห่ง แยกตลาดตามประเภทเช่นตลาดขายส่งสินค้าอาหาร ผลไม้ ผัก น้ำมันธัญพืช ดอกไม้ เนื้อสัตว์ น้ำตาล มีผู้ทำการค้าในตลาดกว่า 3,000 ราย ตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินธุรกิจเมื่อปี 2539 การค้าประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เครือข่ายครอบคุลมทั่วประเทศจีน เมื่อปี 2550 มูลค่าการซื้อขายในตลาดมีมากถึง 2,330 ล้านหยวน และเมื่อรวมตลาดขายส่งสินค้าอาหารเข้าด้วยกันเมื่อปี 2551 ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายในตลาดขายส่งสินค้าเกษตรหนงเม่าเฉิง เมื่อปี 2552 มียอดทะลุ 7,000 ล้านหยวน

ตลาดขายส่งสินค้าอาหาร เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของ ตลาดขายส่งสินค้าเกษตรหนงเม่าเฉิง ตลาดขายส่งสินค้าอาหารมีเนื้อที่ 33,000 ตารางเมตร พื้นที่สิ่งปลูกสร้าง 148,000 ตารางเมตร ลงทุนกว่า 280 ล้านหยวน พื้นที่ชั้น 1 และ 2 ของตัวอาคารมีพื้นที่ใช้สอยรวมกัน 58,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นร้านค้า 2,127 ร้านค้า เริ่มเปิดให้เช่าและดำเนินธุรกิจเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ.2008 สินค้าที่จำหน่ายภายในตลาดประกอบด้วย อาหารแปรรูป ผลไม้แห้ง โสม เขากวาง สมุนไพรบำรุงร่างกาย สุรา อาหารกระป๋อง เครื่องดื่ม น้ำตาล เครื่องปรุง น้ำมัน ใบชา และสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป แต่ละวันมีผู้ซื้อขายในตลาดเฉลี่ย 20,000 คน มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งปีราว 4,500 ล้านหยวน มีสินค้าจำหน่ายไปยังทั่วทุกเมืองของประเทศจีน รวมถึงต่างประเทศในแถบเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา และเป็นศูนย์กระจายลำไยอบแห้งของไทยที่ใหญ่ที่สุดในจีน ประมาณปีละ 30,000-40,000 ตัน

ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าพิเศษ

ตั้งอยู่บนพื้นที่ชั้น 3 ของตลาดขายส่งสินค้าเกษตรแปรรูปหนงเม่าเฉิง โดยเมื่อกุมภาพันธ์ 2552 ผู้บริหารของตลาดขายส่งสินค้าเกษตรแปรรูป หนงเม่าเฉิง ได้ทำบันทึกขออนุมัติเห็นชอบจากรัฐบาลเมืองอี้อู ในการขยายพื้นที่ทำการชั้น 3 ซึ่งเป็นพื้นที่เปล่าสร้างเป็นศูนย์ขายส่งสินค้าโดดเด่นจากมณฑลต่างๆ รวมถึงศูนย์ขายส่งสินค้าจากประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสินค้าจากประเทศไทย พื้นที่รวม 28,000 ตารางเมตร และได้มีผู้ประกอบการจีนเข้ามาจัดตั้งศูนย์ขายส่งสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหารไทย

ศูนย์ขายส่งสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหารไทย

เปิดทดลองกิจการเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2553 ตั้งอยู่ที่เลขที่ No.0605, 3/F Yiwu Agricultural Trade City New Wholesale Food Market, Yiwu City ,Zhejiang Provine ขนาดพื้นที่ประมาณ 500 ตรม.บริหารโดย Yiwu Agricultural Trade City Foreign Trade Co.,Ltd., Mr.Gong Yong Jun, General manager Mobile : 0086 13325898311/ 15880217886 Fax:86 579 85556047Email: yiwutradecity@yahoo.cn

ผู้จัดการทั่วไปของศูนย์ดังกล่าวกำลังร่วมมือกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปไทยในการนำสินค้าอาหารสำเร็จรูปชนิดต่างๆ ของผู้ประกอบการไทยเข้ามาจัดแสดงและจำหน่ายอีกทั้งได้ร่วมมือกับสถานกงสุลไทย และสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน อย่างใกล้ชิด โดยได้ทำการนัดหมายผู้ประกอบการไทยที่สนใจจะทำธุรกิจร่วมกับศูนย์ดังกล่าว สินค้าอาหารที่มีศักยภาพในการจำหน่าย ได้แก่ ผลไม้สด ผลไม้กระป๋อง เครื่องดื่มกระป๋อง ผลไม้แห้ง ผลไม้เชื่อม แช่อิ่ม ข้าวหอมมะลิ เครื่องปรุง อาหารแช่แข็ง อาหารทะเลแช่แข็ง ขนมขบเคี้ยว

