รายงานสถานการณ์ข้าวในจีน

ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรของจีน รายงานว่า สืบเนื่องจากหลายพื้นที่ใน 8 มณฑลที่มีการปลูกข้าวที่สำคัญที่สุดของจีน (โดยเฉพาะมณฑลหูหนาน เจียงซี) รวมพื้นที่กว่า 1.13 ล้านเฮกเตอร์ ได้รับความเสียหายเนื่องจากประสบภัยน้ำท่วมและศัตรูพืชอยู่ในขณะนี้ ส่งผลต่อการผลิตข้าวของทั้งประเทศลดลง 10% โดยเฉพาะในเขตปลูกข้าวที่สำคัญที่สุดของจีนอาจมีผลผลิตลดลงถึง 20% รวมถึงการสำรองข้าวที่ไม่พอเพียง อาจส่งผลถึงการเก็งกำไรในตลาดข้าวของจีน จะส่งผลให้ข้าวในประเทศนั้นมีราคาสูงขึ้นในอนาคต

นาง Ding Sunya นักวิเคราะห์จาก Wanda Futures Co.,Ltd. กล่าวว่า ปัจจุบัน สต็อกข้าวของรัฐบาลยังคงเพียงพอต่อการบริโภค (คิดเป็นสัดส่วนประมาณเกือบครึ่งหนึ่งของสต็อกข้าวของโลกที่ประมาณ 40-50 ล้านตัน) แต่หากในภูมิภาคที่ปลูกข้าวของจีนโดยเฉพาะสายพันธุ์อินดิคา (Indica) ยังประสบภัยธรรมชาติต่อเนื่องต่อไป อาทิ ภัยแล้ง ก็อาจประสบความขาดแคลนข้าวในประเทศ และอาจต้องนำข้าวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น

ในอนาคต ข้าวไทยจึงมีโอกาสของที่จะเข้ามาทดแทนในส่วนที่จีนกำลังประสบปัญหา ในแต่ละปีประเทศจีนมีความต้องการบริโภคข้าวปีละประมาณ 135 ล้านตัน ซึ่งใกล้เคียงกับปริมาณผลผลิตข้าวที่จีนผลิตเองได้

ข้อมูลข้างต้นสรุปได้ว่า จีนกำลังจะเผชิญภาวะผลิตผลธัญญพืชไม่เพียงพอต่อการบริโภค คาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ข้าวไทยจะมีโอกาสในตลาดจีนเพิ่มขึ้นได้ในอนาคตแน่นอน

หลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่ของประเทศไทยได้ประกาศนโยบายจำนำข้าว

นโยบายรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลที่ตั้งราคาข้าวเปลือกตันละ 15,000 บาท เป็นการกำหนดราคาเกินกว่าราคาตลาดปัจจุบัน ที่อยู่ระดับตันละ 10,000 บาท การรับจำนำข้าวเปลือกในราคาสูงกว่าราคาตลาด ทำให้ราคาข้าวสารในประเทศและราคาส่งออกสูงขึ้น ทำให้ปริมาณการส่งออกลดลง 2.9% ส่วนแบ่งการส่งออกของไทยในตลาดข้าวโลกลดลง จะส่งผลให้การส่งออกของไทยลดลง เพราะผู้ซื้อจะไม่ตอบรับราคาข้าวที่สูงขึ้นโดยไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม ผู้ซื้อจะหันไปซื้อจากประเทศอื่นที่ไม่ได้ปรับราคาสูงขึ้น จะส่งผลให้ไทยเสียตลาด ประกอบกับภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ข้าวเสียหายมากเป็นประวัติการณ์ถึง 8.41 ล้านไร่ ซึ่งน่าจะส่งผลให้ผลผลิตข้าวเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 ล้านตัน หรือกว่า 10% ของผลผลิตข้าวทั้งปี (ยังไม่รวมความเสียหายต่อสต็อกข้าวเปลือกที่อยู่ในโกดัง/ยุ้งฉาง) นักวิชาการของจีน กล่าวว่าไทยเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวเป็นอันดับหนึ่งของโลก เหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้ราคาข้าวของไทยปรับตัวสูงขึ้น และมีผลต่อเนื่องไปยังราคาข้าวในตลาดโลก ผลสำรวจบอกว่า ราคาข้าวไทยในช่วงเวลานี้ยังคงไม่มีการปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด แต่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในเวลาถัดไป

สคต.เซี่ยเหมินสอบถามไปยัง ผู้ประกอบการที่นำเข้าสินค้าข้าวจากประเทศไทย ทราบว่า

บริษัทระงับการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทย เนื่องจากผู้ประกอบการในไทยไม่สามารถส่งสินค้าตามออเดอร์ได้เนื่องจากเส้นทางโลจิสติกส์ขาดตอนโรงงานที่ไทยหยุดผลิตชั่วคราว ปัญหาน้ำท่วมทำให้เกิดอุปสรรคในการขนส่งสินค้า/วัตถุดิบ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งมอบสินค้าและการส่งออกในระยะ 1-2 เดือนนี้ ขณะนี้บริษัทต้องนำข้าวที่ในสต็อกออกมาจำหน่ายแก่ผู้บริโภคในประเทศจีน

ข้อมูลโดย สคต.เซี่ยเหมิน

ที่มา: http://www.depthai.go.th