นอกจากนี้แล้วยังมีตลาดอื่นๆ ที่จำหน่ายสินค้าเฉพาะอย่าง ได้แก่

ตลาดหวงหยวน (Huangyuan Market)

ตลาดหวงหยวน (Huangyuan Market) เปิดบริการเมื่อปี 2535 เป็นตลาดระดับ 3 ดาว ประกอบด้วยร้านค้าจำนวน 16,000 ร้าน บนพื้นที่ 160,000 ตารางเมตร ค้าขายสินค้าต่างๆ กว่า 100,000 รายการ ซึ่งประกอบด้วย ฮาร์ดแวร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า นาฬิกา เข็ม ด้าย ซิป เครื่องเขียน และสินค้าในชีวิตประจำวัน เช่น กระเป๋า และชุดกันฝน เป็นต้น

ตลาดปินหวาง (Binwang Market)

ตลาดปินหวาง (Binwang Market) เปิดบริการเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2535 ตั้งอยู่ที่ 158 ถนนปินหวาง ครอบคลุมพื้นที่ใช้สอย 320,000 ตารางเมตร ประกอบห้าเขตการค้า และศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ กว่า 9,000 คูหา แบ่งตามประเภทสินค้า 5 โซน ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรวม 20,000 ราย ครอบคลุมสินค้ากว่า 16 อุตสาหกรรม ตลาดนี้เน้นสินค้าประเภทสิ่งทอ เช่น เนคไท ชุดชั้นใน ผ้าเช็ดตัว เครื่องนอน ส่วนประกอบอาหาร และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

ตลาดเครื่องสำอางค์

ตลาดเครื่องสำอางค์ ตั้งอยู่ที่ 238 ถนนปินหวัง ใกล้กับสถานีรถไฟและสถานีขนส่ง อี้อู มีพื่นที่ 15,000 ตารางเมตร ร้านค้ากว่า 300 ร้าน เป็นตลาดเครื่องสำอางค์ ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน

และอี้อูยังมีถนนที่เป็นตลาดสินค้าต่างๆ เช่น ถนนซิป ถนนเครื่องเขียน ถนนพลาสติก ถนนดอกไม้ ถนนเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เป็นต้น การค้าระหว่างเมืองอี้อูและประเทศไทย

ในปี 2553 การค้าระหว่างเมืองอี้อูและประเทศไทยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 20.33 ล้านเหรียญเหรียญสหรัฐฯแบ่งเป็นการส่งออก 18.62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 148.33 การนำเข้าคิดเป็นมูลค่า 1.71 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับปีที่แล้วลดลงร้อยละ 22.03 สินค้าที่เมืองอี้อูส่งออกประเทศไทยมากที่สุดได้แก่ เสื้อผ้า เครื่องจักร สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าโลหะ เคมีภัณฑ์ เครื่องหนัง สินค้าพลสติกส์ เป็นต้น สินค้าที่เมืองอี้อูนำเข้าจากประเทศไทยได้แก่ ยางพรา พลาสติกส์ สิ่งทอ เคมีภัณฑ์ สินค้าอาหาร กระดาษ เป็นต้น

การจัดกิจกรรมความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างกระทรวงพาณิชย์และเมืองอี้อู

วันที่ 2 กันยายน 2552 ที่ปรึกษากระทรวงพาณิชย์ นางเบญจวรรณ รัตนประยูร เดินทางมาเยี่ยมชมตลาดขายส่งสินค้าอาหาร หนงเม่าเฉิง เมืองอี้อู มณฑลเจ้อเจียงเนื่องจากได้รับทราบว่ามีนักธุรกิจชาวอี้อูได้แก่ Mr.Gong Ying Jun บริษัท Yiwu Agricultural Trade City Foreign Trade Co., Ltd มีความประสงค์ลงทุนเช่าพื้นที่ตลาดขายส่งสินค้าอาหาร หนงเม่าเฉิง เพื่อดำเนินกิจการศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าอาหารและสินค้าเกาตรแปรรูปของไทย เนื่องจากในช่วงดังกล่าว ตลาดขายส่งสินค้าอาหารหนงเม่าเฉิงมีแผนที่จะตกแต่งพื้นที่ชั้น 3 ซึ่งขณะนั้นยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่า เป็นศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าที่โดดเด่น ของมณฑลต่างๆในจีน รวมถึงสินค้าจากต่างประเทศ โดยได้เชื้อเชิญให้หน่วยงานไทยมาร่วมเปิดศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าไทยในพื้นที่ดังกล่าวโดยในเบื้องต้นได้ให้สิทธิพิเศษปลอดค่าเช่าในช่วงทดลองตลาดเป็นเวลา 3 เดือน

วันที่ 13 กันยายน 2552 ผู้จัดการศูนย์แสดงสินค้าอาหารและเกษตรแปรรูปไทย ณ เมืองอี้อู เข้าร่วมจัดกิจกรรมแนะนำศูนย์ฯ ภายในงาน Logistic Fair ที่ กรมฯเป็นเจ้าภาพ

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2552 ผู้ตรวจราชการ กระทรวงพาณิชย์ นางปราณี ภาษีผล และ ที่ปรึกษากระทรวงพาณิชย์ นางเบญจวรรณ รัตนประยูร นำคณะตัวแทนพาณิชย์จังหวัด 25 จังหวัดมาเยี่ยมชมและนำสินค้าไทยมาจัดกิจกรรม Business Matching ณ ตลาดขายส่งสินค้าอาหารหนงเม่าเฉิง

เดือนพฤษภาคม 2553 ศูนย์ขายส่งสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหารไทยโดย Mr.Gong Ying Jun ผู้จัดการศูนย์เดินทางไปแนะนำศูนย์ฯ ภายในงาน THAIFEX 2010

ผู้บริหารระดับสูงของ ธ.ก.ส.นำคณะมาเยี่ยมชมศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าอาหารไทย ณ ตลาดขายส่งอาหารหนงเม่าเฉิง และมีหารือว่าจะเช่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าของลูกค้า ธ.ก.ส. ซึ่งล่าสุดทางคณะกรรมการฯ ได้เห็นชอบที่จะเช่าพื้นที่จัดตั้งศูนย์แสดงสินค้าไทยที่อี้อู และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดหาพื้นที่สำหรับการจัดตั้ง

วันที่ 6-7 มิถุนายน 2553 ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ นางปราณี ภาษีผล เป็นหัวหน้านำคณะพาณิชย์จังหวัดและหอการค้าจังหวัด 5 จังหวัด คือตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ และมีการลงนามความร่วมมือระหว่างหอการค้าจังหวัดกับ CCPIT เมืองอี้อู รวมทั้งการนำสินค้าไทยมาจัดกิจกรรม Business Matching ณ ตลาดขายส่งสินค้าอาหารหนงเม่าเฉิง

วันที่ 11 ตุลาคม 2553 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร เป็นหัวหน้านำคณะที่ปรึกษาและเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เข้าพบและหารือกับ รองนายกเทศมนตรีเมืองอี้อู Mr. Ji Jin Pu และเยี่ยมชมตลาดขายส่งสินค้าเบ็ดเตล็ด และศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าอาหารไทย ณ ตลาดขายส่งอาหารหนงเม่าเฉิง

วันที่ 5 มกราคม 2554 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอลงกรณ์ พลบุตรเดินทางมาร่วมงานเปิดตัวโครงการ China City Complex ที่นักลงทุนชาวจีนไปลงทุนที่ประเทศไทย โดยมีรองนายกเทศมนตรีเมืองอี้อู Mr.Ji Jin Pu ให้การเลี้ยงต้อนรับอาหารกลางวัน

วันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2554 อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออกกระทรวงพาณิชย์ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาคนำคณะเดินทางสำรวจตลาดอี้อูและเยี่ยมศูนย์แสดงสินค้าเมืองอี้อู

วันที่ 24-28 พฤษภาคม 2554 ศูนย์ขายส่งสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหารไทยโดย Mr.Gong Ying Jun ผู้จัดการศูนย์เดินทางไปแนะนำศูนย์ฯ ภายในงาน THAIFEX 2010 และพบปะหารือกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปไทยในการนำสินค้ามาจัดจำหน่ายภายในศูนย์ และเมื่อวันที่ 5-6 มิถุนายน 2554 รองนายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปไทยได้เดินทางไปเมืองอี้อูเพื่อเยี่ยมชมและเจรจาหารือการนำสินค้าอาหารสำเร็จรูปไปจัดแสดงในศูนย์

วันที่ 15 มิถุนายน 2554 รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก นางมาลี โชคล้ำเลิศ นำคณะผู้ประกอบการโลจิสติกส์เยือนเมืองอี้อูเพื่อพบปะหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นทางด้านการตลาดและโลจิสติกส์ ตลอดจนเยี่ยมชมศูนย์แสดงสินค้าต่างๆ ของอี้อู

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน

ที่มา: http://www.depthai.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